GBPUSD: กำลังเข้าใกล้แนวรับสำคัญ ขณะที่ตลาดกำลังรอการรายงานข้อมูลสำคัญจากสหราชอาณาจักร
คู่เงิน GBPUSD เข้าใกล้แนวรับอายุสามเดือน เนื่องจากแรงกดดันที่เพิ่มสูงขึ้นก่อนการรายงานข้อมูลการจ้างงานและข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักร รวมไปถึงตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐฯที่คาดการณ์ว่าจะมีการประกาศออกมาในสัปดาห์นี้
หมีปอนด์สเตอร์ลิงยังแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง
แม้ว่าจะมีระดับทางเทคนิคหลายระดับที่ทดสอบแรงเทขายของคู่เงิน GBPUSD แต่สัญญาณที่อาจเกิดขึ้นของช่วงแนวโน้มขาลงที่ปรากฏระหว่างเส้น 100-EMA และเส้น 200-EMA ยังทำให้ช่วงแนวโน้มขาลงมีแนวโน้มเป็นบวก โดยแนวโน้มขาขึ้นที่อ่อนตัวลงของ MACD และสัญญาณ RSI ที่คงที่ก็ช่วยสนับสนุนช่วงแนวโน้มขาลงด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ การร่วงทะลุลงอย่างต่อเนื่องของระดับราคาที่ต่ำกว่าเส้นแนวรับที่ลาดขึ้นตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม ซึ่งปัจจุบันทำหน้าที่เป็นแนวต้าน ยังเป็นแรงหนุนสำหรับช่วงแนวโน้มขาลงอีกด้วย
ระดับทางเทคนิคสำคัญที่ควรจับตามอง
ขณะนี้คู่เงิน GBPUSD รักษาระดับอยู่ในโซนแนวรับอายุสามเดือนที่ประมาณ 1.3040-30 โดยอยู่เหนือระดับราคาที่ราวๆ 1.3000 หากคู่เงินเคเบิลร่วงลงต่ำกว่าระดับ 1.3000 อาจเกิดการปรับลดลงอย่างรวดเร็วจนถึงจุดสูงสุดในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่แกว่งตัวอยู่ที่ประมาณ 1.2940 และหลังจากนั้นอาจไปถึงระดับสูงสุดของช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่บริเวณ 1.2870-60 ได้ ในกรณีที่ปอนด์สเตอร์ลิงยังคงอ่อนตัวลงทะลุระดับ 1.2860 ระดับราคาอาจร่วงลงสู่จุดต่ำสุดของเดือนสิงหาคมที่ประมาณ 1.2665 ได้อย่างง่ายดาย
ในทางกลับกัน การฟื้นตัวของคู่เงิน GBPUSD ยังคงมีความยากลำบากที่ระดับต่ำกว่าเส้น 100-EMA และเส้น 200-EMA ซึ่งปัจจุบันอยู่ใกล้ระดับราคาที่ประมาณ 1.3145 และ 1.3150 โดยแนวต้านแนวนอนอายุเจ็ดสัปดาห์ที่บริเวณ 1.3230-40 และแนวรับก่อนหน้าที่ประมาณ 1.3330 ก็ได้ท้าทายแรงเทซื้อของคู่เงินเคเบิลด้วยเช่นกัน หากช่วงแนวโน้มขาขึ้นสามารถพุ่งสูงขึ้นทะลุระดับ 1.3330 ไปได้ การปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องไปแตะที่ระดับสูงสุดในรอบเดือนที่ราวๆ 1.3435 ก็อาจเป็นไปได้
แรงเทขายยังคงควบคุมตลาด
แม้ว่าแนวรับทางเทคนิคที่แข็งแกร่งกำลังท้าทายช่วงแนวโน้มขาลงของคู่เงิน GBPUSD แต่ท่าทีที่สนับสนุนการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษและการคาดการณ์ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอจากสหราชอาณาจักร ควบคู่ไปกับความเชื่อมั่นในการดำเนินนโยบายการเงินอย่างเข้มงวดจาก Fed ที่เพิ่มมากขึ้น อาจทำให้ช่วงแนวโน้มขาลงยังคงควบคุมทิศทางของตลาดต่อไป นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่กำลังจะมีการรายงานออกมาก็อาจจะสร้างความผันผวนได้บางส่วน ถึงกระนั้น ความเชื่อมั่นเชิงลบยังคงแข็งแกร่ง
