Bitcoin พุ่งทะยานอีกครั้ง หลังจากร่วงลงสู่ระดับ 42,735 ดอลลาร์ เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ โดยราคา BTC ก็ได้พุ่งสูงขึ้นกลับมาแตะระดับ 52,350 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2021 ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าสินทรัพย์ดิจิทัลนี้อาจจะทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์
แม้ว่านักวิเคราะห์หลายคนคาดการณ์ว่าราคา Bitcoin จะร่วงลงอย่างรุนแรงจากระดับราคา 52,000 ดอลลาร์ แต่ราคาของ Bitcoin กลับแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนักในช่วงต้นวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา การปรับลดลงนี้ยังอาจเกิดขึ้นได้ เนื่องจากแรงเทซื้อและแรงเทขายกำลังต่อสู้กันเพื่อควบคุมการเคลื่อนไหวของตลาด
รูปแบบการเคลื่อนไหวของตลาดในปัจจุบันนั้นสอดคล้องกับการพุ่งสูงขึ้นก่อนการลดลงครึ่งหนึ่ง (halving) ซึ่งเคยเกิดขึ้นกับ Bitcoin ก่อนหน้านี้
จากข้อมูลทางในอดีต การพุ่งสูงขึ้นครั้งนี้มีศักยภาพที่จะผลักดันราคาให้สูงกว่าระดับสูงสุดที่ผ่านมา และโดยทั่วไปมักจะเริ่มขึ้นประมาณแปดสัปดาห์ก่อนเหตุการณ์ halving โดยปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการฟื้นตัวของ Bitcoin สู่ระดับสินทรัพย์ที่มีมูลค่าเกินล้านล้านดอลลาร์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มาจากกระแสเงินที่ไหลเข้าสู่กองทุน ETF ซึ่งรวมไปถึงแรงกดดันต่อแรงเทขายที่ปรับลดลงของ GBTC และการไหลเข้าอย่างต่อเนื่องในกองทุน ETF อื่นๆ ตามข้อมูลล่าสุด มีอัตราเฉลี่ยอยู่ที่ $300-400 ล้านดอลลาร์ต่อวัน
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญก็คือ เมื่อเปรียบเทียบกับรอบอื่นๆก่อนหน้านี้แล้ว ราคา Bitcoin ในปัจจุบันเข้าใกล้ระดับสูงสุดก่อนหน้ามากกว่าก่อนที่ราคาจะพุ่งสูงขึ้นก่อนการ Halving ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกระแสความตื่นเต้นเกี่ยวกับกองทุน ETF นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องตระหนักว่า แม้ว่ารูปแบบในอดีตอาจช่วยให้เราคาดการณ์สถานการณ์ได้ แต่ไม่ได้รับประกันว่าจะเกิดขึ้นซ้ำอีกเสมอไป
ในขณะเดียวกัน ตลาด altcoin กำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ช่วยให้ตลาดสกุลเงินดิจิทัลมีมูลค่าถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์ ยิ่งไปกว่านั้น ปริมาณการซื้อขายในตลาด Decentralized Exchange ยังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเกินกว่าระดับที่เคยเห็นในรอบก่อนหน้านี้ การเปลี่ยนแปลงนี้ชี้ให้เห็นถึงแนวทางการลงทุนที่พิถีพิถันและชาญฉลาดมากขึ้นภายในตลาด altcoin โดยรวม
ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !