ในวันจันทร์นี้ตลาดการเงินอยู่ในสภาวะซบเซา ขณะที่นักลงทุนยังคงหวังที่จะได้เห็นอัตราดอกเบี้ยปรับลดลงท่ามกลางความหวาดกลัวทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ปัจจัยที่ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับตลาดคือแรงกระตุ้นของจีนในการต่อสู้กับความหวาดกลัวเรื่องพายุไต้ฝุ่น รวมไปถึงการอัดฉีดเงินทุนเข้าสู่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังประสบปัญหา ในอีกทางหนึ่ง ความคิดเห็นเรื่องการดำเนินนโยบายการเงินที่แข็งกร้าวของ Fed และรายงานการจ้างงานของสหรัฐฯที่ไม่น่าประทับใจนักรวมไปถึงท่าทีที่ระมัดระวังของนักลงทุนก่อนการรายงานข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯในสัปดาห์นี้อาจจะจำกัดการเคลื่อนไหวของตลาดด้วยเช่นกัน
ถึงกระนั้น ดอลลาร์สหรัฐฯก็สามารถชะลอการร่วงลงเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ในขณะที่คู่เงิน NZDUSD แสดงให้เห็นถึงความคาดหวังที่จะได้เห็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ RBNZ ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยข้อมูลอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มสูงขึ้นซึ่งมีกำหนดการเผยแพร่ในวันพุธที่จะถึงนี้ โดยคู่เงิน NZDUSD ขึ้นเป็นผู้นำสกุลเงิน G10 ตามมาด้วยคู่เงิน AUDUSD และคู่เงิน USDCAD เช่นเดียวกันกับคู่เงิน USDJPY และคู่เงิน USDCHF ที่ได้รับแรงหนุนจากดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่าขึ้น
นอกจากนี้ การผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีที่ตกต่ำลงและความกลัวเรื่องสถิติเศรษฐกิจที่ถดถอยของสหราชอาณาจักรยังส่งผลกระทบต่อคู่เงิน EURUSD และคู่เงิน GBPUSD อีกด้วย
และเป็นที่น่าสังเกตว่าราคาน้ำมันได้พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายนซึ่งถือว่าเป็นระดับสูงสุดในรอบปีเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นผลมาจากความกลัวว่าจะมีการลดกำลังการผลิตจากซาอุดีอาระเบียและรัสเซียลงอีกบวกกับแรงกระตุ้นที่มาจากจีน อย่างไรก็ตาม ความกลัวที่ว่า Fed อาจจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นเวลานานขึ้น และการพยายามพยุงสถานการณ์เพื่อปกป้องการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนนั้นจะส่งผลให้ตลาดพลังงานมีมูลค่าพุ่งสูงขึ้น
ทั้งนี้ราคาทองคำยังคงได้รับแรงกดดันขณะที่ชะลอตัวจากการดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบเดือนเมื่อวันก่อน ส่วนทางด้านหุ้นในโซนเอเชียแปซิฟิกปรับตัวลง แม้ว่าสัญญาซื้อขายล่วงหน้า S&P500 จะพุ่งสูงขึ้นเล็กน้อยก็ตาม
อีกทางด้านหนึ่ง BTCUSD ยังคงได้รับแรงกดดันหลังจากอยู่ในช่วงแนวโน้มขาลงมาสามสัปดาห์ แต่ทางด้าน ETHUSD ล่าสุดกลับมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:
ข้อมูล US NFP ที่อ่อนค่าลงในวันศุกร์ร่วมกับความหวังที่จะได้รับแรงกระตุ้นจากจีนมากขึ้นและการที่ธนาคารกลางรายใหญ่ไม่สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับนักลงทุนในตลาดได้แม้จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้นสร้างแรงกระตุ้นกับตลาดกระทิงของดอลลาร์สหรัฐฯ ถึงกระนั้นก็ตาม ความคิดเห็นเรื่องการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดจาก Bowman ผู้บริหาร Fed ร่วมกับท่าทีที่ระมัดระวังของตลาดก่อนการรายงานข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯในสัปดาห์นี้รวมไปถึงตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมันที่ตกต่ำลงอาจจะหนุนการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐฯขึ้นอีกครั้งซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาของคู่เงิน EURUSD,คู่เงิน GBPUSD,คู่เงิน USDJPY และคู่เงิน USDCHF แต่อย่างไรก็ตาม ความกลัวที่จะได้เห็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ RBNZ จะส่งผลให้ราคาของคู่เงิน NZDUSD พุ่งสูงขึ้นแม้ว่าจะไม่มีข้อมูลทางเศรษฐกิจที่สำคัญอื่นๆประกอบก็ตาม
ในอีกทางหนึ่ง ราคาทองคำยังคงถูกกดดัน ขณะที่ความกลัวเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯและปัญหาทางการเมืองที่เกี่ยวข้องกับจีนยังคงตึงเครียดร่วมกับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ถดถอยลงทั้งของสหรัฐฯและจีนนั้นอาจจะกระตุ้นแรงเทซื้อของราคาน้ำมันดิบได้แม้ว่าระดับราคาจะพึ่งพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดในรอบสี่เดือนเมื่อช่วงต้นของวัน
ส่วนทางฝั่งของ BTCUSD ไม่ได้รับผลกระทบจากข่าวที่ว่าตลาดคริปโตของสหรัฐฯจะเผชิญกับความท้าทายจากวุฒิสภาและทำเนียบขาว ในขณะเดียวกันความกลัววงจรขาลงของ Bitcoin ได้ส่งผลกระทบต่อราคาแม้ว่า ETHUSD จะดีดตัวขึ้นก็ตาม
หลังจากที่ได้เห็นปฏิกิริยาของตลาดต่อรายงานตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีในเดือนมิถุนายนแล้ว ในทางกลับกันสถานการณ์ที่นักลงทุนในตลาดต่างมีข้อมูล/เหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจเพียงเล็กน้อยหรือแทบจะไม่มีเลยนั้นอาจจะเป็นการส่งผลดีต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯก็เป็นได้
ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !