NZDUSD อยู่ในแนวโน้มขาขึ้นสี่วัน ท่ามกลางแรงหนุนจากจีนและวันหยุดในสหรัฐฯ

ความเชื่อมั่นของตลาดที่ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยได้กระตุ้นเทรดเดอร์ในช่วงเช้าของวันจันทร์ แม้ว่าช่วงวันหยุดในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาจะจำกัดการเคลื่อนไหวของตลาดก็ตาม สิ่งที่ท้าทายอีกอย่างหนึ่งอาจเป็นปฏิทินเศรษฐกิจที่เบาบางในฝั่งเอเชียแปซิฟิก รวมไปถึงความกังวลที่เกี่ยวกับการปรับนโยบายการเงินของธนาคารกลางทั่วโลก

ถึงกระนั้นก็ตาม การกลับมาของจีนหลังจากหายไปนานหนึ่งสัปดาห์ยังทำให้ความเชื่อมั่นในแง่ดีสามารถควบคุมตลาดไว้ได้ ท่ามกลางตัวเลขข้อมูลการเดินทางที่เพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่ผสมผสานกันเมื่อไม่นานมานี้ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับความเชื่อมั่นของตลาด

ด้วยเหตุนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯจึงยังคงได้รับแรงกดดันหลังจากมีแนวโน้มขาขึ้นห้าสัปดาห์ ในขณะที่หุ้นในฝั่งเอเชียแปซิฟิกปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรส่วนใหญ่ยังคงค่อนข้างชะลอตัวท่ามกลางสถานการณ์ที่ตลาดขาดนักลงทุนพันธบัตรสหรัฐฯ

ในอีกทางหนึ่ง คู่เงิน EURUSD และคู่เงิน GBPUSD ชะลอการร่วงลงของสัปดาห์ก่อนหน้าระหว่างที่ตลาดมีความผันผวน ส่วนทางด้าน คู่เงิน USDJPY ก็ยังขาดทิศทางที่ชัดเจน เนื่องจากเทรดเดอร์ไม่ยอมรับการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ)

ทั้งนี้ ราคาทองคำขยายการพุ่งสูงขึ้นทะลุแนวต้านสำคัญระยะสั้นของวันก่อนหน้า แต่ราคาน้ำมันดิบกลับปรับตัวลงท่ามกลางปัญหาอุปสงค์ที่ตกต่ำ อย่างไรก็ตาม สินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ส่วนใหญ่ยังปรับตัวสูงขึ้นและเป็นผลให้ Antipodeans เช่น คู่เงิน AUDUSD และคู่เงิน NZDUSD พุ่งสูงขึ้นเล็กน้อยด้วยเช่นกัน ในบรรดาคู่เงินเหล่านั้น คู่เงินกีวีเพิ่มขึ้นมากที่สุดในบรรดาคู่สกุลเงิน G10 เนื่องจากข้อมูลตัวเลขค่าดัชนี PMI ภาคการบริการของนิวซีแลนด์ที่ปรับตัวดีขึ้น และความกังวลเรื่องนโยบายการเงินที่เข้มงวดจากธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ)

นอกจากนี้ ETHUSD พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดใหม่นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2022 ในขณะที่ BTCUSD ยังคงแข็งค่าขึ้นที่ระดับสูงสุดในรอบหลายเดือนเช่นกัน ขณะที่ นักลงทุนรายใหญ่กลับมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลชั้นนำ

มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:

• น้ำมันเบรนท์ (Brent) ชะลอการพุ่งขึ้นสูงสุดสองวันติดต่อกันโดยร่วงลงเล็กน้อยที่ประมาณ $83.00
• ทองคำ (Gold) เพิ่มสูงขึ้นเป็นวันที่สามติดต่อกันที่ประมาณ $2,020
• ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD INDEX) ลดลงเป็นวันที่สี่ติดต่อกันในขณะที่มีการร่วงลงเล็กน้อยที่ประมาณ 104.10
• ตลาดหลักทรัพย์ Wall Street ปิดลบเล็กน้อย ขณะ หุ้นในโซนเอเชียแปซิฟิก ปรับตัวสูงขึ้น ส่วน หุ้นในยุโรปและสหราชอาณาจักร พุ่งสูงขึ้นเล็กน้อยในช่วงต้นวัน
• BTCUSD แกว่งตัวอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบหลายเดือนที่ราวๆ $52,500 และ ETHUSD พุ่งสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดใหม่ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2022 ที่ราวๆ $2,920

สัปดาห์วันหยุดเริ่มต้นอย่างซบเซา...

ในวันจันทร์ตลาดยังคงไม่มีความเคลื่อนไหวมากนัก เนื่องจากพาดหัวข่าวที่หลากหลายของสัปดาห์ที่แล้วร่วมกับช่วงวันหยุดในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ในสถานการณ์เดียวกันนี้ เทรดเดอร์ยังไม่ได้รับแรงหนุนจากการกลับมาของจีนอย่างเต็มที่หลังจากช่วงวันตรุษจีนที่ยาวนานหนึ่งสัปดาห์ด้วยเช่นกัน

เมื่อวันศุกร์มีการรายงานเบื้องต้นประจำเดือนกุมภาพันธ์ของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CSI) ของมหาวิทยาลัยมิชิแกน (UoM) อยู่ที่ 79.6 เมื่อเทียบกับการประมาณการของนักวิเคราะห์ที่ 80.0 และการรายงานก่อนหน้าที่ 79.0 นอกจากนี้ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯในเดือนมกราคมก็เพิ่มขึ้น 0.9% YoY เมื่อเทียบกับที่คาดไว้ 0.6% และจากตัวเลขที่มีการแก้ไขก่อนหน้า 0.8% เช่นเดียวกับ ตัวเลขค่าดัชนี Core PPI ยังปรับตัวดีขึ้นจากตัวเลขที่มีการรายงานก่อนหน้าและการคาดการณ์ของตลาดอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม Thomas Barkin ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯแห่งริชมอนด์ได้เน้นย้ำว่าข้อมูลเศรษฐกิจในเดือนมกราคมยังคงยุ่งเหยิงและไม่ได้ดีมากนัก ซึ่งในทางกลับกันก็ได้ท้าทายช่วงแนวโน้มขาขึ้นของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แม้ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม ในขณะเดียวกันนี้ ก็มีความคิดเห็นจากประธานธนาคารกลางสหรัฐฯแห่งแอตแลนตา Raphael Bostic ซึ่งกล่าวว่า "หากเศรษฐกิจเป็นไปได้ดี ก็พร้อมที่จะลดอัตราดอกเบี้ยลง"

แม้ว่าประธานธนาคารกลางสหรัฐฯแห่งซานฟรานซิสโก Mary Daly จะสนับสนุนนโยบายการเงินที่เข้มงวด ซึ่งเป็นการช่วยพยุงค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯไม่เลวร้ายอย่างที่คิด เธอก็ยังคงเน้นย้ำว่า " Fed จำเป็นต้องต้านทานการตัดสินใจอย่างรวดเร็วเมื่อต้องใช้ความอดทน" Daly ระบุอีกว่าข้อมูลล่าสุดไม่ได้สร้างความประหลาดใจนัก ซึ่งยิ่งสนับสนุนทิศทางเข้มงวดของ Fed และส่งผลดีต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

และเป็นที่น่าสังเกตว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ปิดสัปดาห์ในแดนลบขณะที่หยุดการพุ่งสูงขึ้นติดต่อกันห้าสัปดาห์ ยังช่วยให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นได้เป็นสัปดาห์ที่ห้าติดต่อกันด้วยเช่นกัน แม้ว่าล่าสุดจะพุ่งสูงขึ้นเพียงเล็กน้อยก็ตาม

อีกทางด้านหนึ่ง Isabelle Schnabel สมาชิกคณะกรรมการธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ออกมาคลายความกังวลของตลาดเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง ซึ่งสิ่งนี้ยังช่วยหนุนราคาคู่เงิน EURUSD โดยเธอกล่าวเสริมอีกว่า "เราต้องระมัดระวังไม่ปรับเปลี่ยนนโยบายก่อนเวลาอันสมควร"

นอกจากนี้ คู่เงิน GBPUSD ดีดตัวสูงขึ้นเหนือระดับ 1.2600 หลังจากมีแนวโน้มขาลงติดต่อกัน 3 สัปดาห์ สาเหตุหลักมาจากดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนค่าลง ประกอบกับข้อมูลเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหราชอาณาจักรที่ปรับตัวดีขึ้น โดยข้อมูลล่าสุดจาก Rightmove ชี้ว่าราคาอสังหาริมทรัพย์ในอังกฤษปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน

ในอีกทางหนึ่ง ความคิดเห็นที่สนับสนุนนโยบายการเงินที่เข้มงวดจากหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) Huw Pill ยังช่วยเพิ่มแรงหนุนให้กับการฟื้นตัวขึ้นของคู่เงิน GBPUSD โดยเขาได้ออกมากล่าวว่าการไปถึงจุดที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารนั้น "ยังอีกไกล" Pill ยังกล่าวอีกว่า "กิจกรรมเศรษฐกิจที่อ่อนแอในสหราชอาณาจักรไม่ได้สร้างแรงกดดันต่ออัตราเงินเฟ้อให้ลดลงมากนัก"

นอกจากนั้น แม้ดอลลาร์สหรัฐฯจะอ่อนค่าลง แต่การเคลื่อนไหวของคู่เงิน USDJPY ยังมีจำกัด เนื่องจากช่วงวันหยุดในตลาดสหรัฐฯ ซึ่งปัจจัยนี้ทำให้คู่เงินเยนไม่ตอบสนองต่อข้อมูลที่เพิ่มสูงขึ้นของยอดสั่งซื้อเครื่องจักรหลักของญี่ปุ่นในเดือนธันวาคม รวมไปถึงความคิดเห็นของรัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น Shunichi Suzuki ที่ส่งสัญญาณว่า "จะมีช่วงที่อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น"

ยิ่งไปกว่านั้น ความเชื่อมั่นเชิงบวกที่เกี่ยวข้องกับจีนยังช่วยหนุนค่าเงิน AUD,NZD และสินค้าโภคภัณฑ์ ให้ยังคงปรับตัวสูงขึ้น โดยข่าวการใช้จ่ายผู้บริโภคในจีนที่เพิ่มขึ้น 47% เมื่อเทียบกับระดับก่อนเกิดโควิด-19 ยังส่งผลดีต่อตลาดในเบื้องต้น ขณะเดียวกัน มีการรายงานข่าวว่า ธนาคารประชาชนจีน (PBoC) จะคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) 1 ปี และ 5 ปี ขณะที่ส่งสัญญาณว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ (LPR)

ขณะเดียวกัน ข่าวร้ายจากทะเลแดงก็ได้ท้าทายความเชื่อมั่นเชิงบวกของตลาด โดยพาดหัวข่าวล่าสุดระบุว่า มีเรือถูกทิ้งร้างเนื่องจากการโจมตีของกลุ่มก่อการร้ายฮูติ นอกจากนี้ ความคิดเห็นของ Wang Yi รัฐมนตรีต่างประเทศของจีนยังส่งผลกระทบต่อการพร้อมรับความเสี่ยงของตลาด โดยเขากล่าวว่า "Antony Blinken รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯควรยกเลิกข้อจำกัดต่อบริษัทและบุคคลชาวจีน และความพยายามแยกตัวออกจากปักกิ่งจะส่งผลเสียต่อวอชิงตันเท่านั้น"

• สัญญาณซื้อแรง: USDCAD, USDJPY
• สัญญาณขายแรง: Crude Oil, US Dollar, GBPUSD
• สัญญาณซื้อ: BTCUSD, ETHUSD, Nasdaq, Gold
• สัญญาณขาย: DAX, FTSE 100, BTCUSD, AUDUSD, EURUSD

ไม่มีอะไรสำคัญน่าจับตามอง ขณะที่เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางต่างถูกจับตามองในสัปดาห์นี้...

ในขณะที่ตลาดสหรัฐฯและแคนาดาปิดทำการ รายงานเศรษฐกิจรายเดือนจากธนาคารกลางเยอรมันจะเป็นตัวกระตุ้นโมเมนตัมของเทรดเดอร์ และอาจส่งผลให้คู่เงิน EURUSD ขยับตัวสูงขึ้นได้ นอกจากนั้น ความสนใจหลักจะอยู่ที่การประชุมนโยบายการเงินประจำสัปดาห์นี้จากธนาคารกลางชั้นนำ อย่างเช่น Fed, RBA, ECB เป็นต้น หากผู้กำหนดนโยบายยังคงอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันไว้ โอกาสที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯจะพุ่งสูงขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางข้อสงสัยเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ก็จะไม่สามารถมองข้ามไปได้

ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !