ออกจากระบบ
คุณจะแน่ใจหรือไม่ที่จะออกจากระบบ

5 เทคนิคการเทรดด้วย Momentum กลยุทธ์ง่ายๆ สำหรับมือใหม่

เชื่อว่าหลายๆ ท่านคงเคยได้ยินเกี่ยวกับกลยุทธ์การเทรดด้วยโมเมนตัม (Momentum strategy) มาพอสมควร และทราบดีว่ากลยุทธ์นั้นมีความเสี่ยงอย่างไรบ้าง แต่รู้ไหมครับว่าโมเมนตัมก็เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ช่วยให้เทรดเดอร์ทราบได้ว่าตราสารกลุ่มไหนที่คุ้มค่า น่าลงทุน และมีโอกาสได้กำไรสูง

None

นักเทรดที่ชอบเทรดตามโมเมนตัมมักจะใช้ความพยายามอย่างที่สุดในการคว้าโอกาสจากทั้งเทรนด์ขาขึ้นและขาลงของตราสารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกองทุน ETF หรือหุ้น (Stock) ก็ตาม อย่างที่นักเทรดมากประสบการณ์มักจะกล่าวกันว่า “แนวโน้มคือหัวใจสำคัญของการเทรด” ดังนั้น การเทรดตามเทรนด์จึงกลายเป็นเป้าหมายและหลักการสำคัญของนักเทรดแทบจะทุกรายเลยก็ว่าได้ ด้วยเหตุนี้เองทำให้การเทรดตามโมมันเตมเป็นเสมือนแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้เทรนด์นั้นๆ ยังคงเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดิมอยู่เสมอ

ในบทความวันนี้ เราจะมาแนะนำวิธีการเทรดด้วยกลยุทธ์โมเมนตัมแบบง่ายๆ ที่ไม่ต้องมีความรู้หรือประสบการณ์มากมายก็ยังเทรดตามได้ไม่ยาก ถ้าพร้อมแล้ว… ไปดูกันเลยครับ

การเทรดด้วยโมเมนตัมเทคนิคที่ #1 - ติดตามราคา High

เมื่อท่านเทรดโดยใช้เทคนิคนี้ สิ่งสำคัญที่ท่านควรมองหาคือราคาหุ้น หรือ ETF ที่กำลังวิ่งขึ้น จากนั้นติดตามเทรนด์ที่เคลื่อนที่ขึ้นไปในทิศทางเดิมในแต่ละวันไปจนถึงหลายสัปดาห์ โดยในบางครั้งเทรนด์เหล่านั้นอาจอยู่นานเป็นเดือนหรืออาจมากกว่านั้น หากยังไม่มีปัจจัยใดๆ มารบกวนเทรนด์นั้นเสียก่อน

ในขณะที่นักเทรดคนกำลังกลัวและกังวลที่จะเปิดออเดอร์ Buy เมื่อราคาทำ New high แต่สำหรับนักเทรดที่เทรดตามโมเมนตัมแล้ว นี่คือนาทีทองเลยก็ว่าได้ เพราะนั่นคือสัญญาณยืนยันว่าราคากำลังจะปรับตัวขึ้นต่อไปอย่างต่อเนื่อง

การเทรดด้วยโมเมนตัมเทคนิคที่ #2 – จับตาดูความผันผวน

การเทรดด้วยโมเมนตัมจะต้องมีความผันผวนที่สูงมากเข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ โดยหลักการสำคัญคือการทำกำไรจากความผันผวนที่เพิ่มสูงขึ้นนั่นเองครับ ซึ่งหากท่านตั้งออเดอร์ Short (ขาย) หรือ Long (ซื้อ) ได้ไม่ถูกจังหวะ ก็อาจทำให้ท่านเทรดขาดทุนได้ในที่สุด และเพื่อป้องกันความเสี่ยงในการเทรดขาดทุน อย่าลืมใช้เครื่องมือบริหารความเสี่ยงและตั้งออเดอร์ Stop loss อยู่เสมอ

การเทรดด้วยโมเมนตัมเทคนิคที่ #3 – หาแนวโน้มราคา

เทรดเดอร์อาจใช้วิธีการจับทิศทางแนวโน้มได้หลายวิธี โดยหากท่านกำลังเทรดหุ้น หรือกองทุน ETF อยู่ล่ะก็… ท่านอาจพิจารณาจากเปอร์เซ็นต์การเทรดสินทรัพย์ดังกล่าวที่ระยะ 10% จากราคา High ในรอบ 52 สัปดาห์ และอีกวิธีหนึ่งก็คือการวิเคราะห์ว่าจำนวนเปอร์เซ็นต์นั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรในช่วง 12-24 สัปดาห์ล่าสุด อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 เทคนิคที่กล่าวมานี้ค่อนข้างมีความละเอียดอ่อน แต่ในขณะเดียวกันก็มีความแม่นยำในการระบุทิศทางราคาปัจจุบันที่ดีเลยทีเดียว

Industry-best trading conditions
Deposit bonus
up to 200% Deposit bonus 
up to 200%
Spreads
from 0 pips Spreads 
from 0 pips
Awarded Copy
Trading platform Awarded Copy
Trading platform
Join instantly

ในขณะเดียวกัน เทรดเดอร์บางท่านก็อาจใช้ timeframe ที่สั้นลง โดยเน้นใช้กรอบเวลาสั้นๆ ในการติดตามเทรนด์ราคาและปัจจัยต่างๆ ที่เปลี่ยนไปในตลาด ตัวอย่างเช่น เทรดในกรอบเวลา 1-4 สัปดาห์แทนที่จะใช้ timeframe 12 หรือ 24 สัปดาห์ ทั้งนี้ ผลลัพธ์ที่ได้จากการเทรดสินทรัพย์แต่ละรายการก็อาจมีความแตกต่างกัน

การเทรดด้วยโมเมนตัมเทคนิคที่ #4 – หาหุ้นกลุ่มเด่นที่ดีที่สุด

หากท่านอยากจะเทรดตามโมเมนตัมให้ได้ผลจริงๆ ท่านจะต้องเรียนรู้วิธีเลือกกลุ่มหุ้นที่โดดเด่นให้ดี ท่านไม่ต้องรีบร้อนและค่อยๆ หาหุ้นที่มั่นใจได้จริงๆ แต่หากท่านยังไม่รู้วิธีหาหุ้น วันนี้เรามีวิธีง่ายๆ มาแนะนำ:

  1. เลือกสินทรัพย์ที่ท่านสนใจและต้องการเทรด อาจจะเป็นหุ้น หรือ ETF ก็ได้
  2. ขั้นต่อมาคือการคำนวณวอลุ่ม (Volume) ของสินทรัพย์นั้น หรือปริมาณการซื้อขายที่เกิดขึ้น ณ ระดับราคา High ของปีนั้นๆ
  3. แบ่งกลุ่มระหว่างสินทรัพย์ที่มีวอลุ่ม “ต่ำ” และ “สูง” เพื่อเปรียบเทียบว่าสินทรัพย์กลุ่มไหนน่าลงทุนมากกว่ากัน
  4. เอาจังหวะในการเปิดออเดอร์มาใช้ให้เป็นประโยชน์ โดยเทรดเดอร์อาจรอจังหวะให้ราคาย่อตัวลงสักนิดก่อนที่จะมีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อจะได้ซื้อสินทรัพย์นั้นๆ ในราคาที่ถูกลง
  5. จากนั้นใช้กลยุทธ์ในการปิดออเดอร์เพื่อล็อกเป้าทำกำไรว่าต้องการทำกำไรที่ระดับราคาเท่าไหร่ และตั้งเงื่อนไขในการตัดขาดทุนว่าพอรับการขาดทุนได้มากแค่ไหน

ความเสี่ยงจากการใช้กลยุทธ์เทรดตามโมเมนตัม

อย่างไรก็ตาม ท่านต้องทำความเข้าใจก่อนว่าการเทรดตามโมเมนตัมอาจมาพร้อมกับความเสี่ยงได้เช่นกัน เนื่องจากเป็นการตัดสินใจเทรดตามราคาซื้อในขณะนั้น ซึ่งไม่มีใครบอกได้ว่าจะยังมีแรงซื้อมากพอที่จะดันให้ราคาพุ่งขึ้นไปได้อีกไกลแค่ไหน ในขณะเดียวกันหากท่านเข้าซื้อสินทรัพย์ตอนที่นักลงทุนที่ทะยอยเก็บมาก่อนหน้าเริ่มขายทำกำไรกันแล้ว ก็อาจส่งผลให้ราคากลับตัวลงมาจนทำให้ท่านเทรดขาดทุนได้ในที่สุด

บทความนี้ไม่มีและไม่ควรถูกพิจารณาว่ามีคำแนะนำหรือคำปรึกษาด้านการลงทุน รวมถึงข้อเสนอหรือการชักชวนในการทำธุรกรรมใดๆ ในตราสารทางการเงิน ทั้งนี้ นักลงทุนควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน