ทองคำแกว่งตัวที่สถิติสูงสุดเมื่อเริ่มต้นสัปดาห์ NFP

ตลาดอยู่ในสภาวะทรงตัวจากการเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ ขณะที่ช่วงเวลาซื้อขายของยุโรปเริ่มต้นขึ้น ตามการเคลื่อนไหวที่โดดเด่นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วยเหตุนี้ ดอลลาร์สหรัฐฯจึงได้รับแรงหนุนจากพาดหัวข่าวด้านความเสี่ยงเชิงลบจากประเทศจีนและตะวันออกกลาง ในขณะเดียวกันก็เตรียมพร้อมรับรายงานการจ้างงานของสหรัฐฯในวันศุกร์นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed เมื่อเร็วๆนี้

ด้วยเหตุนี้ คู่เงิน USDCHF จึงพุ่งขึ้นสูงสุดตามมาด้วยคู่เงิน AUDUSD ที่ครองอันดับที่สองเนื่องจากสถานะตัวชี้วัดความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ซบเซาและความผันผวนของการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) จะจำกัดการเคลื่อนไหวของคู่เงิน USDJPY ในขณะที่ คู่เงิน EURUSD และคู่เงิน GBPUSD ถอยกลับจากระดับสูงสุดในรอบหลายวัน

นอกจากนี้ ราคาทองคำยังพุ่งสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดตลอดกาลที่ประมาณ $2,150 ก่อนที่จะกลับมาต่ำกว่า $2,100 อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบก็ร่วงลงเช่นเดียวกันท่ามกลางปัญหาเรื่องอุปสงค์พลังงานและความกลัวเรื่องความผันผวนจากข้อตกลงลดกำลังการผลิตของ OPEC+

ในอีกทางหนึ่ง BTCUSD และ ETHUSD พุ่งสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายนและเดือนพฤษภาคม 2022 ตามลำดับ ท่ามกลางความอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯในวงกว้างและความเชื่อมั่นที่ปรับตัวดีขึ้น ก่อนเหตุการณ์การลดผลตอบแทนจากการขุดลงครึ่งหนึ่งของ BTC ครั้งที่สี่ รวมถึงการพูดคุยกันเกี่ยวกับการอนุมัติ spot ETF

มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:

• น้ำมันเบรนท์ (Brent) ร่วงลงไปที่ระดับต่ำสุดในรอบสองสัปดาห์ที่ราวๆ $78.30 โดยลดลง 1.80% ระหว่างวัน
• ทองคำ (Gold) ราคาทองคำร่วงลงไปที่ $2,061 หลังจากพุ่งสูงขึ้นสู่จุดสูงสุดที่ราวๆ $2,418 โดยลดลง 0.45% ในวันนี้
• ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD INDEX) มีราคาเสนอซื้อ (bid) เป็นบวกโดยพลิกกลับจากการดึงกลับของวันก่อนหน้าที่ 103.50
• ตลาดหลักทรัพย์ Wall Street ปิดบวก หุ้นในโซนเอเชียแปซิฟิก ปรับตัวสูงขึ้นขณะที่ หุ้นในยุโรปและสหราชอาณาจักร ยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน
• BTCUSD และ ETHUSD ยังคงพุ่งสูงขึ้นที่จุดสูงสุดในรอบหลายเดือนที่ประมาณ $41,400 และ $2,250 ตามลำดับ

ดอลลาร์สหรัฐฯฟื้นตัวท่ามกลางการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed…..

ความคิดเห็นเรื่องการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายจากประธาน Fed Jerome Powell และรายงานตัวเลขค่าดัชนี PMI ของสหรัฐฯที่ตกต่ำส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯร่วงลงไปก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯที่ยังไม่มีการฟื้นตัวยังช่วยหนุนความเชื่อมั่นของแรงเทขายเงินดอลลาร์สหรัฐฯในตลาดอีกด้วย แม้ว่าจะมีความกังวลทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางและปัญหาไวรัสจากจีนก็ตาม

ทั้งนี้ Powell จาก Fed อ้างถึงความเสี่ยงที่ 'สมดุล' ของอัตราดอกเบี้ย เนื่องจาก FOMC กำลัง "ก้าวไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง" ประธาน Fed ยังกล่าวอีกว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงสูงกว่าระดับเป้าหมายแต่ยังคงเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ถูกต้อง อีกทั้งความคิดเห็นของเขายังสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed ในช่วงต้นปี 2024 ในขณะเดียวกันก็ลดโอกาสที่จะได้เห็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง

นอกจากนี้ Austan Goolsbee ประธาน Fed แห่งชิคาโกได้ออกมากล่าวว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังลดลงตรงตามที่พวกเขา (Fed) ต้องการ ซึ่งในทางกลับกันกลับหนุนนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายในการดำเนินนโยบายการเงินในอนาคตของธนาคารกลางสหรัฐฯ ผู้กำหนดนโยบายยังอ้างถึง 'การล่มสลาย' ในจีนว่าเป็นความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯในปีหน้า อย่างไรก็ตาม การรายงานครั้งสุดท้ายของข้อมูล US S&P Global Manufacturing PMI ในเดือนพฤศจิกายนตรงกับการคาดการณ์เบื้องต้นที่ 49.4 แต่รายงานข้อมูล ISM Manufacturing PMI มีตัวเลขอยู่ที่ 46.7 อีกครั้งในเดือนดังกล่าว เมื่อเทียบกับการประมาณการของตลาดที่ 47.9

ยิ่งไปกว่านั้น ความกังวลด้านภูมิรัฐศาสตร์ยังส่งผลให้นักลงทุนมุ่งหน้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยแบบดั้งเดิม อย่างเช่น ทองคำ และเป็นผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯชะลอการร่วงลง อีกทางด้านหนึ่งในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กองทัพเรือสหรัฐฯได้ยืนยันว่ามีการโจมตีสี่ครั้งต่อเรือพาณิชย์ของสหรัฐฯสามลำในทะเลแดง โดยกลุ่มฮูตีของเยเมนออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อการโจมตีด้วยโดรนและขีปนาวุธ ขณะที่กองทัพสหรัฐฯออกมาตอบโต้ในภายหลัง นอกจากนี้ วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันของสหรัฐฯยังเรียกร้องให้ประธานาธิบดีไบเดนจำกัดการเดินทางระหว่างสหรัฐฯและจีน หลังจากมีข่าวการระบาดของโรคปอดบวมอย่างรุนแรงในประเทศจีน และเป็นที่น่าสังเกตว่าหน่วยงานด้านสุขภาพของจีนอย่าง คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (NHC) ก็ได้จัดงานแถลงข่าวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานี้ โดยแนะนำให้ลดการรวมตัวขนาดใหญ่ในที่สาธารณะ

ในอีกทางหนึ่ง การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวนของแคนาดาและราคาน้ำมันที่ตกต่ำลงได้ผลักดันราคาคู่เงิน USDCAD เนื่องจากอัตราการว่างงานของประเทศในเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2022 โดยตรงกับการคาดการณ์ของตลาดที่ 5.8% เมื่อเทียบกับ 5.7% ของการรายงานก่อนหน้า ในขณะที่การเปลี่ยนแปลงการจ้างงานสุทธิเพิ่มขึ้น 24.9K สำหรับเดือนดังกล่าว เมื่อเทียบกับการรายงานครั้งก่อนๆที่ 17.5K และการคาดการณ์ที่ 15K นอกจากนี้ รายงานตัวเลข S&P Global Manufacturing PMI ของแคนาดายังปรับลดลงเหลือ 47.7 จาก 48.6 ของการรรายงานก่อนหน้านี้

ก่อนหน้านี้ Asahi Noguchi สมาชิกคณะกรรมการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเพิ่มค่าจ้างอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ และยังคงการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายและพยุงระดับราคาคู่เงิน USDJPY

• สัญญาณซื้อแรง: USDCAD
• สัญญาณขายแรง: ETHUSD, GBPUSD, Gold
• สัญญาณซื้อ: USD Index, Nasdaq, USDJPY
• สัญญาณขาย: DAX, FTSE 100, BTCUSD, AUDUSD, EURUSD

เริ่มต้นสัปดาห์สำคัญอย่างเชื่องช้า…..

แม้ว่า รายงานตัวเลขข้อมูล US ISM Services PMI และรายงานการจ้างงานจะเป็นไฮไลท์สำคัญของสัปดาห์นี้ แต่การขาดความคิดเห็นจากผู้กำหนดนโยบายของ Fed เป็นเวลาสองสัปดาห์ก่อนถึงการประชุม FOMC ในช่วงกลางเดือนธันวาคมก็ท้าทายนักลงทุนในตลาดในช่วงต้นวันจันทร์นี้เช่นกัน ขณะที่ รายงานคำสั่งซื้อโรงงานของสหรัฐฯ และแถลงการณ์ของประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) Christine Lagard จะกระตุ้นนักลงทุนได้ในระหว่างวัน

ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !