ราคาทองคำแตะระดับสูงสุดตลอดกาลที่ประมาณ $2,570 ในช่วงเช้าวันศุกร์ ขณะที่ยังคงขยายการพุ่งสูงขึ้นทะลุแนวต้านอายุสามสัปดาห์ในวันก่อนหน้า ซึ่งปัจจุบันทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ระดับ $2,525 โดยการพุ่งสูงขึ้นนี้ได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่จากธนาคารกลางสหรัฐฯและแรงผลักดันที่มีต่อแนวโน้มขาขึ้นที่เริ่มตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม
แม้ว่าความหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed จะสนับสนุนราคาทองคำ แต่เส้นแนวต้านอายุแปดสัปดาห์และ RSI (Relative Strength Index) ที่บ่งชี้ถึงแรงเทซื้อที่มากเกินไป กลับแสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่ราคาทองคำจะเกิดการดึงกลับ นอกจากนี้ การดีดตัวของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคและการคาดการณ์เงินเฟ้อใกล้จะมีการเปิดเผยออกมา ก็อาจทำให้แรงเทซื้อทองคำชะลอตัวลงชั่วคราว อย่างไรก็ตาม การพุ่งสูงขึ้นทะลุเหนือแนวต้านของระดับราคา ประกอบกับสัญญาณ MACD ที่เป็นช่วงขาขึ้น ล้วนยังคงทำให้แรงเทซื้อมีความหวัง
เพื่อสนับสนุนให้ราคาทองคำสามารถปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องได้ ราคาทองคำจำเป็นต้องพุ่งสูงขึ้นทะลุเหนือเส้นแนวต้านอายุสองเดือนที่ประมาณ $2,570 ซึ่งถ้าหากทำสำเร็จ ราคาทองคำอาจจะปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วไปสู่ระดับ Fibonacci Extension (FE) 61.8% ของช่วงการเคลื่อนไหวของราคาทองคำตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนกันยายนที่ประมาณ $2,581 หลังจากนั้นระดับราคาจะขยับตัวขึ้นไปที่ระดับราคาที่ราวๆ $2,600 ต่อไป หากราคาทองคำสามารถปรับตัวสูงขึ้นทะลุ $2,600 ไปได้ เป้าหมายต่อไปของระดับราคาอาจเป็นระดับ FE 78.6% และ 100% ซึ่งอยู่ที่ประมาณ $2,610 และ $2,650 ตามลำดับ
หากราคาทองคำเกิดการดึงกลับ เบื้องต้นระดับราคาอาจทดสอบระดับ Fibonacci Extension (FE) 50% และ 38.2% ที่ประมาณ $2,560 and $2,540 นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งแนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ $2,525 ซึ่งถ้าหากราคาทองคำปรับลดลงต่ำกว่าระดับ $2,525 ระดับราคาอาจต้องเผชิญกับความยากลำบากในการยืนอยู่เหนือระดับ $2,500 และ $2,470 ซึ่งทำให้ระดับเหล่านี้ล้วนมีความสำคัญสำหรับการปรับตัวลดลงในอนาคต
คาดว่าแรงเทซื้อทองคำจะยังคงแข็งแกร่ง เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลางรายสำคัญหลายแห่งเช่นเดียวกับธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อย่างไรก็ตาม ราคาอาจมีการปรับตัวลงชั่วคราวก่อนที่จะกลับมาพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง