Pip
คำนี้ใช้เพื่ออธิบายการเปลี่ยนแปลงของราคาที่น้อยที่สุด โดย pip ของมูลค่าคู่เงิน หรือ สินทรัพย์ใดๆ ก็ตาม จะมีค่าเป็นทศนิยม 4 ตำแหน่งนั่นเอง
ตัวอย่างเช่น: ท่านต้องการเทรดคู่เงิน EUR/USD ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 5.0031 แต่เมื่อราคาเพิ่มขึ้นไปถึงระดับ 5.0036 นั่นหมายความว่า ราคาได้เพิ่มขึ้น 5 pip (นำ 36 - 31 = 5)
Spread
ค่าสเปรด เป็นค่าความแตกต่างระหว่างราคา bid และ ราคา ask โดยยิ่งสเปรดสูงมากเท่าไหร่ โบรกเกอร์ก็จะยิ่งทำรายได้ได้มากเท่านั้น ดังนั้น ท่านจึงควรเลือกเทรดกับโบรกเกอร์ที่มีค่าสเปรดที่ต่ำนั่นเอง
คำศัพท์สำคัญในการเทรด Forex
เอาล่ะครับ เมื่อท่านได้เรียนรู้ศัพท์ forex เบื้องต้นไปแล้ว ได้เวลามาทำความรู้จักกับ คำศัพท์เกี่ยวกับขั้นตอนการเทรด forex ซึ่งเหล่าเทรดเดอร์ใช้พูดกันโดยทั่วไปในระหว่างการเทรดจริงๆ ดังนั้น อย่าพลาดที่จะเรียนรู้ศัพท์เหล่านั้นเป็นอันขาด เพราะมันสำคัญมากๆ สำหรับกระบวนการเทรด และการเริ่มต้นการเทรดของท่าน
และในส่วนนี้ เราจะอธิบายคำศัพท์เฉพาะทางในการเทรด forex ที่จะกล่าวถึงการเปิดและปิดสัญญาเทรด หรือ Position นั่นเอง โดยเมื่อเทรดเดอร์เข้าสู่ตลาดการเงินด้วยความมุ่งมั่นที่จะซื้อหรือขายสินทรัพย์ใดๆ ก็ตาม ท่านจะต้อง เปิดสัญญา หรือ เปิด position และเมื่อใดก็ตามที่ท่านต้องการจะออกจากตลาด ท่านก็จะต้อง ปิดสัญญา หรือ ปิด position นั่นเองครับ ดังนั้น จึงมีคำศัพท์เฉพาะต่างๆ ที่ท่านควรเรียนรู้เพื่อใช้ในขั้นตอนการเทรดเหล่านี้ ได้แก่:
- Entry – หรือ การเข้าซื้อ/ขาย หมายถึง จังหวะที่เทรดเดอร์เข้าหาโบรกเกอร์เพื่อต้องการซื้อหรือขายสินทรัพย์ต่างๆ
- Exit – หรือ การออก หมายถึง ขั้นตอนที่เทรดเดอร์ต้องการปิดสัญญาเทรด ไม่ว่าท่านจะเทรดได้กำไรหรือเทรดแพ้ก็ตาม
เข้าใจได้ไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะครับ? แต่ในการเทรดจริงๆ นั้น อาจไม่ได้ง่ายเหมือนตอนที่ท่านเรียนรู้คำศัพท์เหล่านี้ เนื่องจากสถานการณ์ระหว่างการเทรดนั้นเปลี่ยนแปลงไปได้ทุกขณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตลาดมีความผันผวน เทรดเดอร์มือใหม่ทุกท่านจึงจำเป้นต้องมีเครื่องมือเหล่านี้เอาไว้ เพื่อป้องกันความเสี่ยง ได้แก่:
Stop Loss
จุดตัดขาดทุน หรือ stop loss เป็นเทคนิคที่เทรดเดอร์ใช้ เพื่อระบุจังหวะที่มีการขาดทุนเกิดขึ้น โดยเมื่อการเทรดของท่านถึงจุดตัดขาดทุนนั้น ออเดอร์เทรดก็จะถูกปิดลงโดยอัตโนมัติ โดยเครื่องมือนี้จะมีประโยชน์มากๆ เมื่อมีราคาเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ท่านไม่คาดคิด หรือเมื่อตลาดเคลื่อนที่สวนทางกับทิศทางการเทรดของท่านนั่นเอง

Take Profit
นี่เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือเทรดที่มีประสิทธิภาพมาก ในการป้องกันเทรดเดอร์มือใหม่จากการขาดทุนมหาศาลพร้อมๆ กันทีเดียว โดย take profit หรือ จุดทำกำไร คือ ตำแหน่งราคาที่ท่านตั้งเอาไว้ เพื่อให้เกิดการทำกำไรโดยอัตโนมัติ โดยข้อดีของฟีเจอร์นี้ก็คือ ท่านสามารถตั้งราคาเป้าหมายเอาไว้ได้ล่วงหน้า ก่อนที่ท่านจะเข้าสู่ตลาด หรือ ก่อนที่ตลาดจะเปิดเสียอีก!
ท่านเป็นนักเทรด "หมี" หรือ "กระทิง"?
ปฏิเสธไม่ได้ว่ากลยุทธ์เทรดนั้นสำคัญกับการเทรดมากที่สุด อย่างไรก็ตาม การระบุสไตล์การเทรดของท่านก็สำคัญไม่แพ้กัน แต่การจะบ่งบอกสไตล์การเทรดของตัวเองได้นั้น ขึ้นอยู่กับว่าเทรดเดอร์แต่ละท่านมีความสามารถในการคาดการณ์ราคา หรือ ความเคลื่อนไหวของตลาดมากน้อยแค่ไหน เพื่อตัดสินใจว่าท่านเป็นนักเทรดกลุ่มใด ระหว่าง "หมี" และ "กระทิง"
กระทิง (Bull)
หากท่านคาดหวังว่าตลาดกำลังจะเติบโตขึ้น หรือ ราคาจะเพิ่มขึ้น ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว แน่นอนว่าท่านคือ "กระทิง (bull)" การเป็นเทรดเดอร์กระทิง (bullish trader) หมายถึง เทรดเดอร์ที่รอคอยให้ราคาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในวันข้างหน้า เราใช้ภาพของกระทิงมาเพื่อเปรียบเทียบให้เห็นว่า กระทิงขวิดเขาของมันขึ้นเพื่อต่อสู้ ซึ่งเป็นกลยุทธ์เดียวกันในตลาดขาขึ้นนั่นเอง
หมี (Bear)
หากท่านเชื่อมั่นว่าตลาดกำลังจะอยู่ในช่วงขาลง รวมถึงราคาสินทรัพย์ต่างๆ กำลังจะลดลง นั่นแสดงว่าท่านเป็น "หมี (bear)" นั่นเอง โดยศัพท์เทคนิคนี้มาจากการต่อสู้ของหมี เนื่องจากพวกมันมักจะใช้อุ้งมือตะปบลงเพื่อต่อสู้กับคู่ต่อสู้ ดังนั้น เราจึงใช้ภาพการตอบโต้นั้นมาเพื่ออธิบายจังหวะตลาดขาลง โดยเทรดเดอร์มักจะใช้กลยุทธ์การขายระยะสั้น เพื่อรับมือกับสถานการณ์วิกฤตตลาดที่กำลังจะเกิดขึ้น ท่านสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การขายชอร์ต (Short selling) ได้ที่นี่
เราเชื่อว่าในวันนี้ มือใหม่ forex ทุกท่านคงจะได้เรียนรู้คำศัพท์สำคัญที่ใช้กันในหมู่นักเทรด forex ไปบ้างแล้ว และท่านคงจะเข้าใจ กระบวนการเทรด forex ขั้นพื้นฐาน เพิ่มขึ้นไม่มากก็น้อย อย่างไรก็ตาม เราขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านหมั่นเรียนรู้เข้าไว้! เราเชื่อว่าทุกท่านจะเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จได้ในไม่ช้า
ติดตาม บทเรียน forex เพิ่มเติมจากเรา แหล่งความรู้ที่เต็มไปด้วยเนื้อหา forex เช่น
บทความนี้ไม่มีและไม่ควรถูกพิจารณาว่ามีคำแนะนำหรือคำปรึกษาด้านการลงทุน รวมถึงข้อเสนอหรือการชักชวนในการทำธุรกรรมใดๆ ในตราสารทางการเงิน ทั้งนี้ นักลงทุนควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน