ทองคำร่วงลง ขณะที่ดอลลาร์ยังคงทรงตัว

หลังจากที่ตลาดดูเหมือนว่าจะไปในทิศทางบวกแม้ว่านักลงทุนยังมีท่าทีระมัดระวังมาสองสามวัน แต่ในช่วงต้นวันพุธนี้ ข้อมูลที่มีผลต่อปัจจัยความเสี่ยงของตลาดมีทิศทางไปในแง่ลบ เนื่องจากข่าวที่เกี่ยวข้องกับจีน สหรัฐฯ และรัสเซีย ส่งผลโดยตรงต่อความเชื่อมั่น นอกจากนี้การดำเนินนโยบายการเงินที่ดุเดือดของ Fed เพื่อหนุนการรีบาวน์ของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯก็ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนด้วยเช่นกัน

ด้วยเหตุนี้ ราคาทองคำและราคาน้ำมันดิบจึงร่วงลง รวมถึงค่าเงินออสเตรเลียก็ร่วงลงเช่นเดียวกัน สืบเนื่องมาจากความเชื่อมั่นในตลาดที่ลดลง

อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่า ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรที่มีรายงานที่ดีขึ้นทำให้ GBPUSD สามารถต่อสู้กับ USD ที่แข็งค่าขึ้นได้ ในขณะที่ USDJPY ร่วงลงหนักสุดในสกุลเงิน G10 เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

นอกจากนี้ ฟิวเจอร์สของหุ้นสหรัฐฯ จะคงยังเป็นช่วงขาขึ้นในอีกสามวันข้างหน้า ในขณะที่หุ้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกร่วงลง ทางด้านหุ้นในยูโรโซนและสหราชอาณาจักรยังร่วงลงเล็กน้อยในช่วงชั่วโมงแรก

ในทางกลับกัน การแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์สหรัฐฯร่วมกับการหยุดละเว้นค่าธรรมเนียม Ethereum และความกังวลเกี่ยวกับค่าไฟฟ้า ส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในการขุด BTCUSD และ ETHUSD

มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:

• น้ำมันเบรนท์ (Brent) ดีดตัวกลับจากวันก่อนหน้าจากระดับต่ำสุดในรอบเดือนโดยล่าสุดร่วงลงไปที่ราวๆ $84.20
• ทองคำ (Gold) ราคาทองคำยังร่วงลงไปที่ราวๆ $1,992 ในขณะที่มีการขาดทุนระหว่างวันที่ราวๆ 0.62%
• ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD INDEX) ปิดบวกเล็กน้อยเนื่องจากแรงเทซื้อเข้าใกล้ระดับที่ราวๆ 102.00
• ตลาดหลักทรัพย์ Wall Street ปิดผสม ขณะที่หุ้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยังคงร่วงลง อย่างไรก็ตามหุ้นในยุโรปและอังกฤษร่วงลงเล็กน้อยในช่วงชั่วโมงแรก
• BTCUSD และ ETHUSD ล่าสุดร่วงลงที่ราวๆ $30,100 และ $2,070 ตามลำดับ

ความเชื่อมั่นที่ลดลงส่งผลต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

จากบทบาทของจีนที่ถูกพูดถึงในสงครามรัสเซีย-ยูเครนและการรุกรานไต้หวัน รวมถึงความกลัวที่ว่าความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของประเทศจีนนี้จะสั่นคลอนระบบโครงสร้างพื้นฐานของชาติตะวันตกให้ได้รับผลกระทบด้วย ซึ่งทุกเรื่องที่กล่าวมานี้มีส่วนทำให้ทิศทางของตลาดแปรปรวนอย่างหนักในเช้าวันพุธนี้

ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของปัจจัยต่างๆที่ส่งผลให้ความเชื่อมั่นในตลาดลดลง ซึ่งมาจากการตัดสินใจดำเนินนโยบายการเงินที่ดุเดือดของผู้ว่าการ Fed และรายงานข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรที่มีทิศทางบวก ปัจจัยทั้งสองอย่างนี้อาจจะกระตุ้นความกังวลเรื่องการดำเนินนโยบายการเงินที่ดุดันของธนาคารกลางสหรัฐฯต่อไป นอกจากนี้ความกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยกลับมาอยู่ในความสนใจหลักอีกครั้ง ท่ามกลางรายงานสถิติต่างๆที่ตกต่ำลงเมื่อเร็วๆ นี้ รวมถึงความกลัวต่ออัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นเป็นเวลานาน

ทางด้านราคาทองคำไม่สามารถrพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้ เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรนั้นฟื้นตัวและทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯดีดตัวขึ้น นอกจากนี้ความกังวลที่ลดลงเกี่ยวกับจีน รวมถึงความกังขาเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศจีน ที่แม้ว่าข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดจากปักกิ่งจะออกมาดีก็ตาม ก็ส่งผลต่อราคาทองคำเช่นกัน

ทางฝั่งตลาดคริปโต กฎระเบียบที่ประกาศเพิ่มเข้ามาและการเพิ่มขึ้นในส่วนของต้นทุน รวมถึงความกังวลด้านสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดแรงกดดันด้านลบต่อ BTCUSD และ ETHUSD โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่าขึ้น

• สัญญาณซื้อแรง: USDJPY
• สัญญาณขายแรง: ETHUSD, GBPUSD
• สัญญาณซื้อ: USD Index, USDCAD, Nasdaq, EURUSD
• สัญญาณขาย: DAX, FTSE 100, gold, BTCUSD, AUDUSD

ปัจจัยเสี่ยงต่างๆ

การที่ Fed เผยแพร่ The Beige Book และการรายงานครั้งสุดท้ายของอัตราเงินเฟ้อของยุโรปเป็นข้อมูลสำคัญที่ได้รับความสนใจของวันนี้ ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อความเสี่ยงในตลาดนี้จะเป็นกุญแจสำคัญในการเฝ้าดูทิศทางที่ชัดเจนของตลาดท่ามกลางภาวะความเชื่อมั่นของนักลงทุนตกตำ่ลง หากสภาวะการณ์ของตลาดยังคงผันผวนร่วมกับการดำเนินนโยบายการเงินอย่างดุเดือดของ Fed เพื่อรักษาระดับผลตอบแทนพันธบัตรให้สูงขึ้น จะทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯสามารถขยายการวิ่งขึ้นจากครั้งล่าสุดและกดราคาทองคำรวมถึงหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์และค่าเงินออสเตรเลียได้อีกด้วย

ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !