นักลงทุนยังคงมีท่าทีไม่ชัดเจนนักในช่วงต้นวันพฤหัสบดี ขณะที่กำลังประเมินสัญญาณจาก Fed อีกครั้ง ท่ามกลางข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯที่ถดถอยลงและยอดค้าปลีกของสหรัฐฯที่ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ รวมไปถึงการคงการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของ Jerome Powell ประธาน Fed นอกจากนี้ สิ่งที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของตลาดก็คือการอัปเดตการพบปะกันระหว่างประธานาธิบดี Joe Biden ของสหรัฐฯ และประธานาธิบดี Xi Jinping ของจีน
ด้วยเหตุนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯจึงชะลอตัวจากการร่วงลงในรอบสัปดาห์ขณะที่ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าราคาน้ำมันดิบยังคงตกต่ำลงและสร้างแรงกดดันด้านลบต่อค่าเงิน AUD,NZD อีกทั้ง การซื้อขายฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯ และการซื้อขายหุ้นในเอเชียแปซิฟิกยังคงผันผวน แม้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปิดในแดนบวกก็ตาม
ในอีกทางหนึ่งคู่เงิน NZDUSD และคู่เงิน AUDUSD ร่วงลงมากที่สุดในบรรดาคู่สกุลเงิน G10 ในขณะที่ คู่เงิน EURUSD,คู่เงิน USDJPY และคู่เงิน USDCHF ยังคงซบเซา อย่างไรก็ตาม คู่เงิน GBPUSD ก็ร่วงลงเช่นกันท่ามกลางความกลัวภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหราชอาณาจักรและท่าทีการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ที่ลดน้อยลง
เมื่อพูดถึงสกุลเงินดิจิทัล BTCUSD และ ETHUSD ชะลอตัวจากการพุ่งสูงขึ้นล่าสุด ท่ามกลางความคิดเห็นที่หลากหลายเกี่ยวกับความต้องการในอนาคตของ Spot Bitcoin และ Ethereum ETFs
มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:
หลังจากที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯลดต่ำลงทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลงในช่วงต้นสัปดาห์ การรายงานยอดค้าปลีกของสหรัฐฯที่ดีขึ้นส่งผลให้ช่วงแนวโน้มขาลงของดอลลาร์สหรัฐฯชะลอตัวลง น่าสังเกตว่าดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯก็ปรับลดลงเมื่อวันก่อนและจำกัดการฟื้นตัวของ USD เช่นกัน
นอกเหนือไปจากอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯที่อ่อนตัวลงและข้อมูล consumer-centric ที่ผันผวนแล้ว สถิติทางเศรษฐกิจที่เป็นบวกของประเทศจีนยังช่วยทำให้ความเชื่อมั่นปรับตัวดีขึ้นและส่งผลกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงต้นสัปดาห์อีกด้วย นอกจากนี้ ความเสี่ยงที่มีทิศทางเป็นบวกมากขึ้นจากการพบปะระหว่างประธานาธิบดี Joe Biden ของสหรัฐฯ และประธานาธิบดี Xi Jinping ของจีนยังหนุนความเชื่อมั่นของตลาดด้วยเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดี Xi Jinping ของจีนได้กล่าวว่า จีนพร้อมที่จะเป็นหุ้นส่วนและเป็นพันธมิตรของสหรัฐอเมริกา ในขณะเดียวกัน คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) ซึ่งเป็นผู้วางแผนงานของรัฐยังกล่าวถึงความตั้งใจที่จะเพิ่มความพยายามในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และปรับปรุงการบริโภคในกลุ่มรายได้ระดับต่ำและระดับกลางของประเทศอีกด้วย อย่างไรก็ตาม การที่ปักกิ่งพยายามผลักดันให้วอชิงตันออกจากไต้หวันถือเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งการแย่งชิงทางการค้าดูเหมือนจะสร้างความยากลำบากสำหรับผู้กำหนดนโยบายก่อนที่จะได้เห็นความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสหรัฐฯและจีนซึ่งจะช่วยพยุงระดับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯในอีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ วุฒิสภาสหรัฐฯยังผ่านร่างกฎหมายให้เงินทุนที่จะหยุดช่องว่างเพื่อหลีกเลี่ยงการชัตดาวน์ของรัฐบาลและสนับสนุนการฟื้นตัวของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
ถึงกระนั้น การคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อผู้บริโภคของออสเตรเลียยังพยายามที่จะคงการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ไว้แต่รายงานการจ้างงานที่มีความผันผวนจากประเทศส่วนใหญ่ในฝั่งแปซิฟิกนั้นไม่สามารถหนุนช่วงแนวโน้มขาขึ้นของคู่เงิน AUDUSD ได้
เนื่องจากข้อมูล/เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจตามกำหนดการส่วนใหญ่มีการรายงานออกมาแล้ว นักลงทุนจึงมุ่งเป้าไปที่ความเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของธนาคารกลางรายสำคัญ และด้วยเหตุนี้ความสนใจของนักลงทุนในตลาดจึงอยู่ที่แถลงการณ์ในวันนี้จากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางต่างๆ หากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามแนวทาง “higher for longer” ยังคงไม่ถูกกล่าวถึง นักลงทุนอาจหันเหไปทางสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัย ในสถานการณ์นี้จะช่วยให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯสามารถชะลอการร่วงลงในรอบสัปดาห์ได้และจะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันดิบต่อไป อย่างไรก็ตาม อาจได้เห็นการฟื้นตัวของราคาทองคำต่อไปท่ามกลางการความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นจากประเทศจีนอีกด้วย
ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !