การปรับมาใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายของ FED กระตุ้นให้ราคาโลหะมีค่าพุ่งสูงขึ้น โดยทองคำและเงินมีการซื้อขายที่ 2,054 ดอลลาร์และ 24.505 ดอลลาร์ตามลำดับ เป็นผลให้ความเชื่อมั่นของผู้ร่วมตลาดมีทิศทางที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันไว้ โดยพวกเขายังได้สัญญาว่าจะหลีกเลี่ยงการกล่าวถึงท่าทีการดำเนินการที่แข็งกร้าวโดยที่จะยังคงดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดต่อไป ถึงกระนั้น พวกเขาก็ได้คาดการณ์ว่าการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายและการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นในปี 2024
กล่าวง่ายๆ ก็คือเราอาจเห็นการดำเนินการตามกรอบทางการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้นในปี 2024 ในขณะเดียวกัน แม้ว่า FOMC พยายามที่จะมีความชัดเจนมากขึ้นในขณะที่ก้าวต่อไปข้างหน้า แต่ยังคงมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดความไม่สมดุลถ้าหากมีการปรับอัตราดอกเบี้ยมากเกินไปหรือน้อยเกินไป
การที่นโยบายการเงินของ FED เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากจากสิ่งที่นักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้นั้นส่งผลให้ราคาทองคำและราคาแร่เงินพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยราคาทองคำเพิ่มขึ้น 50 ดอลลาร์ในเวลาเพียงแค่ 2 วัน อีกทั้งสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้ายังมีการซื้อขายมากที่สุดอยู่ที่ระดับ 2,051 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ทั้งนี้ เงินดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนค่าลงเป็นเพียงเหตุผลบางส่วนที่ทำให้เกิดการปรับตัวสูงขึ้นเช่นนี้
สำหรับสัญญาซื้อขายแร่เงินล่วงหน้าได้เพิ่มสูงขึ้นเกิน 6% ปัจจุบันสัญญาของเดือนมีนาคมมีการซื้อขายกันที่ประมาณ 24.38 ½ ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งสูงกว่าราคาเปิดล่าสุดถึง 1,31 ดอลลาร์ นอกจากนี้ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ยังปรับลดลงจาก 103.83 (ราคาเปิดในวันพุธ) เป็น 101.96 อีกด้วย
ในด้านหนึ่ง ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนค่าลงมีบทบาทสำคัญในการแข็งค่าของราคาทองคำและราคาแร่เงิน แต่อย่างไรก็ตาม มันก็มีผลเพียงบางส่วนเท่านั้น โดยผู้ร่วมตลาดกำลังมีการเสนอราคาซื้อขายแร่เงินและทองคำ ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้มูลค่าในตลาดเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในปัจจุบัน
ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !