คู่เงิน EURUSD ฟื้นตัวกลับขึ้นมาหลังจากร่วงลงอย่างหนัก ขณะที่ นักลงทุนกำลังรอการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนและการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อประจำเดือนสิงหาคม การดีดตัวครั้งนี้เป็นการพลิกกลับจากการปรับตัวลงในวันก่อนหน้าจากระดับสูงสุดของปี 2024 และยังเป็นการเคลื่อนไหวหลุดออกจากฐานของรูปแบบการกลับตัวของกราฟขาลงอายุ 4 สัปดาห์ หรือที่เรียกว่า “rising wedge” ในขณะเดียวกัน อินดิเคเตอร์ RSI บ่งชี้ว่าราคาอาจปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง แต่ MACD กลับส่งสัญญาณว่าแรงเทซื้อกำลังอ่อนตัวลง เพื่อให้แรงเทขายสามารถเข้าควบคุมตลาด ระดับราคาจำเป็นต้องทำลายเส้นด้านล่างของรูปแบบการกลับตัวของกราฟขาลงข้างต้นที่ระดับประมาณ 1.0960 และแนวรับที่เส้น 50-SMA ที่ราวๆ 1.0946 หากประสบความสำเร็จ แรงเทขายอาจเผชิญกับความท้าทายจากแนวรับที่เส้น 200-SMA และเส้นแนวโน้มขาขึ้นที่อยู่ใกล้กับระดับ 1.0875 และ 1.0830 ตามลำดับ หลังจากนั้น ราคาอาจร่วงลงไปสู่เป้าหมายเชิงทฤษฎีของรูปแบบการกลับตัวของกราฟขาลงที่ประมาณ 1.0700 ต่อไป
ในทางกลับกัน ระดับราคาที่ราวๆ 1.1000 กำลังดึงดูดแรงเทซื้อ โดยมีระดับสูงสุดล่าสุดที่ประมาณ 1.1050 เป็นเป้าหมาย เส้นด้านบนของรูปแบบการกลับตัวของกราฟขาลงข้างต้นที่บริเวณ 1.1055 อาจทำหน้าที่เป็นแนวต้านด้วยเช่นกัน โดยแนวต้านลำดับถัดไป ได้แก่ ระดับสูงสุดของเดือนธันวาคมและเดือนกรกฎาคมปี 2023 ที่ราวๆ 1.1140 และ 1.1275 และระดับราคาที่ประมาณ 1.1200 อาจเป็นจุดพักตัวสำหรับแรงเทซื้อ
สรุปภาพรวม คู่เงิน EURUSD ยังคงอยู่ในรูปแบบกราฟขาลงและยังไม่มีแรงผลักดันที่ชัดเจนก่อนการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยแรงเทขายจำเป็นต้องได้รับการยืนยันจากทั้งปัจจัยทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานเพื่อเข้าควบคุมตลาด