EURUSD ยังคงได้รับแรงกดดันจากการพูดคุยของ ECB ,จับตามองการเผยแพร่ข้อมูล PMIs

ความเชื่อมั่นของตลาดยังคงผันผวนในช่วงต้นวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนกำลังรอรายงานข้อมูล PMI ที่สำคัญจากยูโรโซน สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา นอกเหนือไปจากความกังวลก่อนการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจแล้ว สถิติของสหรัฐฯที่เผยแพร่เมื่อเร็วๆนี้และความหวังที่จะได้เห็นเงินทุนไหลเข้าตลาดเอเชียมากขึ้นยังช่วยพยุงสินทรัพย์มีความเสี่ยง แม้ว่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯจะแข็งค่าขึ้นก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯพลิกกลับจากการถอยกลับของวันก่อนหน้าจากระดับสูงสุดในรอบหลายวัน ในขณะเดียวกันก็ติดตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯที่ปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้ ราคาทองคำและราคาน้ำมันดิบขยายตัวจากการฟื้นตัวของวันก่อนหน้า

ในอีกทางหนึ่ง ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปิดลบ แต่ตลาดหุ้นเอเชียแปซิฟิกกลับปรับตัวสูงขึ้น

และเป็นที่น่าสังเกตว่าความคิดเห็นเชิงนโยบายส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายจากผู้กำหนดนโยบายของ ECB และการหยุดดำเนินนโยบายของ BoE นั้นมีผลกระทบต่อราคาคู่เงิน EURUSD และคู่เงิน GBPUSD นอกจากนี้ คู่เงิน USDJPY พุ่งสูงขึ้นครึ่งเปอร์เซ็นต์เพื่อพลิกกลับจากการถดถอยของวันก่อนหน้า เนื่องจาก BoJ คงนโยบายการเงินไว้ไม่เปลี่ยนแปลงและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยังคงปรับเพิ่มขึ้น

เมื่อพูดถึงสกุลเงินดิจิทัล BTCUSD และ ETHUSD ต่างก็ดีดตัวจากการร่วงลงติดต่อกันสองวันโดยชะลอการร่วงลงรายวันที่ใหญ่ที่สุดในรอบสองสัปดาห์

มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:

• น้ำมันเบรนท์ (Brent) ขยายการฟื้นตัวของวันก่อนหน้าจากระดับต่ำสุดในรอบสัปดาห์ที่ราวๆ$93.65
• ทองคำ (Gold) ราคาทองคำยังคงพุ่งสูงขึ้นหลังจากที่ราคาร่วงลงเป็นระยะเวลาสามวันติดต่อกันที่ราวๆ $1,929 โดยพุ่งสูงขึ้น 0.5%
• ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD INDEX) ราคาเสนอซื้อ (Bid) ยังเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ราวๆ 105.55 หลังจากพุ่งสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 6.5 เดือนในช่วงต้นวัน
• ตลาดหลักทรัพย์ Wall Street ปิดลบแต่ หุ้นในโซนเอเชียแปซิฟิก ปรับตัวสูงขึ้นขณะที่ หุ้นในยุโรปและสหราชอาณาจักร ปรับตัวลดลง
• BTCUSD และ ETHUSD พุ่งขึ้นเล็กน้อยที่ราวๆ $26,700 และ $1,600 ตามลำดับ

การขาดโมเมนตัมกระตุ้นสภาวะทรงตัวของตลาด ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐฯยังคงแข็งค่าขึ้น

ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่ผันผวนเป็นผลให้ช่วงแนวโน้มขาขึ้นของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯได้ชะลอตัวที่ระดับสูงสุดในรอบหลายวันเมื่อวันก่อนหน้า แต่สถิติเศรษฐกิจที่ไม่น่าประทับใจและความคิดเห็นของธนาคารกลางจากยูโรโซนและสหราชอาณาจักรได้พยุงดอลลาร์สหรัฐฯในภายหลัง ถึงกระนั้น ยังมีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่รัฐบาลสหรัฐฯจะชัตดาวน์ลง เนื่องจากระยะเวลาเพดานหนี้จะหมดลงในปลายเดือนกันยายนนี้ นอกจากนี้ ยังมีการคาดหวังว่าการไหลเวียนของเงินทุนในเอเชียที่เพิ่มมากขึ้นจะช่วยให้จีนสามารถปกป้องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม การคงนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายของ BoJ และตลาดที่เทความสนใจไปที่ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางผลตอบแทนพันธบัตรที่พุ่งสูงขึ้นในรอบหลายปีจะส่งผลให้ความเชื่อมั่นยังคงสั่นคลอนและส่งผลต่อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงเช่นกัน

นอกจากนี้ มีการปรากฏความคิดเห็นที่ขัดแย้งกันของผู้กำหนดนโยบายของ ECB ในช่วงคืนวันพฤหัสบดีและต้นวันศุกร์ ในหมู่พวกเขา ส่วนใหญ่สนับสนุนให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม ในขณะที่บางส่วนคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในต้นปี 2024 ซึ่งจะสร้างแรงกดดันด้านลบต่อคู่เงิน EURUSD ได้ นอกจากนี้ ยอดค้าปลีกในสหราชอาณาจักรที่ตกต่ำลงร่วมกับการคงนโยบายการเงินเดิมของ BoE จะส่งผลต่อคู่เงิน GBPUSD ในขณะที่ ช่วงแนวโน้มขาลงคู่เงิน USDJPY จะได้รับผลกระทบจากการที่นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายของ BoJ ชะลอลง อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังคงมีความน่าเชื่อถือเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในช่วงเวลานี้ ขณะที่มีความหวังว่าจะมีอุปสงค์เพิ่มมากขึ้นจากจีนซึ่งจะช่วยดึงแรงเทซื้อน้ำมันดิบอีกครั้ง

โดยสรุป สถานการณ์ตลาดที่ไม่แน่นอนอาจทำให้นักลงทุนต้องเตรียมพร้อมก่อนการรายงานข้อมูลตัวเลขค่าดัชนี PMI ที่สำคัญ

• สัญญาณซื้อแรง: USDCAD
• สัญญาณขายแรง: ETHUSD, GBPUSD, Gold
• สัญญาณซื้อ: USD Index, Nasdaq, USDJPY
• สัญญาณขาย: DAX, FTSE 100, BTCUSD, AUDUSD, EURUSD

ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่ารายงาน PMIs

รายงานตัวเลขค่าดัชนี PMI บางส่วนจะกระตุ้นนักลงทุนในตลาด แม้ว่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯมีแนวโน้มที่จะรักษาตำแหน่งไว้ในเรดาร์ของตลาดกระทิงก็ตาม ในช่วงสัปดาห์หน้า การพูดคุยเรื่องการชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯและรายงานตัวเลขค่าดัชนี PMI ของจีนจะได้รับความสนใจต่อไป

ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !