ออกจากระบบ
คุณจะแน่ใจหรือไม่ที่จะออกจากระบบ

5 รูปแบบแท่งเทียนขาขึ้น บอกสัญญาณขาขึ้นได้ดีที่สุดในปี 2021

ด้วยแพทเทิร์นแท่งเทียน (Candlestick Pattern) ที่หลากหลาย ทำให้เทรดเดอร์สามารถดูข้อมูลราคาในกราฟได้หลายแบบ ซึ่งเป็นตัวช่วยสำคัญในการคาดการณ์ราคาและแนวโน้ม (เทรนด์) ในตลาดล่วงหน้า รวมถึงการเปลี่ยนทิศทางราคา, การเด้งของราคา, การกลับตัว และความเคลื่อนไหวอื่นๆ ที่ทำให้เทรดเดอร์สามารถตัดสินใจเทรดได้ง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น แต่ที่สำคัญก็คือท่านจะต้องอ่านแพทเทิร์นแท่งเทียนนั้นให้เป็น และเข้าใจว่ารูปแบบเหล่านั้นกำลังบอกอะไรเกี่ยวกับราคาบ้าง

None

ซึ่งในบางครั้งมันก็อาจเป็นเรื่องยากสำหรับมือใหม่ที่จะหาสัญญาณเทรดที่ถูกต้องและแม่นยำได้ ดังนั้น ท่านจะต้องฝึกฝนการเปิดและปิดออเดอร์จากการติดตามข้อมูลในกราฟแท่งเทียนแต่ละแบบ โดยเราขอแนะนำให้ท่านฝึกเทรดผ่าน บัญชีเดโม่ ซึ่งเป็นหนทางที่ดีที่สุดในการสั่งสมทักษะเทรดในสภาวะตลาดจริง โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเทรดขาดทุนและเสียเงินจริงๆ ทำให้ท่านได้เรียนรู้ กลยุทธ์เทรด ไม่จำกัด และสามารถเลือกเทคนิคเทรดที่เหมาะกับท่านได้ในที่สุด

ในบทความวันนี้ เราจะมาแนะนำ 5 อันดับ Indicator บอกสัญญาณขาขึ้นที่ท่านควรใช้ในการเทรด เพื่อเพิ่มโอกาสในการเทรดให้ได้กำไรมากยิ่งขึ้น

1. รูปแบบแท่งเทียน Bullish Hammer Pattern

แพทเทิร์นนี้มีหลักการใช้ที่ไม่เหมือนกับอินดิเคเตอร์บอกสัญญาณการกลับตัวชนิดอื่นๆ เช่น Tweezer Top and Bottom เนื่องจากแพทเทิร์น Bullish Hammer จะเกิดขึ้นในจังหวะเทรนด์ขาลง (Downtrend) หรือ ณ ตำแหน่งด้านล่างของเทรนด์นั่นเอง โดยแพทเทิร์นนี้สามารถอ่านได้ไม่ยาก เพราะมันเป็นแค่รูปแบบที่มีแท่งเทียน 1 แท่งที่มีตัวเทียนสั้นๆ แต่มีไส้เทียนด้านล่างที่ยาว

วิธีดูแพทเทิร์นนี้ในกราฟราคา:

  1. แพทเทิร์นนี้จะเกิดในเทรนด์ขาลง
  2. ท่านจะต้องหาแท่งเทียนที่มีตัวเทียนสั้นๆ ณ บริเวณจุดสิ้นสุดของเทรนด์ โดยเทียนนั้นจะเป็นสีอะไรก็ได้
  3. โดยแท่งเทียนนั้นจะต้องมีไส้เทียนด้านล่างที่ยาวประมาณ 2 เท่าของตัวเทียน
  4. รูปแบบแท่งเทียนนี้จะต้องไม่มีไส้เทียนด้านบน

การอ่านสัญญาณจากแพทเทิร์น:

เมื่อมีรูปแบบแท่งเทียนดังกล่าวเกิดขึ้นในเทรนด์ขาลง นั่นหมายความว่าตลาดมีแรงเทขายเยอะมาก ณ เวลาดังกล่าวเนื่องจากนักเทรดฝั่งขายชอร์ต (Short sell) ไม่อยากถือออเดอร์นั้นไว้อีกต่อไป ทำให้ราคาดิ่งลงอย่างรวดเร็วและอาจเด้งกลับขึ้นทำราคา High ของวันหลังจากนั้น โดยมันจะเป็นสัญญาณขาขึ้นที่ชัดเจนมากขึ้นหากแท่งเทียนเป็นสีแดง

2. รูปแบบแท่งเทียน Bullish Belt Hold Pattern

แพทเทิร์น Belt Hold มีลักษณะเป็นแท่งเทียน 1 แท่งที่สังเกตได้ง่ายเหมือนกับรูปแบบก่อนหน้านี้ โดยมีข้อแตกต่างตรงที่ว่าแพทเทิร์นนี้จะเป็นแท่งเทียนสีฟ้าที่มีขนาดยาว และมีไส้เทียนอยู่ล่างตัวเทียน ซึ่งมักเรียกกันอีกอย่างว่ารูปแบบ Opening Marubozu นั่นเอง แพทเทิร์นนี้จะปรากฎขึ้นในช่วงเทรนด์ขาลง เพื่อเป็นการส่งสัญญาณว่าเทรนด์อาจเกิดการกลับตัวในไม่ช้า โดยมีราคาเปิดต่ำและจะพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อทะลุเทรนด์เดิมและทำราคา high ในที่สุด

วิธีดูแพทเทิร์นนี้ในกราฟราคา:

  1. แพทเทิร์นนี้จะเกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดมีเทรนด์ขาลงซึ่งส่งผลให้ภาพรวมตลาดทั้งหมดอยู่ในเกณฑ์ลบ 
  2. แพทเทิร์นนี้จะเกิดขึ้นเมื่อมีช่วงระยะห่างระหว่างราคา low ประจำวันและราคา high โดยมีแรงในตลาดดันให้ราคาพุ่งขึ้นทำ high ของวัน
  3. รูปแบบนี้สังเกตง่าย ด้วยลักษณะของตัวเทียนสีฟ้าที่มีขนาดยาว และมีไส้เทียนอยู่ด้านล่าง

การอ่านสัญญาณจากแพทเทิร์น:

เนื่องจากว่าแท่งเทียนรูปแบบนี้มีราคาเปิดอยู่ที่ระดับ low ของวัน ทำให้นักลงทุนแห่พากันเข้าซื้อจนทำให้ราคาพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อมีแรงซื้อในตลาดปริมาณมาก เป็นเหตุให้นักลงทุนฝั่งขาลงเริ่มมีความกังวลและพยายามเปิดออเดอร์ Buy เพื่อป้องกันการขาดทุนจากออเดอร์ sell ก่อนหน้า ส่งผลให้ราคายิ่งวิ่งขึ้นไปเป็นเทรนด์ขาขึ้นที่ชัดเจน

3. รูปแบบแท่งเทียน Bullish Engulfing Pattern

แพทเทิร์น Bullish Engulfing จะแตกต่างกับ 2 รูปแบบก่อนหน้าอย่างชัดเจน เนื่องจากมันประกอบไปด้วยแท่งเทียน 2 แท่ง โดยแท่งแรกหรือแท่งก่อนหน้าจะเป็นแท่งสีแดงที่มีขนาดเล็ก ในขณะที่แท่งที่สองหรือแท่งหลังจะเป็นแท่งสีฟ้าที่ยาวกว่าและ “กลืนกิน” หรือมีขนาดที่ครอบคลุมแท่งก่อนหน้าทั้งแท่ง ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ “Engulfing pattern” โดย engulfing หมายถึง การกลืนกินนั่นเองครับ

วิธีดูแพทเทิร์นนี้ในกราฟราคา:

  1. แพทเทิร์นนี้จะเกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดมีเทรนด์ขาลงซึ่งส่งผลให้ตลาดโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ลบ  
  2. เทียนแท่งแรกที่เป็นสีแดงและมีขนาดเล็กกว่าจะเป็นแท่งเทียนของวันแรก
  3. เทียนแท่งที่สองซึ่งมีสีฟ้าและมีขนาดยาวครอบคลุมเทียนแท่งแรกจะเป็นแท่งเทียนของวันถัดมา ซึ่งกลืนกินแท่งเทียนทั้งหมดของวันแรกนั่นเอง

การอ่านสัญญาณจากแพทเทิร์น:

ในช่วงวันแรกตลาดอาจมีแรงเทขายในปริมาณ (วอลุ่ม) ที่ไม่มากนักทำให้เกิดแท่งเทียนสีแดงสั้นๆ ซึ่งเป็นเทียนแท่งแรกของแพทเทิร์นนี้ โดยในวันถัดมาเมื่อราคาเปิดของวันอยู่ที่ระดับต่ำกว่าราคา low ของวันก่อนหน้า ก็จะเกิดเป็นแท่งเทียนแท่งสีฟ้านั่นเองครับ ซึ่งในเวลาต่อมาเมื่อแรงกดดันในการขายเริ่มลดลง ทำให้มีแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาดเพิ่มมากขึ้นในระหว่างวัน จึงทำให้แรงซื้อกลับมาแข็งแกร่งกว่าแรงขายและเอาชนะแรงขายได้ในที่สุด

4. รูปแบบแท่งเทียน Bullish Harami Pattern

แพทเทิร์นนี้มีลักษณะตรงข้ามกับแท่งเทียนแบบ Engulfing โดยสิ้นเชิง เนื่องจากรูปแบบ Harami ประกอบไปด้วยแท่งเทียนสีแดงที่มีขนาดใหญ่เป็นแท่งเทียนของวันแรก และมีแท่งเทียนสีฟ้าที่มีขนาดเล็กกว่าเป็นแท่งเทียนของวันถัดมา และแน่นอนว่าแท่งเทียนสีแดงของวันแรกก็จะยาวคลุมแท่งเทียนสีฟ้าในวันที่สอง เกิดเป็นแพทเทิร์น Harami

Industry-best trading conditions
Deposit bonus
up to 200% Deposit bonus 
up to 200%
Spreads
from 0 pips Spreads 
from 0 pips
Awarded Copy
Trading platform Awarded Copy
Trading platform
Join instantly

วิธีดูแพทเทิร์นนี้ในกราฟราคา:

  1. แพทเทิร์นนี้จะเกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดมีเทรนด์ขาลงซึ่งส่งผลให้ตลาดโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ลบ
  2. แท่งเทียนสีแดงที่มีขนาดใหญ่กว่าจะเป็นแท่งเทียนของวันแรก
  3. แท่งเทียนแท่งถัดมาซึ่งเป็นแท่งสีฟ้าและมีขนาดเล็กกว่าจะเป็นแท่งเทียนของวันที่ 2 โดยมีแท่งเทียนของวันแรกคลุมแท่งเทียนแท่งที่สองไว้

การอ่านสัญญาณจากแพทเทิร์น:

เทียนแท่งยาวสีแดงนั้นเป็นตัวบ่งบอกว่าตลาดมีแรงขายมากเกินไปในวันนั้น และวันถัดมาเมื่อราคาเด้งกลับขึ้นมาทำระดับ high ซึ่งทำให้นักเทรดฝั่งขายชอร์ต (Short sell) กังวลว่าจะขาดทุน ทำให้พวกเขาผันมาเปิดออเดอร์ buy เพื่อป้องกันการขาดทุน เป็นเหตุให้ราคายิ่งพุ่งขึ้นไปอย่างต่อเนื่องจนเกิดเป็นแท่งเทียนสีฟ้าที่ส่งสัญญาณว่าเทรนด์จะมีการกลับตัวและควรทำกำไรจากนักเทรดฝั่ง short sell เหล่านั้น โดยในช่วงจังหวะดังกล่าวแรงขายในตลาดจะลดลงชัดเจน

5. รูปแบบแท่งเทียน Bullish Doji Star Pattern

แพทเทิร์นนี้ประกอบไปด้วยเทียนแท่งสีแดงแท่งแรก ตามมาด้วยแท่งเทียน Doji ซึ่งเป็นแท่งเทียนที่ราคาเปิดและราคาปิดเท่ากันทำให้มีแต่ไส้เทียน (เส้นด้านบนและด้านล่าง) ไม่มีตัวเทียนปรากฎขึ้นในวันถัดมานั่นเองครับ โดยแท่ง Doji นั้นเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าจะมีการเปลี่ยนเทรนด์ หรือมีแนวโน้มที่ราคาจะปรับตัวขึ้น

วิธีดูแพทเทิร์นนี้ในกราฟราคา:

  1. รูปแบบนี้จะเกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดมี downtrend ซึ่งส่งผลให้ภาพรวมตลาดอยู่ในเกณฑ์ลบ
  2. แท่งเทียนวันแรกจะเป็นแท่งสีแดง
  3. มีแท่งเทียน Doji (เทียนที่มีแต่ไส้เทียน ไม่มีตัวเทียน) ปรากฎขึ้นในวันถัดมา โดยจะมีระยะห่างระหว่างแท่งเทียนสีแดงแท่งก่อนหน้าอย่างชัดเจน 

การอ่านสัญญาณจากแพทเทิร์น:

เทียนแท่งยาวสีแดงจะเป็นตัวยืนยันว่าตลาดอยู่ในเทรนด์ขาลงที่ชัดเจน ซึ่งเป็นจังหวะที่นักเทรดฝั่งขายชอร์ตยังคงได้เปรียบและมีแรงเหนือกว่า จากนั้นเมื่อราคาเปิดและราคาปิดกลับมาอยู่ในระดับเดียวกันจนทำให้เกิดเป็นแท่งเทียน Doji เกิดขึ้น สภาวะของตลาดก็จะมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากเทียน Doji Star จะเป็นตัวบ่งบอกว่าแรงซื้อเริ่มกลับมาเท่ากับแรงขาย ซึ่งหลังจากนั้นเมื่อแรงขายลดลง ก็จะทำให้ตลาดกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้ง

บทความนี้ไม่มีและไม่ควรถูกพิจารณาว่ามีคำแนะนำหรือคำปรึกษาด้านการลงทุน รวมถึงข้อเสนอหรือการชักชวนในการทำธุรกรรมใดๆ ในตราสารทางการเงิน ทั้งนี้ นักลงทุนควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน