ความเชื่อมั่นของตลาดถดถอยลงหลังจากข่าวสุดสัปดาห์มีการรายงานว่ามีการทิ้งระเบิดใส่กองทัพอิสราเอลในฉนวนกาซาเพิ่มมากขึ้น ในขณะเดียวกันมีรายงานว่าซาอุดิอาระเบียปรับลดราคาน้ำมันสำหรับยุโรปและปรับขึ้นราคาสำหรับสหรัฐอเมริกา ข่าวประเภทนี้ส่งสัญญาณถึงความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้น และส่งผลกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม การขาดการอัปเดตข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญส่งผลให้การเริ่มต้นสัปดาห์เป็นไปอย่างเงียบเหงา
ถึงกระนั้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรก็ชะลอการร่วงลงในรอบสัปดาห์ร่วมกับการที่ Kazuo Ueda ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) คงนโยบายเงินที่ผ่อนคลายเพื่อกระตุ้นให้คู่เงิน USDJPY ดีดตัวสูงขึ้น โดยคู่เงิน EURUSD และคู่เงิน GBPUSD ยังคงซบเซา ส่วนทางด้านราคาทองคำยังคงได้รับแรงกดดัน ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้นครั้งแรกในรอบสามวัน ท่ามกลางความวิตกกังวลและความผันผวนในตลาด
ทางฝั่งของ BTCUSD และ ETHUSD ขยับตัวสูงขึ้นแม้ว่าจะมีการร่วงลงเล็กน้อยในวันนี้ก็ตาม ส่วนทางด้าน ETHUSD ดีดตัวจากการพุ่งสูงขึ้นติดต่อกันสามวัน ในขณะที่ก่อนหน้านี้ยังคงชะลอตัวที่ระดับสูงสุดในรอบปี ท่ามกลางการเจรจาครั้งใหม่เกี่ยวกับการอนุมัติ ETF ในฮ่องกงและจีน
มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:
ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) ยังคงได้รับแรงกดดันที่ระดับต่ำสุดในรอบหกสัปดาห์ ในขณะที่ราคาหุ้นฟิวเจอร์สมีความผันผวน ดังที่กล่าวไปแล้ว หุ้นในฝั่งเอเชียแปซิฟิกปรับสูงขึ้นท่ามกลางความหวังที่ Fed จะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกต่อไปและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์น่าจะยุติลง แม้ว่าสัญญาณล่าสุดจะไม่มีแนวโน้มดีนักก็ตาม
รายงานการจ้างงานของสหรัฐฯในเดือนตุลาคมและตัวเลขข้อมูลค่าดัชนี PMI จาก ISM และ S&P Global ดับความหวังที่จะได้เห็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed อีกครั้งในปี 2023 และผลักดันให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯไปสู่การร่วงลงในรอบสัปดาห์ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบเกือบสี่เดือน ดังที่กล่าวไว้ พาดหัวข่าวรายงาน Nonfarm Payrolls (NFP) ถือเป็นการปรับตัวสูงขึ้นที่ระดับต่ำสุดในบรรดาแรงงานภาคเอกชน ด้วยตัวเลข 150,000 เมื่อเทียบกับที่คาดการณ์ไว้ 178,000 และตัวเลขที่แก้ไขโดยลดลงก่อนหน้านี้ที่ 297,000 นอกจากนี้ อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเป็น 3.9% จาก 3.8% ในขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงลดลงเป็น 4.1% จากการอ่านครั้งก่อน 4.3% อีกทั้ง ISM Services PMI ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนที่ 51.8 เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ของตลาดที่ 53.0 และ 53.6 ที่รายงานเมื่อเดือนที่แล้ว และเป็นที่น่าสังเกตว่าการอ่านค่าขั้นสุดท้ายของ S&P Global Services และ Composite PMI ก็ปรับลดลงเหลือ 50.6 และ 50.7 จาก 50.9 และ 51.0 ที่ประมาณการในตอนแรกเช่นกัน
ไม่เพียงแต่การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจเท่านั้น แต่การพูดคุยของ Fed ยังส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลงอีกด้วย ขณะที่ Raphael Bostic ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯประจำแอตแลนตากล่าวว่าเขาอาจสนับสนุนให้ถือครองอัตราดอกเบี้ยไว้ประมาณ 8 ถึง 10 เดือน ในขณะเดียวกัน Thomas Barkin ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯแห่งริชมอนด์ได้กล่าวว่าเขายินดีที่จะเห็นแรงกดดันในข้อมูลการจ้างงานลดลง และตั้งข้อสังเกตว่าตลาดแรงงานมีความสมดุลที่ดีขึ้น ขณะที่ Fed ก็มีข้อมูลเพิ่มเติมที่ต้องพิจารณาก่อนการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป
นอกจากนี้ สิ่งที่ส่งผลกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯยังอาจเป็นการหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมในฉนวนกาซา เนื่องจากชาติตะวันตกผลักดันให้อิสราเอลให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมในระหว่างการรุกรานภาคพื้นดิน
นอกเหนือไปจากการรายงานข้อมูลกิจกรรมทางเศรษฐกิจของเดือนตุลาคมจากยูโรโซนครั้งสุดท้ายแล้ว ปฏิทินเศรษฐกิจดูเหมือนว่าจะยังไม่มีกำหนดการเผยแพร่ในวันจันทร์นี้ อย่างไรก็ตาม การเตรียมการของตลาดสำหรับแถลงการณ์ในสัปดาห์นี้จาก Powell ประธาน Fed และข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของจีนอาจทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯสามารถชะลอการร่วงลงล่าสุดในรอบสัปดาห์ได้ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบสี่สัปดาห์ โดยในทางกลับกันก็อาจสร้างแรงกดดันด้านลบต่อสินค้าโภคภัณฑ์และค่าเงิน AUD,NZD ได้
ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !