ในช่วงเช้าของวันพุธ นักลงทุนยังคงไม่เชื่อมั่นในตลาดมากนัก ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจที่ตกต่ำอยู่ในขณะนี้ นอกจากนี้ สิ่งที่ท้าทายความเชื่อมั่นก็คือความกลัวที่จะเกิดขึ้นจากการที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯออกพันธบัตรมูลค่าเกือบ 1.0 ล้านล้านดอลลาร์ เนื่องจากข้อผูกพันในข้อตกลงเรื่องเพดานหนี้
ด้วยเหตุนี้คู่เงิน USDJPY จึงมีบทบาทเป็นคู่เงินที่แสดงถึงสัญญาณความเสี่ยงในขณะที่ร่วงลงมากที่สุดในบรรดาคู่สกุลเงิน G10 ซึ่งปัจจัยที่สนับสนุนช่วงแนวโน้มขาลงสำหรับคู่เงินเยนคือความกลัวที่จะได้เห็นผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลงมากขึ้นขณะที่ BoJ ดำเนินนโยบายการเงินที่แข็งกร้าว
ในทางกลับกันคู่เงิน AUDUSD ยังไม่มีความชัดเจนที่จะปรับตัวลดลง แม้ว่าตัวเลข GDP ของออสเตรเลียและตัวเลขทางการค้าของจีนจะตกต่ำลงก็ตาม โดยอาจมีสาเหตุมาจากความคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายการเงินที่ดุดันจาก Philip Lowe ผู้ว่าการ RBA
ทางด้านราคาทองคำและราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงเช่นเดียวกันกับหุ้นฟิวเจอร์สของสหรัฐฯและหุ้นในเอเชียแปซิฟิกที่ร่วงลง ขณะที่คู่เงิน USDCAD ยังคงอยู่ในช่วงแนวโน้มขาลงก่อนการประกาศนโยบายการเงินที่สำคัญของธนาคารกลางแคนาดา (BoC)
น่าสังเกตว่าคริปโตกลับสู่ช่วงขาลงอีกครั้งหลังจากการดีดตัวกลับของวันก่อนหน้าท่ามกลางความหวาดกลัวที่เกิดขึ้นภายในอุตสาหกรรมนี้
มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:
ในขณะที่ปัจจัยที่เร่งปฏิกิริยาดังกล่าวข้างต้นได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นที่ไปในทิศทางบวกในก่อนหน้านี้ โดยดอลลาร์สหรัฐฯล้มเหลวในการปรับสถานะเข้าอยู่ในโซนที่ปลอดภัยเนื่องจากการขาดข้อมูล/เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญ รวมถึงการที่ยังไม่มีแถลงการณ์หรือความเคลื่อนไหวจาก Fed ถึงกระนั้น ดอลลาร์สหรัฐฯยังพุ่งสูงขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโร,ค่าเงิน GBP และค่าเงิน AUD,NZD อย่างไรก็ตาม การปรับลดอัตราดอกเบี้ยล่าสุดของ Fed ในเดือนมิถุนายนนั้นตรงกันข้ามกับการคาดการณ์ถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นในเดือนกรกฎาคมทำให้ส่งผลต่อการจำกัดการดีดตัวของเงินดอลลาร์สหรัฐฯด้วยเช่นกัน
ในทางกลับกัน นักลงทุนยังคงมีท่าทีระมัดระวังท่ามกลางการเผยแพร่ข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ตกต่ำและการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางในหลายๆประเทศจะไม่หยุดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
อีกทางหนึ่ง ความกลัวต่อการฟ้องร้องของ the US SEC เกี่ยวกับ Binance และ Coinbase ส่งผลต่อสกุลเงินดิจิทัลชั้นนำอย่าง BTCUSD และ ETHUSD แม้ว่านักลงทุนในอุตสาหกรรมนี้จะแสดงความพร้อมที่จะต่อสู้กับรัฐบาลในเรื่องนี้ก็ตาม
ในขณะที่ตลาดมีสภาวะซบเซาส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลง แต่การประชุมนโยบายทางการเงินของ BoC ร่วมกับตัวเลขสถิติทางเศรษฐกิจจากยูโรโซน และการเยือนสหรัฐฯของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ Rishi Sunak จะสามารถกระตุ้นนักลงทุนในตลาดทั่วโลกได้ในอนาคต แม้ว่าจะมีการให้ความสนใจอย่างมากต่อปัจจัยที่ส่งผลต่อความเสี่ยงและความกลัวทางเศรษฐกิจ ณ ขณะนี้
ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !