นักลงทุนทั่วโลกได้พักหายใจในช่วงต้นวันศุกร์ หลังจากธนาคารกลางสำคัญๆหลายแห่งเข้ามามีผลต่อความผันผวนของตลาดในระหว่างสัปดาห์นี้ ในขณะที่คู่เงิน EURUSD แสดงให้เห็นท่าทีที่ไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักของนักลงทุนทั่วโลก อีกทางด้านหนึ่งการสงวนท่าทีของ BoJ เป็นผลให้คู่เงิน USDJPY เป็นผู้นำคู่สกุลเงินหลัก แม้ว่าดอลลาร์สหรัฐฯจะไม่มีการเคลื่อนไหวก็ตาม ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงไม่มั่นใจในความพยายามคงนโยบายการเงินที่ดุดันของ Fed โดยไม่เสนอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมถึงความกังวลที่เกี่ยวกับจีนที่ทำให้สินค้าโภคภัณฑ์และค่าเงิน AUD,NZD อยู่ในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยง
ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรและหุ้นปรับตัวสูงขึ้นหลังจากเกิดความผันผวนในตลาดอย่างสูง แต่คริปโตไม่ได้รับผลกระทบจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนค่าลงและข่าวอุตสาหกรรมที่มีทิศทางบวกท่ามกลางปัญหาด้านกฎระเบียบที่ปรากฏขึ้น
ทางด้านราคาทองคำยังคงพยายามรักษาการเด้งกลับของวันก่อนหน้าจากระดับต่ำสุดในรอบสามเดือน ในขณะที่ราคาน้ำมันเบรนท์ก็ร่วงลงใกล้กับจุดสูงสุดประจำสัปดาห์เช่นกัน นอกจากนี้ค่าเงิน NZD ยังกลายเป็นสกุลเงินที่ร่วงลงมากที่สุดในกลุ่มสมาชิก G10 รองจากค่าเงิน JPY เนื่องจากตัวเลขค่าดัชนี PMIs ของนิวซีแลนด์ออกมาน่าผิดหวัง ในขณะที่ค่าเงิน AUD ยังไม่มีความเคลื่อนไหวที่ชัดเจนมากนัก
และเป็นที่น่าสังเกตว่าในสถานการณ์ล่าสุด ตลาดยังคงรอดำเนินการอยู่ แม้ว่า BoJ จะประกาศนโยบายเสร็จสิ้นแล้วก็ตาม เนื่องจากจะมีการติดตามตัวเลขที่มุ่งเน้นผู้บริโภคเป็นสำคัญในสหรัฐฯอย่างใกล้ชิดเพื่อการกำหนดทิศทางที่ชัดเจน
มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:
การประกาศนโยบายของ BoJ ส่งผลอย่างมากต่อตลาดเนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ต่างเฝ้ารอวันศุกร์เพื่อเตรียมรับกับเหตุการณ์สำคัญที่อาจเกิดขึ้น ถึงกระนั้น ธนาคารกลางญี่ปุ่นก็ละเว้นจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน และยังเกิดความลังเลที่จะปรับเปลี่ยนตามอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นและการรับมือกับความผันผวนต่อคู่เงิน USDJPY ถึงกระนั้น คู่เงินเยนก็สามารถพุ่งสู่จุดสูงสุดในรอบปี โดยพุ่งขึ้นสูงมากที่สุดในบรรดาคู่เงินหลัก
ในทางกลับกันคู่เงิน EURUSD ยังคงไม่มีท่าทีตอบรับกับ ECB และ Fed เนื่องจากทั้งคู่ยังพยายามคงการดำเนินนโยบายการเงินที่ดุดัน แม้ว่าค่าเงินยูโรจะมีปฏิกิริยาตอบกลับอย่างเข้มงวดมากขึ้นและยังถ่วงน้ำหนักดอลลาร์สหรัฐฯในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาอีกด้วย
อีกทางด้านหนึ่ง ความกลัวเรื่องการฟื้นตัวที่ช้าลงของจีนได้รับแรงผลักดันหลังจากที่จีนได้กล่าวอยู่เสมอว่าจะใช้มาตรการเพื่อรักษาตำแหน่งเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกด้วยการเพิ่มอุปสงค์ภายในประเทศ
นอกจากนี้ blockchain ETF สำหรับ Bitcoin และความหวังว่าสถานการณ์สำหรับนักลงทุนคริปโตจะดีขึ้นไม่สามารถหนุนช่วงแนวโน้มขาขึ้นของ BTCUSD และ ETHUSD ได้
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของมหาวิทยาลัยมิชิแกนและการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อเป็นแรงผลักดันสุดท้ายสำหรับตลาดที่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนอย่างหนักได้ อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกที่หลากหลายจาก Fed และท่าทีระแวดระวังของตลาดก่อนการเผยแพร่ค่าดัชนี PMIs ในสัปดาห์หน้า ตลอดจนคำให้การของ Powell ประธาน Fed อาจจำกัดปฏิกิริยาของเหล่านักลงทุนในตลาดทั่วโลกได้
ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !