แรงเทซื้อทองคำยังคงต้องเผชิญอุปสรรคมากมาย รวมไปถึงการรายงาน US NFP
แม้กราฟจะมีการแสดงรูปแบบกราฟแท่งเทียน Doji ในวันพฤหัสบดี แต่ราคาทองคำดูเหมือนว่าจะยังคงปรับตัวสูงขึ้นเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน ขณะที่ เทรดเดอร์กำลังรอรายละเอียดการรายงานการจ้างงานของสหรัฐฯประจำเดือนมิถุนายน ด้วยเหตุนี้ XAUUSD จึงสามารถรักษาระดับการ breakout ของเส้นแนวต้านขาลงอายุหนึ่งเดือนในช่วงกลางสัปดาห์ ซึ่งขณะนี้ทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ประมาณ $2,350 ไว้ได้ โดยได้รับการสนับสนุนจากเงื่อนไข RSI ที่มีทิศทางเป็นบวกและสัญญาณ MACD ที่เป็นช่วงขาขึ้น อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้แรงเทซื้อทองคำยังมีความหวังก็คือ ความสามารถของราคาที่ยังคงอยู่เหนือระดับเส้น 50-SMA อย่างไรก็ตาม อุปสรรคของช่วงขาขึ้นที่สำคัญหลายประการ และแนวโน้มของตัวเลขรายงานการจ้างงานของสหรัฐฯที่น่าจะปรับตัวดีขึ้น รวมถึงตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (NFP) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดเศรษฐกิจสำคัญ จะเป็นการทดสอบความเชื่อมั่นเชิงบวกของนักลงทุนในตลาดก่อนที่จะมีการเปิดเผยข้อมูลสำคัญทางเศรษฐกิจนี้
ในบรรดาแนวต้านเหล่านี้ พื้นที่แนวนอนอายุสองสัปดาห์ที่บริเวณ $2,365-68 จะเป็นแนวต้านแรกที่สำคัญของช่วงขาขึ้นของราคาทองคำ ถัดมาบริเวณที่ประกอบด้วยจุดสูงสุดหลายระดับตั้งแต่กลางเดือนเมษายน ใกล้เคียงกับระดับราคาที่ประมาณ $2,387-92 จะเป็นแนวต้านสำคัญก่อนที่จะไปถึงแนวรับแนวนอนอายุสามเดือนที่ราวๆ $2,431-34 ซึ่งเป็นแนวรับสุดท้ายของช่วงแนวโน้มขาลง นอกจากนี้ ระดับราคาที่ประมาณ $2,400 และจุดสูงสุดตลอดกาลที่ทำเครื่องหมายไว้ในเดือนพฤษภาคมที่ราวๆ $2,450 จะเป็นอีกหนึ่งแนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามองด้วยเช่นกัน
ในขณะเดียวกัน แรงเทขายทองคำจำเป็นต้องได้รับการยืนยันจากข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯที่แข็งแกร่ง และการปิดรายวันที่ต่ำกว่าแนวต้านที่เปลี่ยนเป็นแนวรับที่บริเวณ $2,350 หากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ระดับเส้น 50-SMA ที่ราวๆ $2,339 จะดึงดูดความสนใจของช่วงแนวโน้มขาลงระยะสั้นของ XAUUSD ซึ่งถ้าหากราคาทองคำยังคงร่วงลงทะลุระดับราคาที่ $2,339 จะส่งผลให้ราคาจะร่วงลงอย่างรวดเร็วไปยังระดับราคาที่ประมาณ $2,318 ต่อไป แต่การมาบรรจบกันของเส้นแนวโน้มขาขึ้นอายุ 3 เดือนกับระดับ Fibonacci ratio 50% ของช่วงขาขึ้นระหว่างเดือนมีนาคม-เดือนพฤษภาคมที่บริเวณ $2,297-96 จะเป็นอุปสรรคสำคัญต่อแรงเทขายในเวลาต่อมา หากช่วงแนวโน้มขาลงของราคาทองคำสามารถกดราคาทองคำให้ต่ำกว่า $2,296 ได้ จุดต่ำสุดในช่วงต้นเดือนเมษายนที่แกว่งตัวอยู่ที่ประมาณ $2,265 และระดับ Fibonacci ratio 61.8% ที่ราวๆ $2,261 อาจกลายเป็นเป้าหมายต่อไป
สรุปภาพรวม ราคาทองคำยังคงอยู่ในช่วงแนวโน้มขาขึ้นก่อนการรายงานข้อมูลสำคัญทางเศรษฐกิจ แต่ช่วงขาขึ้นของระดับราคายังคงมีจำกัด
