เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา การเคลื่อนไหวของตลาดยังคงถูกจำกัด เนื่องจากช่วงวันหยุดในญี่ปุ่น และปฏิทินเศรษฐกิจในภูมิภาคอื่นๆที่ค่อนข้างบางเบา อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้าวันอังคาร ตลาดมีความเชื่อมั่นในทิศทางบวกแม้จะมีบรรยากาศการซื้อขายอย่างระมัดระวัง ในขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับการโจมตีของอิหร่านนั้นผ่อนคลายลง โดยความเชื่อมั่นดังกล่าวได้รับแรงหนุนจากการกลับมาของนักลงทุนญี่ปุ่นหลังวันหยุดยาว และการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากการคาดการณ์สภาวะเงินเฟ้อที่ลดลง
ในบริบทนี้ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) ชะลอตัวลง หลังจากร่วงลงติดต่อกันสองวัน แม้จะเป็นเช่นนั้น คู่เงิน EURUSD และคู่เงิน GBPUSD ยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ คู่เงิน USDJPY ยังคงแข็งแกร่ง โดยได้รับแรงหนุนจากบรรยากาศความเชื่อมั่นที่ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยและมุมมองที่หลากหลายเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ)
อีกทางหนึ่ง คู่เงิน AUDUSD,คู่เงิน USDCHF และคู่เงิน GBPJPY แสดงการปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในฐานะอินดิเคเตอร์ที่ชี้วัดความเสี่ยง ขณะที่ คู่เงิน NZDUSD ยังคงแข็งแกร่ง โดยเตรียมรับมือกับการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางนิวซีแลนด์ในวันพุธนี้
อย่างไรก็ตาม คู่เงิน USDCAD ชะลอตัวจากการปรับตัวสูงขึ้นก่อนหน้านี้ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งสูงขึ้น และดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนค่าลง โดยราคาน้ำมันดิบคงตัวอยู่ในระดับสูงเป็นเวลาสามสัปดาห์ แต่ยังขาดแรงหนุนจากการปรับตัวสูงขึ้นสี่วันติดต่อกัน
นอกจากนี้ ราคาทองคำเกิดการดึงกลับจากระดับสูงสุดในรอบกว่าหนึ่งสัปดาห์ โดยสิ้นสุดการปรับตัวสูงขึ้นสามวันติดต่อกัน เนื่องจากสภาวะการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่ปรับลดลง ประกอบกับนักลงทุนที่กำลังรอคอยการรายงานข้อมูลและเหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้
ในตลาดสกุลเงินดิจิทัล ทั้ง BTCUSD และ ETHUSD ต่างก็ปรับตัวลดลงเล็กน้อย หลังจากการขยับตัวสูงขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ โดย Ethereum ร่วงลงมากกว่า Bitcoin เนื่องจากข่าวเกี่ยวกับการพุ่งสูงขึ้น 20% ซึ่งขับเคลื่อนโดยนักลงทุน ETF
มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:
ความเชื่อมั่นของตลาดปรับตัวดีขึ้นก่อนการเปิดตลาดยุโรปในวันอังคารนี้ หลังจากเริ่มต้นสัปดาห์อย่างยากลำบาก โดยความวิตกกังวลเกี่ยวกับการโจมตีอิสราเอลของอิหร่านที่ผ่อนคลายลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจาก Axios ได้โต้แย้งรายงานของ Fox News ที่ระบุถึงภัยคุกคามที่ใกล้เข้ามา อีกทั้ง กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯยังได้ส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ของการหยุดยิงระหว่างอิหร่านและอิสราเอล ซึ่งจะช่วยยกระดับความเชื่อมั่นในตลาดอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับการเยือนอิสราเอลของ Antony Blinken รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ และความเป็นไปได้ที่ Fitch จะลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิสราเอลเนื่องจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เลวร้ายลง นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯที่มีการเผยแพร่ในวันนี้และการคาดการณ์สภาวะเงินเฟ้อล่าสุดที่อ่อนตัวลงจากธนาคารกลางสหรัฐฯประจำนิวยอร์กยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ท้าทายค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
ในขณะที่ คู่เงิน EURUSD ยังคงแข็งแกร่ง โดยได้รับแรงหนุนจากการรายงานข้อมูลราคาขายส่งและข้อมูลบัญชีเดินสะพัดของเยอรมนีที่มีทิศทางเป็นบวก คู่เงิน GBPUSD และคู่เงิน GBPJPY ต่างก็ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน เนื่องจากตัวเลขรายได้เฉลี่ยของสหราชอาณาจักรที่มีการรายงานออกมานั้นดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ประกอบกับอัตราการว่างงานที่ปรับลดลง ล้วนเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนแรงเทซื้อ แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงในจำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงาน (Claimant Count Change) จะเพิ่มสูงขึ้น โดยข้อมูลดังกล่าวอาจช่วยให้ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ Andrew Bailey สามารถคงจุดยืนเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่แข็งกร้าวยิ่งขึ้น หลังจากที่ Catherine Mann จากคณะกรรมการนโยบายการเงินของ BoE แสดงความเห็นเกี่ยวกับแรงกดดันด้านค่าจ้างระยะยาว
ทางฝั่งญี่ปุ่น แม้ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) จะปรับตัวสูงขึ้น แต่ความกังวลเกี่ยวกับยอดคำสั่งซื้อเครื่องจักรที่น่าผิดหวังและการรายงานข่าวเกี่ยวกับการประชุมพิเศษของสภาผู้แทนราษฎรญี่ปุ่นเพื่อหารือเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) ยังช่วยหนุนคู่เงิน USDJPY ซึ่งความตั้งใจของรัฐบาลญี่ปุ่นในการสนับสนุนค่าเงินเยนก็มีส่วนช่วยด้วยเช่นกัน
ส่วนทางด้านคู่เงิน AUDUSD ยังคงแข็งแกร่ง แม้จะมีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจในหลากหลายทิศทางจากดัชนีราคาค่าจ้าง ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และความเชื่อมั่นทางธุรกิจจาก NAB ในขณะเดียวกัน คู่เงิน NZDUSD ขยับตัวสูงขึ้นก่อนการประกาศนโยบายการเงินของธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) ในวันพุธ แม้ว่าจะมีการปรับลดลงของจำนวน Visitor Arrivals ก็ตาม
อีกทางด้านหนึ่ง การฟื้นตัวของคู่เงิน USDCAD จากระดับต่ำสุดในสามสัปดาห์เริ่มอ่อนตัวลง เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่แข็งแกร่ง ซึ่งได้รับอิทธิพลจากสถานการณ์ทางการเมืองในตะวันออกกลางและความกังวลเกี่ยวกับพายุเฮอริเคนในอ่าวเม็กซิโก นอกจากนี้ การปรับลดการประมาณการอุปสงค์น้ำมันปี 2024 ของ OPEC เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในจีน ก็ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สร้างความท้าทายให้กับแรงเทซื้อพลังงาน ในขณะเดียวกัน ราคาทองคำก็เกิดการดึงกลับจากระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์ โดยเป็นผลมาจากความเชื่อมั่นที่ผันผวนและแนวต้านทางเทคนิคที่ระดับประมาณ $2,475
หลังจากตลาดเกิดความผันผวนในช่วงที่ผ่านมา นักลงทุนจะจับตามองการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และหัวข้อข่าวความเสี่ยงเพื่อกำหนดทิศทางราคาในระหว่างวัน ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) สหรัฐฯ แถลงการณ์ของประธานธนาคารสหรัฐฯประจำแอตแลนตา Raphael Bostic และรายงานสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์สหรัฐฯของสถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) โดยข้อมูลความคืบหน้าเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างอิหร่าน-อิสราเอล รวมไปถึงสัญญาณเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ก็ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญเช่นกัน และอาจส่งผลกระทบต่อตลาดในช่วงการซื้อขายทางฝั่งสหรัฐฯ
ดอลลาร์สหรัฐฯกำลังพยายามหาแรงหนุนและต้องการสัญญาณใหม่ในการสนับสนุนแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของ Fed ประกอบกับบรรยากาศการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงครั้งใหม่เพื่อดึงดูดแรงเทซื้อ หากไม่เป็นเช่นนั้น แรงเทขายคู่เงิน USDJPY อาจมีโอกาสกลับมา ขณะที่คู่เงิน EURUSD และคู่เงิน GBPUSD อาจยังคงปรับตัวสูงขึ้น โดยแถลงการณ์ของ Bailey ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ จะมีความสำคัญต่อเทรดเดอร์ GBP ในการรักษาความแข็งแกร่งที่ได้เห็นในช่วงเช้าวันอังคาร
ทั้งนี้ คู่เงิน AUDUSD และคู่เงิน NZDUSD อาจปรับตัวลดลง ขณะที่ คู่เงิน USDCAD ก็อาจต้องเผชิญกับแรงเทขายที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่แข็งแกร่ง สุดท้าย ราคาทองคำและสกุลเงินดิจิทัลอาจชะลอตัวลง เนื่องจากตลาดกำลังรอการรายงานข้อมูลผู้บริโภคที่สำคัญของสหรัฐฯ รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในช่วงปลายสัปดาห์นี้
ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !