ทองแดงแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์โดยได้แรงหนุนจากผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีน

ราคาทองแดงพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ โดยการพุ่งสูงขึ้นดังกล่าวเกิดขึ้นจากข้อมูลผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่เป็นบวกของจีน ในขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าการเพิ่มขึ้นนี้เป็นผลมาจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นและภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ปรับลดลง

ทั้งนี้ ตลาดซื้อขายโลหะ (London Metal Exchange) ได้เสนอราคาซื้อขายทองแดงอ้างอิงที่ 8,276 ดอลลาร์ต่อตัน โดยราคาขยับขึ้นไปถึง 0.5% ถือว่าเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม ที่ราคาทองแดงแตะที่ 8,291 ดอลลาร์ต่อเมตริกตัน

และนี่คือวิธีที่ตลาดโลหะมีปฏิกิริยาต่อผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนที่ปรับตัวสูงขึ้น 4.6% ซึ่งนับเป็นการพุ่งสูงขึ้นที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน ยิ่งไปกว่านั้น ผลลัพธ์ที่ได้ยังเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 4.4% อีกด้วย ในทางกลับกัน ภาคอสังหาริมทรัพย์ก็เริ่มถดถอยลง แม้ว่ารัฐบาลจีนจะออกมาตรการสนับสนุนในการจัดหาทรัพย์สินให้กับผู้ซื้อบ้านและให้ต้นทุนการกู้ยืมที่ลดลงแล้วก็ตาม

อีกทางด้านหนึ่ง ผู้เชี่ยวชาญก็ได้คาดการณ์ถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกและภาคอสังหาริมทรัพย์ที่แข็งแกร่งขึ้นในอนาคต แต่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่าขึ้นและความสงสัยเกี่ยวกับอุปสงค์ยังคงเป็นอุปสรรคที่สำคัญ

ในขณะที่ USD อยู่ในช่วงขาขึ้น ก็จะผลักดันราคาของโลหะที่นับราคาในหน่วยดอลลาร์ให้พุ่งสูงขึ้น ซึ่งทำให้ราคาสินทรัพย์ที่มีความสัมพันธ์กับดอลลาร์ก็จะแพงขึ้นด้วยเช่นกัน ถึงกระนั้น นักลงทุนยังนิยมถือครองสกุลเงินมากกว่าทองแดง ซึ่งอาจจะทำให้อุปสงค์ลดลงได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ร่วมตลาดยังคงมีความเชื่อมั่นที่ดีในการเติบโตล่าสุดของราคาทองแดง

นอกจากนี้ ราคาแร่สังกะสียังพุ่งสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมาที่ 2,667.5 ดอลลาร์ต่อตัน โดยพุ่งสูงขึ้นเหนือแนวต้านทางเทคนิคที่แข็งแกร่งที่ 2,605 ดอลลาร์ ซึ่งการเพิ่มขึ้นของระดับราคาสังกะสีนี้เป็นผลมาจากการสลายสต๊อกคลังสินค้าที่ได้รับการอนุมัติจาก LME ที่ลดลงมากกว่า 50% นับตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน

ส่วนทางด้านแร่อะลูมิเนียมและดีบุกก็พุ่งสูงขึ้นเล็กน้อยที่ 2,230 ดอลลาร์และ 25,310 ดอลลาร์ต่อตันตามลำดับ ขณะที่นิกเกิลปรับลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 17,430 ดอลลาร์ต่อตัน (0.35)

ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !