ในช่วงเช้าวันอังคาร คู่เงิน USDJPY ยังคงปรับตัวลง หลังจากที่ถอยลงจากระดับสูงสุดในรอบเจ็ดสัปดาห์ คู่เงินเยนพยายามรักษาระดับการดึงกลับของวันก่อนหน้าจากเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เอกซ์โพเนนเชียล 100 บาร์ (EMA) ขณะที่นักลงทุนรอติดตามเหตุการณ์สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงรายละเอียดการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และการรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนกันยายน
แม้ตลาดจะอยู่ในภาวะ consolidation ก่อนการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ ประกอบกับการถอยกลับจากเส้น 100-EMA ของคู่เงินเยน แต่การที่คู่เงิน USDJPY ยังคงอยู่เหนือเส้น 50-EMA ร่วมกับสัญญาณขาขึ้นของ MACD และสัญญาณ RSI (14) ที่เป็นบวก ยังบ่งชี้ว่าแนวโน้มโดยรวมยังคงเป็นช่วงขาขึ้น
คู่เงิน USDJPY กำลังเผชิญกับแนวรับสำคัญที่บริเวณ 147.35-20 แต่ระดับราคาสำคัญที่ยังต้องจับตามองคือ ระดับเส้น 50-EMA ซึ่งอยู่ใกล้กับระดับ 146.40 หากราคาร่วงลงทะลุต่ำกว่าระดับดังกล่าว ก็อาจทำให้ราคาปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วไปที่ระดับราคาที่ประมาณ 145.00 และอาจลดต่ำลงไปถึงระดับต่ำสุดของช่วงเดือนกันยายนที่ราวๆ 141.65 ได้ โดยระดับราคาที่บริเวณ 140.45-20 และระดับราคาที่ประมาณ 140.00 อาจเป็นแนวต้านที่แข็งแกร่งสำหรับแรงเทขายด้วยเช่นกัน
ในอีกทางหนึ่ง แม้ว่าราคาจะสามารถทะลุผ่านเส้น 100-EMA ที่ประมาณ 148.75 ไปได้ แต่สิ่งนี้ก็ยังไม่เพียงพอสำหรับการกลับมาควบคุมทิศทางตลาดของแรงเทซื้อ ขณะที่ แนวต้านจากเส้น 200-EMA และระดับสูงสุดในช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่ประมาณ 149.40 จะเป็นระดับที่สำคัญที่ต้องจับตามอง หากคู่เงิน USDJPY สามารถรักษาระดับอยู่เหนือ 149.40 ได้ ระดับราคาที่ราวๆ 150.00 และระดับสูงสุดในช่วงต้นปี 2024 ที่ประมาณ 150.90 จะเป็นเป้าหมายสำคัญสำหรับช่วงแนวโน้มขาขึ้น
แนวโน้มทางเทคนิคของคู่เงิน USDJPY เป็นไปในทิศทางขาขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินที่แข็งกร้าวของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) หลังจากมีความคิดเห็นล่าสุดจาก Jerome Powell ประธาน FOMC และการรายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น รวมไปถึงความเป็นไปได้ที่อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯจะอ่อนตัวลง และความท้าทายของ Powell ในการรักษาท่าทีสนับสนุนนโยบายการเงินที่เข้มงวด ล้วนอาจดึงดูดแรงเทขายคู่เงินเยน