ธนาคารกลางสหรัฐฯกู้ยืมเงินจากอนาคต โดยมีหนี้สาธารณะพุ่งเกิน 34 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ

นักลงทุนและผู้นำจากสถาบันการเงินชื่อดังหลายรายกำลังแสดงความกังวลเกี่ยวกับหายนะทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น เมื่อหนี้สาธารณะของสหรัฐฯเพิ่มสูงขึ้นเกิน 34 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ผู้เชี่ยวชาญบางคนยังแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของหนี้สาธารณะสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ส่วนสำคัญของปัญหานี้ต่างสืบเนื่องมาจากธนาคารกลางสหรัฐฯ

ผู้ร่วมตลาดต่างวิพากษ์วิจารณ์ผู้ร่างกฎหมายถึงนโยบายเศรษฐกิจที่ไม่มั่นคงของพวกเขา ซึ่งถือเป็นการ "กู้ยืม" จากคนรุ่นต่อไปในอนาคต เมื่อเวลาผ่านไป เส้นทางการคลังของสหรัฐฯจะไม่สามารถดำรงอยู่ได้อย่างยั่งยืน และนั่นแสดงให้เห็นว่าหนี้สินกำลังขยายตัวเร็วกว่าเศรษฐกิจ กล่าวอีกนัยหนึ่ง สหรัฐฯกำลังยืมเงินจากคนรุ่นต่อไป แทนที่จะให้ความสำคัญกับความยั่งยืนทางการคลังเป็นอันดับแรก

ณ จุดนี้ สิ่งสำคัญคือการตระหนักถึงบทบาทสำคัญของธนาคารกลางสหรัฐฯในการดำเนินงานทั้งหมดนี้ ซึ่งในแง่หนึ่ง FED มีส่วนเกี่ยวข้องกับทุกอย่างในระบบเศรษฐกิจ ในขณะเดียวกัน FED ก็ยังคงไม่ละทิ้งจุดยืนของตน

นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐฯยังได้รับมอบอำนาจและความรับผิดชอบใหม่ๆเพิ่มเติมแทบทุกปี บรรดาผู้เชี่ยวชาญมองว่า FED กลายเป็นองค์กรที่มีอำนาจมากเกินไป และยังไม่ต้องรับผิดชอบต่อใครก็ตาม นั่นมีส่วนที่ทำให้เกิดปัญหานี้ อีกทั้ง องค์กรที่ควรจะเป็นกลางทางการเมืองยังกลับกลายเป็นองค์กรที่มีแนวโน้มทางการเมืองเป็นอย่างมาก ซึ่งอาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อไปในอนาคต

ธนาคารกลางสหรัฐฯเร่งกระบวนการลดการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐฯ

หนี้สาธารณะของสหรัฐฯที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วกำลังสร้างความวิตกกังวลให้กับผู้เชี่ยวชาญหลายคน โดยพวกเขาเชื่อว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯกำลังใกล้เข้าสู่วิกฤตทางการเงิน สาเหตุหลักมาจากภาระหนี้สินที่เพิ่มมากขึ้น

โดยนักวิเคราะห์ยังได้ออกคำเตือนว่า แม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯดูเหมือนจะเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ยังคงมี "ระเบิดหนี้" ซ่อนตัวอยู่ข้างใต้ ทั้งนี้ สหรัฐอเมริกามีการขาดดุลงบประมาณอยู่ที่ระหว่าง 6% ถึง 7%

นอกจากนั้น ความกังวลของตลาดเกี่ยวกับหนี้สินอาจส่งผลกระทบต่อสถานะของดอลลาร์สหรัฐฯในฐานะสกุลเงินสำรองของโลก ปัจจัยนี้ยังชี้ให้เห็นว่ามีการเร่งของแนวโน้มกระบวนการลดการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐฯอย่างปฏิเสธไม่ได้ ตัวอย่างที่สำคัญคือ การที่ประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ อย่างเช่น ซาอุดีอาระเบีย ในปัจจุบันเริ่มยอมรับการชำระค่าน้ำมันด้วยสกุลเงินอื่นนอกเหนือไปจากดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อตลาดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !