แรงเทซื้อทองคำจับตาดูที่ $2,000 ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรส่งผลกระทบต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

ความเชื่อมั่นในตลาดมีทิศทางที่ดีขึ้น ขณะที่นักลงทุนต่างได้รับการกระตุ้นจากโอกาสในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed ที่น้อยลง รวมถึงความเชื่อมั่นที่เป็นบวกเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการทูตของจีนกับญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ การปรับลดลงของอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯและรายงานการจ้างงานในสัปดาห์นี้ผลักดันให้นักลงทุนถอยห่างจากดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะเดียวกันก็สนับสนุนสินค้าโภคภัณฑ์และค่าเงิน AUD,NZD

ด้วยเหตุนี้ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) จึงรั้งการร่วงลงในรอบสัปดาห์ ในขณะที่ราคาทองคำคาดการณ์ว่าจะพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบสี่สัปดาห์ และเป็นที่น่าสังเกตว่าราคาน้ำมันดิบได้รับผลกระทบจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนค่าลง ท่ามกลางความกังวลว่าความต้องการพลังงานจากชาติตะวันตกจะลดน้อยลง เช่นเดียวกับความพร้อมของ OPEC+ ที่จะผ่อนคลายการลดกำลังการผลิตหากจำเป็น

ในอีกทางหนึ่ง คู่เงิน GBPUSD ยังคงได้รับแรงกดดันเนื่องจากรายงานยอดค้าขายปลีกในสหราชอาณาจักรมีตัวเลขที่น่าผิดหวังขณะที่พุ่งสูงขึ้นในรอบสัปดาห์ ในขณะเดียวกันภาวะกระทิงของคู่เงิน EURUSD ก็ชะลอตัวก่อนการแถลงการณ์ของประธาน ECB ; Lagarde

เป็นที่น่าสังเกตว่า BTCUSD และ ETHUSD ร่วงลงสัปดาห์แรกในรอบห้าสัปดาห์ แม้ว่าจะพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดในรอบหลายเดือนในช่วงต้นสัปดาห์ ขณะที่นักลงทุนประเมินความเชื่อมั่นอีกครั้งเกี่ยวกับการอนุมัติ Spot ETF และการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมคริปโต

มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:

• น้ำมันเบรนท์ (Brent) ยังอยู่ในแนวโน้มขาลงสี่วันที่ระดับต่ำสุดในรอบหกสัปดาห์ที่ราวๆ $77.80
• ทองคำ (Gold) ราคาเสนอซื้อทองคำขยับขึ้น พลิกกลับจากการร่วงลงของสัปดาห์ก่อนหน้า โดยมีราคาเสนอซื้อ (bid) เป็นบวกเล็กน้อยที่ $1,985
• ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD INDEX) ขยายการดีดตัวขึ้นในช่วงกลางสัปดาห์จากระดับต่ำสุด 2.5 เดือนที่ราวๆ 104.50
• ตลาดหลักทรัพย์ Wall Street ปิดผสมแต่ หุ้นในโซนเอเชียแปซิฟิก ปรับลดลงขณะที่ หุ้นในยุโรปและสหราชอาณาจักร ยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน
• BTCUSD และ ETHUSD ร่วงลงเล็กน้อยที่ประมาณ $36,300 และ $1,980 ตามลำดับ โดยชะลอตัวจากการพุ่งขึ้นสูงสุดของวันก่อนหน้า

ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรส่งผลกระทบต่อดอลลาร์ โดยกระตุ้น XAUUSD...

ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) ไม่เพียงพลิกกลับจากการพุ่งสูงขึ้นในรอบสัปดาห์ก่อนหน้านี้ แต่ยังถูกกดดันที่ระดับต่ำสุดในรอบสามเดือน เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯส่วนใหญ่ที่เผยแพร่ในช่วงสัปดาห์นี้ไม่เป็นผลดีต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed นอกจากนี้ การที่ตลาดมุ่งเป้าหมายไปที่พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอย่างรวดเร็วยังส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรลดต่ำลงและสร้างแรงกดดันด้านลบให้กับค่าเงิน USD ซึ่งจะส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางแนวโน้มความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯและญี่ปุ่นที่มีแนวโน้มดีขึ้น นอกจากนี้ ความคาดหวังที่จะได้เห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากญี่ปุ่นและจีน รวมไปถึงสภาพเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในอินเดียยังทำให้ภาวะกระทิงของ XAUUSD ยังคงกุมบังเหียนไว้ได้

นอกเหนือไปจากการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจแล้ว ความคิดเห็นที่หลากหลายจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ยังส่งผลกระทบต่อเงินดอลลาร์สหรัฐฯและอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ซึ่งทำให้ราคาทองคำแข็งค่าขึ้น นอกจากนี้ ข้อกล่าวหาเรื่องการปั่นหุ้นในตลาดตราสารหนี้ยังส่งผลให้นักลงทุนหันเหไปทาง XAUUSD อีกด้วย โดย Loretta Mester ประธาน Fed แห่งคลีฟแลนด์ได้กล่าวว่า จะมีความจำเป็นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจ Mester ยังกล่าวอีกว่าเธอคาดว่าการเติบโตจะชะลอตัวลงต่ำกว่าแนวโน้ม นอกจากนี้ Lisa Cook ผู้ว่าการ Fed ยังได้อ้างถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ทั้งสองทางของสภาพเศรษฐกิจ ในขณะเดียวกันก็คาดหวังว่าการชะลอตัวทางเศรษฐกิจจะเป็นไปอย่างนุ่มนวล นอกจากนี้ยังมีรายงานที่อ้างว่าเจ้าหน้าที่ Fed สามคนคิดเห็นว่าในกรณี "งบดุลของ Fed ลดลงอย่างมาก" จะทำให้ความต้องการในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้นลดลงและท้าทายการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดอีกด้วย

โดยสรุป ทิศทางที่ยังไม่ชัดเจนของตลาดได้กระตุ้นราคาทองคำท่ามกลางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯที่ตกต่ำลง

• สัญญาณซื้อแรง: USDCAD
• สัญญาณขายแรง: ETHUSD, GBPUSD, Gold
• สัญญาณซื้อ: USD Index, Nasdaq, USDJPY
• สัญญาณขาย: DAX, FTSE 100, BTCUSD, AUDUSD, EURUSD

จับตามองประธาน ECB และการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ…

แถลงการณ์ของประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) Christine Lagarde ร่วมกับข้อมูลที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯและแถลงการณ์จากเจ้าหน้าที่ Fed บางส่วนจะกระตุ้นนักลงทุนทองคำ ทั้งนี้ ประธาน ECB กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่าระบบการเงินของยุโรปได้หลีกเลี่ยงสถานการณ์ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดแล้ว นอกจากนี้ Mario Centeno ผู้กำหนดนโยบายของ ECB ยังได้กล่าวเสริมว่า อัตราดอกเบี้ยจะไม่กลับมาเป็นศูนย์อย่างที่ต้องการแต่จะปรับลดลงในที่สุด ด้วยเหตุนี้ นักลงทุนในตลาดจะมองหาสัญญาณเพิ่มเติมเพื่อยืนยันการสิ้นสุดนโยบายการเงินที่เข้มงวด รวมไปถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับลดลง และจากการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจก่อนการรายงานค่าดัชนี PMI เบื้องต้นในสัปดาห์หน้าสำหรับเดือนพฤศจิกายนและรายงานการประชุม FOMC

ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !