ราคาทองคำพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบสามเดือนในช่วงต้นวันศุกร์นี้ โดยพุ่งสูงขึ้นเป็นวันที่สี่ติดต่อกัน ท่ามกลางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนค่าลงและความเชื่อมั่นที่ผันผวน อย่างไรก็ตาม สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯร่วงลงอย่างหนักในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาหลังจากที่ Jerome Powell ประธาน Fed ส่งสัญญาณว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยในระยะสั้น และเป็นที่น่าสังเกตว่าการทำลายเส้น 200-day SMA ของ XAUUSD และแนวต้านก่อนหน้าที่ทอดยาวตั้งแต่เดือนพฤษภาคมได้สนับสนุนให้กับราคาทองคำแท่งที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์อีกด้วย ด้วยเหตุนี้ ราคาทองคำจึงพร้อมที่จะแตะแนวต้านแนวนอนอายุสามเดือนที่ราวๆ $1,990 อย่างไรก็ตาม การพุ่งสูงขึ้นผ่านระดับราคาที่ราวๆ $1,990 ดูเหมือนจะเป็นเรื่องยากเนื่องจากเส้น RSI (14) แกว่งตัวอยู่ในบริเวณที่บ่งชี้ถึงแรงเทซื้อที่มากเกินไป ซึ่งบ่งบอกถึงการกลับตัวของระดับราคา แม้ว่าภาวะกระทิงจะสามารถข้ามอุปสรรคที่ราวๆ $1,990 ได้ แต่ระดับราคาที่ประมาณ $2,000 จะทำหน้าที่เป็นฟิลเตอร์เพิ่มเติมของช่วงแนวโน้มขาขึ้นก่อนที่แรงเทซื้อทองคำจะเข้าควบคุมตลาด
อีกทางด้านหนึ่ง แรงเทขายทองคำจะต้องจับตามอง เส้น 200-day SMA และแนวรับที่เปลี่ยนแนวต้านอายุหลายเดือนที่ประมาณ $1,930 และ $1,905 ตามลำดับที่ปรากฏเป็นแนวรับสำคัญระยะสั้นในระหว่างการกลับตัวของราคา หลังจากนั้น ระดับราคาที่คิดเป็นตัวเลขกลมๆที่ $1,900 และจุดต่ำสุดของเดือนสิงหาคมที่ประมาณ $1,885 จะทำหน้าที่เป็นแนวรับสุดท้ายของแรงเทซื้อ XAUUSD ก่อนที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะไปที่ระดับค่า Fibonacci retracement 61.8% ของเดือนพฤศจิกายน 2022 ถึงเดือนพฤษภาคม 2023 ซึ่งมีแนวโน้มสูงขึ้นที่ราวๆ $1,842 ในกรณีที่ช่วงแนวโน้มขาลงรักษาระดับไว้ผ่านระดับราคาที่ราวๆ $1,842 ระดับต่ำสุดในรอบเดือนที่ประมาณ $1,810 และ $1,800 จะถูกจับตามองต่อไป
สรุปภาพรวม ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่ในสภาวะทรงตัว เว้นแต่จะทะลุระดับราคาที่ราวๆ $1,905 อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำนี้น่าจะเริ่มมีการลดลงในอนาคตใกล้ๆนี้