นักลงทุนอยู่ในสภาวะทรงตัวจากการเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ ในขณะเดียวกันก็เตรียมพร้อมสำหรับการรายงานข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ เช่นเดียวกับข้อมูล/เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจจากสหราชอาณาจักรและยุโรป ความเชื่อมั่นที่มีทิศทางเป็นบวกแม้จะมีท่าทีระมัดระวังในตลาดยังเป็นผลมาจากข่าวกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนและข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ผันผวน รวมไปถึงการไม่มีประเด็นเชิงลบที่สำคัญจากทางฝั่งภูมิรัฐศาสตร์
ด้วยเหตุนี้ เงินดอลลาร์สหรัฐฯจึงพยายามรักษาระดับการพุ่งสูงขึ้นเป็นเวลาสองวันที่ระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์ ขณะที่ราคาทองคำฟื้นตัวจากแนวรับก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ประมาณ $2,015 เช่นเดียวกันกับราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบสามสัปดาห์ อีกทั้งหุ้นในฝั่งเอเชียแปซิฟิกก็ขยับตัวสูงขึ้น
และเป็นที่น่าสังเกตว่าคู่เงิน AUDUSD ไม่ได้รับผลกระทบจากตัวเลข GDP ไตรมาส 3 ที่ปรับลดลง ในขณะที่ คู่เงิน NZDUSD พุ่งสูงขึ้นเป็นผู้นำกลุ่ม G10 เทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ คู่เงิน USDJPY ยังติดตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ตกต่ำลง ส่วนทางด้านคู่เงิน EURUSD ยังคงถูกกดดันเนื่องจากปัญหาทางเศรษฐกิจของกลุ่มยูโรโซนท่ามกลางการขาดการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดจากธนาคารกลางยุโรป (ECB)
ในอีกทางหนึ่ง BTCUSD และ ETHUSD ร่วงลงจากระดับสูงสุดในรอบปีในขณะที่พุ่งสูงขึ้นติดต่อกันห้าวันโดยพยายามรักษาระดับของช่วงแนวโน้มขาขึ้น
มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:
แม้ว่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯจะแข็งค่าขึ้นในวันอังคาร รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯที่ลดต่ำลงและข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ผันผวน แต่การทรงตัวของตลาดก่อนรายงานการจ้างงานสหรัฐฯในสัปดาห์นี้และแถลงการณ์ของ Fed ในสัปดาห์หน้าจะเป็นผลให้แรงเทขายดอลลาร์สหรัฐฯกลับมาอีกครั้ง
ทั้งนี้ สัญญาณการจ้างงานของสหรัฐฯที่อ่อนตัวลงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อ USD ในวันอังคารที่ผ่านมา หลังจากที่รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ Janet Yellen ได้ออกมากล่าวว่าเธอเห็นถึงสัญญาณความผิดปกติของตลาดแรงงานที่อ่อนตัวลงซึ่งอาจนำมาซึ่งความกลัวว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยข้อมูลตำแหน่งงานว่างของ US JOLTS ได้ปรับลดลงมากกว่าที่คาดไว้ในเดือนตุลาคมที่ 8.733M จาก 9.35M ของการรายงานก่อนหน้าและ 9.30M ของการคาดการณ์ของตลาด นอกจากนี้ สิ่งที่ช่วยให้ดอลลาร์สหรัฐฯยังคงแข็งค่าขึ้นก็คือ รายงานตัวเลขค่าดัชนี ISM Services PMI สำหรับเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเพิ่มขึ้นเกินการคาดการณ์ของตลาดที่ 52.0 และการรายงานก่อนหน้านี้ที่ 51.8 ถึง 52.7
นอกจากนั้น ความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นเล็กน้อยยังเป็นผลมาจากข่าวที่ว่า S&P และ Fitch ยังคงรักษาแนวโน้มอันดับเครดิตของจีนไว้ไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่า Moody's ปรับลดอันดับแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศไปเมื่อวันก่อนหน้าก็ตาม ในขณะเดียวกัน มีการอัปเดตจากกระทรวงการคลังของจีนที่ออกร่างกฎที่แนะนำว่ากองทุนประกันสังคมจะทำการลงทุนโดยตรงในตลาดหุ้นและจะลงทุนในหุ้นเอกชนด้วยเช่นกัน
อีกทางด้านหนึ่ง ฮามาสได้ออกมาประกาศว่าจะไม่มีการเจรจาหรือแลกเปลี่ยนผู้ต้องขังจนกว่าการรุกรานฉนวนกาซาจะหยุดลง เช่นเดียวกับคำมั่นสัญญาของอิสราเอลที่จะย้ายกลุ่มฮามาสและองค์กรที่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ โดยสถานการณ์นี้จะเพิ่มความกลัวทางภูมิรัฐศาสตร์และท้าทายช่วงแนวโน้มขาลงของดอลลาร์สหรัฐฯ
แม้ว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯจะขยับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยและมีการปรับปรุงตัวเลขข้อมูลค่าดัชนี PMI ของยูโรโซนในเดือนพฤศจิกายน แต่ค่าเงินยูโรก็ยังไม่ฟื้นตัวมากนัก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีความคิดเห็นไปทางการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย โดย Boris Vujcic สมาชิกสภาปกครองของ ECB ได้กล่าวว่าการดำเนินการพื้นฐานของเขาคือการไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกต่อไปและการตัดสินใจจะขึ้นอยู่กับการรายงานข้อมูลที่เกี่ยวข้อง และเป็นที่น่าสังเกตว่า Isabel Schnabel สมาชิกคณะกรรมการบริหารของ ECB กล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมนั้น 'ค่อนข้างไม่น่าจะเป็นไปได้' หลังอ้างอิงจากข้อมูลอัตราเงินเฟ้อล่าสุด ในขณะเดียวกัน การสำรวจความคาดหวังผู้บริโภครายเดือนของ ECB ในเดือนตุลาคมยังแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้ออาจคงที่ในอีก 12 เดือนข้างหน้าที่ 4.0% แต่การคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ที่ -1.3% เมื่อเทียบกับ 1.2% ที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
ในอีกทางหนึ่ง การสำรวจ Reuters Tankan ล่าสุดสำหรับผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่นปรับตัวดีขึ้นเป็นเดือนที่สองติดต่อกันที่ 12 ในเดือนธันวาคมเมื่อเทียบกับ 6 ที่รายงานในเดือนก่อนหน้า นอกจากนี้ รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (BOJ) Ryozo Himino ยังคงนโยบายเงินที่ผ่อนคลาย ขณะเดียวกันก็ปฏิเสธการพูดคุยเกี่ยวกับการกำหนดกรอบเวลาล่วงหน้าในการยุตินโยบายการเงินที่ผ่อนคลายนี้ โดยเงินเยนไม่ได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่คู่เงิน AUDUSD กลับแสดงสัญญาณเชิงลบเนื่องจากตัวเลข GDP ไตรมาสที่ 3 ของออสเตรเลียมีอัตราการเติบโตที่ช้าที่สุดในรอบสองปีที่ +0.2% QoQ เมื่อเทียบกับที่คาดการณ์ไว้ 0.4%
นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย Alexander Novak กล่าวว่ารัสเซียตั้งใจที่จะปฏิบัติตามพันธกรณีในการลดปริมาณน้ำมันและเชื้อเพลิงโดยสมัครใจโดยเร็วที่สุดตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม ซึ่งน่าจะหนุนราคาพลังงานท่ามกลางความกังวลจากสถานการณ์ความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาด
เมื่อเร็วๆนี้ รายงานเสถียรภาพทางการเงินของสหราชอาณาจักร (FSR) ไม่สามารถสร้างแรงหนุนให้กับแรงเทซื้อคู่เงิน GBPUSD ได้แม้ว่าจะร่วงลงติดต่อกันเป็นเวลาสองวันก็ตาม นอกจากนี้ รายงานคำสั่งซื้อโรงงานของเยอรมนีที่ตกต่ำลงและสภาวะระมัดระวังของตลาดก่อนการรายงานยอดค้าปลีกในยูโรโซน รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงการจ้างงาน ADP ของสหรัฐฯจะทำให้เกิดแรงกดดันด้านลบต่อคู่เงิน EURUSD อีกด้วย
อีกทางด้านหนึ่ง เศรษฐกิจของสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกามีแนวโน้มที่จะเกิดความผันผวนและส่งผลกระทบต่อนักลงทุนในตลาด โดยที่สถานการณ์ของเงินดอลลาร์สหรัฐฯนั้นจะดูไม่มั่นคงนัก
ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !