ออกจากระบบ
คุณจะแน่ใจหรือไม่ที่จะออกจากระบบ
MTrading Team • 2023-07-27

น้ำมันดิบพุ่งขึ้นสูงสุดจากดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าและข้อมูลเศรษฐกิจของจีนที่ดีขึ้น

น้ำมันดิบพุ่งขึ้นสูงสุดจากดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าและข้อมูลเศรษฐกิจของจีนที่ดีขึ้น

การดำเนินนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่ตรงกับความคาดหวังของตลาดมีอิทธิพลเกินกว่าการปฏิเสธของประธาน Powell เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน โดยมีคำแนะนำสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ซึ่งจะทำให้ตลาดยังคงมีทิศทางที่ดีและส่งผลต่อดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงปลายวันพุธและต้นวันพฤหัสบดีนี้

อีกหนึ่งปัจจัยที่หนุนความเชื่อมั่นให้เพิ่มสูงขึ้นอาจเป็นกำไรภาคอุตสาหกรรมของจีนและข่าวการพูดคุยที่ว่า ECB และ BoJ อาจมีความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกันกับ Fed โดยมีแนวโน้มที่จะสนับสนุนนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลงไม่ช้าก็เร็วนี้

ด้วยการที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลงและท่าทีระมัดระวังของตลาดต่อ ECB ส่งผลให้ตัวเลขค่า GDP ของสหรัฐฯ,ค่าเงิน AUD,NZD และสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น ในขณะที่คู่เงิน USDJPY กำลังดิ้นรนท่ามกลางตลาดตราสารหนี้ที่มีสภาพคล่องต่ำ รวมถึงความวิตกกังวลก่อนการประชุมนโยบายทางการเงินของ BoJ

นอกจากนี้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นเป็นวันที่สามติดต่อกันในขณะที่ราคาน้ำมันเบรนท์พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบสามวันในขณะนี้ ซึ่งราคาน้ำมันเบรนท์ได้แตะระดับสูงสุดตั้งแต่ช่วงสิ้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ส่วนทางด้าน BTCUSD และ ETHUSD อยู่ในแนวโน้มขาขึ้นเป็นเวลาสามวัน โดยมีการพุ่งสูงขึ้นเล็กน้อยท่ามกลางความหวาดกลัวต่อกฎระเบียบที่เข้มงวดของสหรัฐฯเกี่ยวกับข้อกังวลด้านความปลอดภัยในการซื้อขาย

มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:

  • น้ำมันเบรนท์ (Brent) พุ่งสูงขึ้นกว่า 0.5% ที่ราวๆ $83.30 โดยแตะจุดสูงสุดเป็นเวลาหลายวัน
  • ทองคำ (Gold) ราคาทองคำอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นเป็นเวลาสามวันในขณะที่กระโจนเข้าหาแนวต้านที่ราวๆ $1,980-85
  • ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD INDEX) ร่วงลงเป็นวันที่สามติดต่อกันที่ระดับต่ำสุดในรอบสัปดาห์ที่ราวๆ 100.65 โดยร่วงลง 0.35%
  • ตลาดหลักทรัพย์ Wall Street ปิดผสมแต่ หุ้นในโซนเอเชียแปซิฟิกพุ่งสูงขึ้น ส่วนหุ้นในยุโรปและสหราชอาณาจักรมีราคาเสนอซื้อ (Bid) เพิ่มขึ้นเล็กน้อย
  • BTCUSD และ ETHUSD พุ่งสูงขึ้นเล็กน้อยที่ราวๆ $29,400 และ $1,870 ตามลำดับหลังจากร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดมาหลายวัน
เงื่อนไขการเทรดที่ดีที่สุด
รับโบนัสเงินฝากสูงสุดถึง 200% รับโบนัสเงินฝากสูงสุดถึง 200%
Spread 
เริ่มต้นที่ 0 pip Spread 
เริ่มต้นที่ 0 pip
แพลตฟอร์ม Copy
Trade ระดับโลก แพลตฟอร์ม Copy 
Trade ระดับโลก
เข้าร่วมเลย

Fed ยืนยันการปรับเปลี่ยนแนวทางนโยบายส่งผลให้ตลาดมีทิศทางที่เป็นบวกมากขึ้น

ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ได้ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% และแสดงความพร้อมในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในอนาคตหากอัตราเงินเฟ้อไม่ลดลง ซึ่งการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนี้เป็นไปตามแนวทาง "meeting by meeting" ทั้งนี้ผู้กำหนดนโยบายพยายามที่จะแนะนำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้นในช่วงหลังของปี 2023 และยังไม่มีการปฏิเสธอย่างชัดเจนเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ด้วยเหตุนี้จึงส่งผลให้ความเชื่อมั่นในตลาดมีการเปลี่ยนแปลงที่เป็นบวก นอกจากนี้ ประเทศจีนยังมีพัฒนาการที่ดีขึ้นในกำไรภาคอุตสาหกรรมและดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นในตลาดให้สูงขึ้น

ในอีกทางหนึ่ง นักลงทุนในตลาดต่างคาดการณ์ว่า ECB จะเดินตามรอยเท้าของ Fed และด้วยตัวเลข GDP ของสหรัฐฯที่น่าตกต่ำลงเป็นผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่สามและหนุนให้สินค้าโภคภัณฑ์และสกุลเงินหลักพุ่งสูงขึ้น

นอกเหนือไปจากปัจจัยที่กล่าวถึงข้างต้น ผลผลิตน้ำมันของรัสเซียที่มีแนวโน้มลดลงและการลดลงของปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯยังจะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับราคานำ้มันดิบอีกด้วย

และเป็นที่น่าสังเกตว่าตลาดหุ้นในเอเชียแปซิฟิกและฟิวเจอร์สหุ้นของสหรัฐฯยังคงพุ่งสูงขึ้นในช่วงต้นวันพฤหัสบดี ส่งผลให้หุ้นในยุโรปและอังกฤษที่เริ่มต้นวันใหม่อย่างมีความมั่นคงและความเสถียรยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ความกลัวต่อกฎระเบียบที่รุนแรงก็ยังหนุนแรงเทซื้อ BTCUSD และ ETHUSD

  • สัญญาณซื้อแรง: USDCAD
  • สัญญาณขายแรง: ETHUSD, GBPUSD, Gold
  • สัญญาณซื้อ: USD Index, Nasdaq, USDJPY
  • สัญญาณขาย: DAX, FTSE 100, BTCUSD, AUDUSD, EURUSD

ECB, US GDP และอีกหนึ่งวันที่ยุ่งวุ่นวาย...

หลังจากได้เห็นความผันผวนที่เกิดจาก Fed เหล่านักลงทุนในตลาดทั่วโลกจะจับตาดูแถลงการณ์ของ ECB, รายงานตัวเลข GDP ไตรมาสที่ 2 ของสหรัฐฯและคำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯในเดือนมิถุนายน นอกจากนี้ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเบื้องต้นของสหรัฐฯ และข้อมูลที่อยู่อาศัยระดับกลาง ตลอดจนรายงานข้อมูลอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มความเคลื่อนไหวในตลาดและอาจส่งผลให้นักลงทุนยุ่งกับการวิเคราะห์และการตัดสินใจซื้อขายในตลาดมากขึ้น ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าความล้มเหลวของ ECB ในการดำเนินนโยบายทางการเงินที่แข็งกร้าว แม้จะมีการประกาศการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ตามที่คาดการณ์ไว้ แต่ก็อาจจะทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลงได้

ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !