NZDUSD ฟื้นตัวจากความกังวลทางการเมืองของนิวซีแลนด์ แต่ช่วงแนวโน้มขาขึ้นยังคงต้องจับตามอง

ภาวะกระทิงและหมีปะทะกันในช่วงเช้าของวันจันทร์นี้ ขณะที่มีความผันผวนทางภูมิรัฐศาสตร์และยังไม่มีกำหนดการเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจมากนัก

ทั้งนี้ การแทรกแซงของอิหร่านในสงครามอิสราเอล-ฮามาสนั้นกลับขัดแย้งกับการเสนอการหยุดยิง 5 ชั่วโมงที่ฉนวนกาซาเพื่อบรรเทาความหวาดกลัวในสงคราม สิ่งที่หนุนความเชื่อมั่นแม้ท่าทีของตลาดจะยังมีความระแวดระวังคือความพร้อมของผู้ว่าการ PBOC ในการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม การพูดคุยเรื่องการดำเนินนโยบายการเงินอย่างเข้มงวดของธนาคารกลางรายใหญ่ในการประชุม IMF ที่โมร็อกโก และการชะลอการปรับลดลงของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯจะทดสอบความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาด

อีกทางหนึ่ง การเลือกตั้งทั่วไปของนิวซีแลนด์เป็นผลให้มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่และส่งผลให้คู่เงิน NZDUSD ดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบเดือน ซึ่งในทางกลับกันก็ได้ร่วมกับการข่าวที่เกี่ยวข้องกับจีนั้นกระตุ้นคู่เงิน AUDUSD ด้วยเช่นกัน

ส่วนทางด้านราคาทองคำไม่ได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบกลับปรับตัวสูงขึ้นหลังจากพุ่งสูงขึ้นอย่างหนักในวันก่อนหน้า นอกจากนี้ หุ้นในเขตเอเชียแปซิฟิกเป็นบวกเล็กน้อยขณะที่ติดตามฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯ แม้ว่าตลาดหุ้น Wall Street จะมีความผันผวนในวันศุกร์ที่ผ่านมาก็ตาม

ทางฝั่งของ BTCUSD และ ETHUSD ไม่ได้รับผลกระทบจากข่าวเรื่องการขโมย Bitcoin และ Ethereum มูลค่า 1.8 ล้านดอลลาร์ และพุ่งสูงขึ้นหลังจากอยูุ่ในแนวโน้มขาลงสองสัปดาห์เนื่องจากความเชื่อมั่นที่เกี่ยวกับ ETF ที่เติบโตขึ้น

มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:

• น้ำมันเบรนท์ (Brent) อ่อนตัวลงหลังจากพุ่งสูงขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน โดยลดลง 0.30% ระหว่างวันที่ราวๆ $91.00
• ทองคำ (Gold) ราคาทองคำกลับตัวจากเส้น 200-day SMA หลังจากดีดตัวขึ้นจากแนวโน้มขาลงสองสัปดาห์ในช่วงสุดท้าย โดยลดลง 1.0% ที่ราวๆ $1,910
• ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD INDEX) ร่วงลงครั้งแรกในรอบสามวันโดยลดลง 0.20% ระหว่างวันที่ราวๆ 106.50
• ตลาดหลักทรัพย์ Wall Street ปิดผสมแต่หุ้นในโซนเอเชียแปซิฟิก ปรับตัวสูงขึ้นขณะที่ หุ้นในยุโรปและสหราชอาณาจักร มีความผันผวน
• BTCUSD และ ETHUSD พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบสองสัปดาห์และในรอบหนึ่งสัปดาห์ตามลำดับ ที่ประมาณ $27,900 และ $1,580

ตลาดยังคงผันผวน

แม้ว่าสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงกำลังพุ่งสูงขึ้นเล็กน้อยในช่วงหลัง แต่ก็ไม่สามารถที่จะยืนยันสภาวะการพร้อมรับความเสี่ยงของตลาดได้ เนื่องจากปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์ร่วมกับความคิดเห็นเรื่องการดำเนินนโยบายการเงินที่แข็งกร้าวของธนาคารกลางหลายแห่งและความหวาดกลัวทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับจีน ยุโรป และสหราชอาณาจักร

ทั้งนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านกล่าวในช่วงสุดสัปดาห์ว่า อิหร่านจะไม่เป็นแค่ผู้สังเกตการณ์อีกต่อไป หากสงครามของอิสราเอลยังคงดำเนินต่อไปในฉนวนกาซาและทำลายทรัพย์สินของอิหร่าน นอกจากนี้ อีกสิ่งที่ท้าทายความเชื่อมั่นของตลาดก็คือการพูดคุยกันระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯและอิสราเอลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ประธานาธิบดี Joe Biden ของสหรัฐฯจะเยือนอิสราเอลในเร็วๆนี้ ด้วยเหตุนี้ ความหวาดกลัวในสงครามอิสราเอล-อิหร่านจึงยังคงได้รับความสนใจและยังสนับสนุนความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเงินดอลลาร์สหรัฐฯขาดโมเมนตัมขาขึ้น และทางการจีนเสนอให้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เพิ่มมากขึ้น อีกทางหนึ่ง อีกสิ่งที่ดูเหมือนจะช่วยหนุนความเชื่อมั่นนี้คือ การข่าวที่นำเสนอถึงการสนับสนุนให้มีการหยุดยิง 5 ชั่วโมงเพื่ออนุญาตให้ชาวต่างชาติออกไปจากพื้นที่สู้รบ รวมไปถึงการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าสู่ฉนวนกาซาผ่านทางชายแดนอียิปต์ อีกทั้งความเชื่อมั่นยังมีทิศทางบวกมากขึ้นเนื่องจาก Pan Gongsheng ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนให้คำมั่นที่จะให้การสนับสนุนเศรษฐกิจมากขึ้นในระหว่างการประชุม IMF

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าการพูดคุยของนายธนาคารกลางหลายรายในการประชุมกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในโมร็อกโกช่วงสุดสัปดาห์นี้โดยที่ส่วนใหญ่มีความพยายามคงนโยบายการเงินที่เข้มงวดและเสนอแนะการคงอัตราดอกเบี้ยที่ให้สูงขึ้นในระยะยาว อีกทั้ง ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) Christine Lagarde ยังกล่าวถึงอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในยูโรโซนที่ยังคงแข็งแกร่งและการเติบโตของค่าจ้างก็ “สูงเป็นประวัติการณ์” ในขณะที่ผู้ว่าการธนาคารแห่งอังกฤษ (BoE) Andrew Bailey กล่าวว่าการเติบโตของค่าจ้างยังไม่ตอบสนองต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ BoE

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ด้วยตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯเป็นที่น่าผิดหวัง และไม่มีแถลงการณ์เชิงนโยบายการเงินที่แข็งกร้าวจากเจ้าหน้าที่ของเฟดยังกระตุ้นแรงเทซื้อเงินดอลลาร์สหรัฐฯท่ามกลางผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลง เช่นเดียวกับความหวังที่จะได้เห็นการยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed เร็วขึ้นได้ท้าทายภาวะกระทิงของเงินดอลลาร์สหรัฐฯเช่นกัน ถึงกระนั้น ปัจจัยพื้นฐานของสหรัฐฯที่ค่อนข้างแข็งแกร่งขึ้นและความกังวลสงสัยเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของจีน รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯโดยรวมที่ปรับสูงขึ้นยังคงเป็นที่แรงหนุนของแรงเทซื้อเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แม้จะล่าสุดจะถดถอยลงก็ตาม

• สัญญาณซื้อแรง: USDCAD
• สัญญาณขายแรง: ETHUSD, GBPUSD, Gold
• สัญญาณซื้อ: USD Index, Nasdaq, USDJPY
• สัญญาณขาย: DAX, FTSE 100, BTCUSD, AUDUSD, EURUSD

ข้อมูล/เหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจอาจกระตุ้นโมเมนตัมนักลงทุน

แม้ว่าจะขาดปัจจัยสำคัญร่วมกับความผันผวนในตลาดเพื่อหนุนอุปสงค์สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงในช่วงเช้าของวันนี้ แต่ดัชนีการผลิตของ US NY Empire State, การสำรวจ Business Outlook ของ BoC และแถลงการณ์จากนายธนาคารกลางหลายรายยังคงสามารถกระตุ้นแรงผลักดันของนักลงทุนในช่วงที่เหลือของวันได้ และเป็นที่น่าสังเกตว่า ตัวเลขรายงานยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ และแถลงการณ์ของ Powell ประธาน Fed จะเป็นปัจจัยสำคัญจากสหรัฐฯของสัปดาห์นี้ซึ่งจำเป็นต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด หลังจากการพุ่งสูงขึ้นอย่างหนักของราคาทองคำและราคาน้ำมันดิบเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !