ในขณะที่ตลาดคาดหวังว่า FED จะสามารถยุติการคุมเข้มเงินเฟ้อในขณะนี้ได้ แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายรายเชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังไม่ลดลงตามที่นักลงทุนส่วนใหญ่คาดไว้ แม้รายงาน และข้อมูลที่เปิดเผยออกมาล่าสุดจะดีกว่าที่คาดไว้ ทำให้นักวิเคราะห์บางส่วนมั่นใจว่าปัญหาเงินเฟ้ออาจกลายเป็นวิกฤตยาวนานนับทศวรรษ ซึ่งอาจทำให้ราคาทองคำพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ได้
สำหรับราคาทองคำที่กำลังขึ้นอยู่ในขณะนี้อาจพุ่งไปแตะ $2,050 ต่อออนซ์ได้ ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญยังเชื่อว่าสินค้าโภคภัณฑ์จะดีดตัวขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ซึ่งมากกว่าราคาสูงสุดในเดือนสิงหาคม 2020 ที่ผ่านมาได้
ดังนั้นหากพิจารณาจากแนวโน้มตลาดทองคำในช่วงนี้แล้วนั้น มีโอกาสสูงที่ราคาจะดีดตัวกลับไปอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยมีสาเหตุมาจากดัชนีน้ำมัน (Oil indicies) ที่พุ่งขึ้นถึง 200% และหุ้น GDX ที่ย่อลงไปราวๆ 35%
นอกจากนี้ FED ยังคงใช้มาตรการเพื่อผ่อนคลายการคุมเข้มเงินเฟ้อเชิงรุก ซึ่งทำให้ตลาดยังไม่สามารถคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในอนาคตได้ โดยหลังจากที่ FED หยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ย ปัญหาเงินเฟ้อครั้งใหญ่จะตามมาในทันที หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือแม้ว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลง ปัญหาเงินเฟ้อครั้งใหม่ก็จะตามมาอยู่ดี
ทั้งนี้นักลงทุนยังคงต้องเผชิญกับความจริงที่น่าสะพรึงนั่นคือ อัตราเงินเฟ้อจะไม่มีวันกลับไปเป็น 2% ตามที่ FED ได้ให้สัญญาไว้ ซึ่งเงินเฟ้อจะกลายเป็นปัญหายาวนานนับสิบปี ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่มองหาตราสารที่มั่นคงในการลงทุนและนั่นก็คือทองคำนั่นเอง
นักลงทุนหลายรายคงทราบถึงความสัมพันธ์ระหว่างทองคำกับเงินเฟ้อในทศวรรษที่ 1970 แล้ว ซึ่งในตอนนี้เหตุการณ์ดังกล่าวกำลังกลับมาเกิดขึ้นอีกครั้งโดยมีความแตกต่างกันเล็กน้อย ทั้งนี้ในช่วงปี 1973 FED ได้ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้นมาก เป็นผลให้ราคาทองคำปรับฐานขึ้นไปที่ 45%
โดยไม่กี่ปีต่อมา FED ต้องยอมจำนนต่ออัตราเงินเฟ้อรายปีที่ยังคงอยู่ที่ 5% โดยไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ อย่างไรก็ตามอัตราเงินเฟ้อรายเดือนมีแนวโน้มลดลง ในขณะที่อัตราเงินรายปีต่อปียังคงสูงขึ้นเป็นอย่างมาก
ทันทีที่ตลาดรับรู้ว่า FED ยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ราคาทองคำก็ได้รับแรงกระเพื่อมใหม่ซึ่งส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ โดยอาจพุ่งไปถึง $2,000 ถึง $2,050 รวมถึงอาจดีดตัวสูงขึ้นไปได้มากกว่านั้นอีก
สิ่งสำคัญต่อมาที่ตลาดควรยอมรับคือปัญหาเงินเฟ้อยังคงไม่สิ้นสุด ทำให้ขณะนี้ทองคำยังคงไม่มีแนวต้านที่ชัดเจน ซึ่งหมายความว่าราคาทองคำสามารถพุ่งขึ้นไปสูงเท่าใดก็ได้ นักลงทุนไม่ควรแปลกใจหากราคาทองคำอยู่ที่ $3,000 ภายในสิ้นปีนี้
ทั้งนี้แรงกระตุ้นอื่นๆที่จะผลักดันราคาทองคำให้พุ่งขึ้นได้แก่ การที่จีนกลับมาเปิดประเทศ และแรงกดดันต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ อย่างไรก็ตามควรคำนึงถึงการกลับสู่ตลาดของนักลงทุน ETF ทางฝั่งตะวันตก รวมถึงการที่ธนาคารกลางหลายแห่งได้นำทองคำไปเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ
ขอให้คุณโชคดีในการเทรด!