การอ่านกราฟถือเป็นทักษะจำเป็นสำหรับเทรดเดอร์ทุกท่าน ที่สำคัญกราฟ Forex ยังเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญที่สุดในการวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิคอีกด้วย
กราฟรูปแบบต่างๆ จะแสดงภาพให้เห็นว่าราคาสินทรัพย์เคลื่อนไหวอย่างไรภายในกรอบเวลาที่กำหนด นอกจากนี้ ยังแสดงการเคลื่อนไหวของราคาในอดีตที่ใช้ในการคาดการณ์ราคาในอนาคตตามสภาวะตลาดต่างๆ
เมื่อท่านรู้วิธีอ่านกราฟ Forex แล้ว ท่านก็จะสามารถวิเคราะห์คู่สกุลเงินต่างๆ ได้พร้อมๆ กับแนวโน้มและรูปแบบการเคลื่อนไหว โดยในบทความนี้ เราจะพูดถึง 3 ประเภทกราฟ Forex ที่นักเทรดมือใหม่ควรรู้และใช้ในกลยุทธ์ Forex
กราฟ Forex เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เห็นภาพราคาสินทรัพย์ อีกทั้งยังรวมธุรกรรมการซื้อและขายเพื่อแสดงอุปสงค์และอุปทานของสินทรัพย์ โดยกราฟจะเป็นเครื่องมือที่ครอบคลุมซึ่งรวมปัจจัยด้านตลาดที่แตกต่างกัน ซึ่งรวมถึงข่าวสาร อารมณ์ตลาด และการคาดการณ์ของเทรดเดอร์ หากสถานการณ์จริงแตกต่างจากที่คาดการณ์ไว้ ราคาก็มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลง
การเทรด Forex เกี่ยวข้องกับนักเทรดในตลาดจำนวนมากและผู้เล่นที่มีความแตกต่างกัน นอกจากนี้ยังมีการหมุนเวียนสกุลเงินที่ไม่มีวันสิ้นสุด กราฟจึงเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการติดตามความเคลื่อนไหวของผู้ที่อยู่ในตลาด
กราฟ Forex หลักๆ ที่นักเทรดส่วนใหญ่ใช้ในการวิเคราะห์การเทรด Forex จะแบ่งออกเป็น 3 แบบหลักๆ ดังนี้:
นักเทรดที่มีประสบการณ์มักจะใช้รูปแบบกราฟหลายๆ แบบเพื่อเพิ่มแนวทางการซื้อขาย Forex ให้มากยิ่งขึ้น
เอาล่ะ ลองมาดูว่ากราฟแต่ละประเภทมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง?
กราฟเส้นเป็นรูปแบบกราฟที่ง่ายในการอ่านและทำความเข้าใจ เป็นกราฟเส้นง่ายๆ ดังนั้น นักเทรดทุกระดับจะสามารถอ่านกราฟนี้ได้ไม่ยาก ใช้เพื่อติดตามราคาปิดหนึ่งไปยังราคาถัดไป
นักเทรดจะใช้กราฟเส้นเพื่อดูว่าราคาสินทรัพย์เคลื่อนไหวโดยทั่วไปในช่วงเวลาหนึ่งอย่างไร ข้อเสียหลักๆ คือกราฟเส้นจะแสดงเฉพาะการเคลื่อนไหวทั่วไปโดยไม่มีข้อมูลเชิงลึกของตลาดที่เฉพาะเจาะจง ท่านจะทราบราคาปิดแต่ไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อราคานั้นจริงๆ หรือสิ่งที่เกิดขึ้นภายในกรอบที่กำหนด
พูดง่ายๆ คือกราฟเส้นจะให้มุมมองในภาพเล็กๆ เท่านั้น
เป็นรูปแบบกราฟที่ซับซ้อนขึ้นมาหน่อย เนื่องจากจะใช้ในการติดตามทั้งราคาเปิดและปิดสินทรัพย์ของคู่สกุลเงิน นอกจากนี้ นักเทรดสามารถระบุราคาสูงและต่ำตลอดจนช่วงราคาในช่วงเวลาที่ต้องการได้
กราฟแท่งอาจมีขนาดต่างกันและอยู่ตรงกลาง ด้านล่าง หรือด้านบนของกราฟ แถบด้านล่างแสดงราคาสินทรัพย์ต่ำสุดที่ซื้อขายในช่วงเวลาที่กำหนด แถบด้านบนแสดงราคาสูงสุด ในขณะที่แถบแนวตั้งแสดงช่วงการซื้อขายของคู่สกุลเงิน
หากท่านเห็นกราฟแท่งขนาดใหญ่ แสดงว่าราคามีความผันผวนและความผันผวนของราคานั้นเพิ่มขึ้น ในทางตรงกันข้าม เมื่อกราฟแท่งเล็กลง หมายความว่าการเคลื่อนไหวของราคาจะคงที่ขึ้น
กราฟแท่งแต่ละแท่งจะแสดงถึงกรอบเวลาที่เฉพาะเจาะจง อาจเป็นนาที หนึ่งชั่วโมง หนึ่งวัน หรือแม้แต่สัปดาห์ก็ได้ ดังนั้น ท่านจะต้องรู้ให้แน่ชัดว่าแถบที่เลือกหมายถึงช่วงเวลาใด มิฉะนั้น ท่านจะไม่สามารถอ่านกราฟได้อย่างถูกต้อง
กราฟแท่งเทียนเป็นรูปแบบกราฟแท่งที่ซับซ้อนมากขึ้น โดยจะแสดงข้อมูลที่คล้ายคลึงกัน แต่ก็มีความแตกต่างกันเล็กน้อย เนื่องจากจะเป็นกราฟแท่งที่แสดงข้อมูลละเอียดมากขึ้น อ่านง่ายมากยิ่งขึ้น
ที่กราฟแท่งเทียนอ่านง่ายก็เพราะว่ามีสีที่แตกต่างกันชัดเจน ซึ่งที่เข้าใจกันเป็นหลักสากลก็คือสีเขียวกับสีแดงนั่นเอง ทำให้นักเทรด Forex เห็นภาพตลาดขาขึ้นหรือขาลงได้ง่ายและเร็วยิ่งขึ้น:
รูปแบบกราฟแท่งเทียนจะเป็นการแสดงข้อมูลตลาดในรูปแบบกราฟแบบละเอียด โดยกราฟแต่ละประเภทจะมีลักษณะเฉพาะที่นักเทรดต้องรู้ ต้องเข้าใจวิธีตีความและอ่านกราฟ เพื่อให้สามารถวิเคราะห์กราฟเทคนิคได้ในที่สุด
ด้วยกราฟ Forex ที่มีลักษณะแตกต่างกัน นักเทรดจะเห็นภาพรวมตลาดที่ละเอียดยิ่งขึ้น และสามารถดึงข้อมูลในอดีตและเปรียบเทียบกับสภาวะตลาดปัจจุบันเพื่อคาดการณ์ได้อย่างแม่นยำ ยิ่งไปกว่านั้น กราฟบางแบบยังให้ข้อมูลเชิงลึกแก่นักเทรดในตลาดที่จำเป็นในการตัดสินใจว่าราคาจะเคลื่อนไหวต่อไปอย่างไร
รูปแบบกราฟ 3 ประเภทหลักๆ ได้แก่ กราฟเส้น, กราฟแท่ง และกราฟแท่งเทียน ซึ่งบางแบบก็อ่านง่าย เข้าใจได้ทันที ขณะที่บางแบบก็อาจมีความซับซ้อนขึ้นมาหน่อย แต่ให้ข้อมูลที่ละเอียดกว่าในกรอบเวลาต่างๆ โดยกราฟที่นิยมมากที่สุดคงหนีไม่พ้นกราฟแท่งเทียนเนื่องจากอ่านง่าย ให้ข้อมูลละเอียด บอกได้ทั้งราคาสินทรัพย์และอารมณ์ตลาดเลยทีเดียว
บทความนี้ไม่มีและไม่ควรถูกพิจารณาว่ามีคำแนะนำหรือคำปรึกษาด้านการลงทุน รวมถึงข้อเสนอหรือการชักชวนในการทำธุรกรรมใดๆ ในตราสารทางการเงิน ทั้งนี้ นักลงทุนควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน