คู่เงิน NZDUSD ร่วงลงกว่า 1.0% ในวันนี้ ซึ่งนับเป็นการเคลื่อนไหวที่รุนแรงที่สุดในกลุ่มสกุลเงินหลัก เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลัก 0.25% ซึ่งตรงกันข้ามกับการคาดการณ์ของตลาดที่คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ไม่เปลี่ยนแปลง ส่งผลให้คู่เงิน NZDUSD ร่วงลงจากระดับสูงสุดในรอบหนึ่งเดือน และไม่สามารถทะลุผ่านระดับแนวต้านสำคัญอย่างเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน (200-SMA) ไปได้
อย่างไรก็ตาม อินดิเคเตอร์ MACD และ RSI ที่มีทิศทางเป็นบวกยังบ่งชี้ว่าแรงเทซื้ออาจยังคงมีแนวโน้มที่ดี ตราบใดที่ราคายังคงอยู่เหนือเส้นแนวรับตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม 2023 ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 0.5885 โดยในระยะสั้น ราคาอาจร่วงลงสู่ระดับ 0.6000 และมีโอกาสที่อาจจะทดสอบแนวรับ Fibonacci 23.6% ที่ราวๆ 0.5920 ได้ ซึ่งการปรับลดลงต่ำกว่าระดับราคาที่บริเวณ 0.5885 อาจผลักดันให้คู่เงิน NZDUSD เคลื่อนตัวไปสู่ระดับต่ำสุดในช่วงปลายปี 2023 ที่ประมาณ 0.5770
สำหรับโอกาสของแรงเทซื้อใหม่ ผู้ซื้อควรรอให้ราคาทะลุผ่านแนวต้านเส้น 200-SMA ที่ประมาณ 0.6085 หากคู่เงิน NZDUSD สามารถทะลุผ่านระดับราคาดังกล่าว เป้าหมายถัดไปอาจเป็นระดับ Fibonacci 61.8% และโซนแนวต้านสำคัญที่บริเวณ 0.6170 และ 0.6220 ตามลำดับ และถ้าหากราคาคงอยู่เหนือระดับ 0.6220 ระดับ Fibonacci 78.6% ที่ประมาณ 0.6275 และเส้นแนวต้านระยะยาวที่ราวๆ 0.6320 อาจเป็นอุปสรรคถัดไปสำหรับช่วงแนวโน้มขาขึ้น
สรุปภาพรวม แม้คู่เงิน NZDUSD อาจปรับตัวลดลงในระยะสั้นเนื่องจากเผชิญกับปัจจัยที่ส่งผลกระทบในเชิงลบ แต่แนวโน้มโดยรวมยังคงเป็นขาขึ้น