ในช่วงเช้าวันพฤหัสบดี ตลาดถูกปกคลุมไปด้วยความวิตกกังวลก่อนการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ เนื่องจากบรรดาเทรดเดอร์กำลังรอคอยการรายงานตัวเลขกิจกรรมทางเศรษฐกิจประจำเดือนพฤษภาคมสำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ ถึงกระนั้น ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯที่ส่งสัญญาณสนับสนุนนโยบายการเงินที่เข้มงวด ช่วยให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯชะลอการร่วงลงในสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งยังส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงด้วยเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ ตัวเลขดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) จึงยังคงแข็งแกร่งและสร้างแรงกดดันด้านลบให้กับคู่เงิน EURUSD แม้ว่าจะมีการดีดตัวขึ้นล่าสุดก่อนการรายงานข้อมูลสำคัญ อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า คู่เงิน GBPUSD ยังคงปรับตัวสูงขึ้นเป็นวันที่ห้าติดต่อกันจากตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ในเวลาเดียวกัน คู่เงิน USDJPY ไม่มีการตอบสนองเชิงบวกต่อการสนับสนุนความพยายามทางวาจาของผู้กำหนดนโยบายของญี่ปุ่นในการปกป้องสกุลเงินในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) ยังคงไม่มีท่าทีที่จะดำเนินการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวด
ทางฝั่งของคู่เงิน AUDUSD ยังอยู่ในสถานะบารอมิเตอร์ความเสี่ยงโดยยังคงได้รับแรงกดดัน ในขณะที่ทางด้านคู่เงิน NZDUSD รักษาระดับการพุ่งสูงขึ้นของวันก่อนหน้า นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบและราคาทองคำยังคงถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ เช่นเดียวกับตลาดที่ชะลอการปรับตัวขึ้นในสัปดาห์ก่อนท่ามกลางการรายงานข่าวในทิศทางที่หลากหลาย
โดย BTCUSD และ ETHUSD ฟื้นตัวจากการร่วงลงของวันก่อนหน้า ท่ามกลางความคาดหวังเชิงบวกอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับการอนุมัติ spot ETH ETF อย่างไรก็ตาม น่าสังเกตว่า สภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯได้ผ่านร่างกฎหมายที่มุ่งเน้นการควบคุมสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อแรงเทซื้อของ Bitcoin และ Ethereum ได้ในภายหลัง
มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา รายงานการประชุมนโยบายการเงินของคณะกรรมการ FOMC ล่าสุดที่ส่งสัญญาณถึงการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ประกอบกับปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์ได้ช่วยหนุนการพุ่งขึ้นรายวันครั้งใหญ่ที่สุดของดอลลาร์สหรัฐฯในรอบสามสัปดาห์
รายงานการประชุมของ Fed ระบุว่า "มีสมาชิกหลายท่านกล่าวถึงความเต็มใจที่จะดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น หากความเสี่ยงต่อภาวะเงินเฟ้อปรากฏขึ้นในลักษณะที่การดำเนินการดังกล่าวเหมาะสม" โดยการรายงานดังกล่าวขัดแย้งกับความเห็นของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ Jerome Powell หลังการประชุม FOMC ซึ่งปฏิเสธความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ในขณะเดียวกัน การซ้อมรบของจีนบริเวณรอบๆไต้หวันทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดที่เกิดขึ้นระหว่างจีน-สหรัฐฯอเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อปักกิ่งประกาศมาตรการตอบโต้ต่อบริษัทสัญชาติสหรัฐฯ 12 แห่งและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของพวกเขา นอกจากนี้ สิ่งที่ส่งผลต่อสภาวะการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของตลาดยังเป็นพาดหัวข่าวจากทำเนียบขาวของสหรัฐฯ (WH) ซึ่ง Jake Sullivan ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของ WH ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การรุกรานของอิสราเอลในฉนวนกาซาที่เป็นอันตรายต่อพลเรือน อีกทั้ง รัฐมนตรีกลาโหมของสหราชอาณาจักร Grant Shapps ยังได้ออกมากล่าวว่า ขณะนี้หน่วยข่าวกรองของอังกฤษมีหลักฐานว่าจีนนั้นโกหกในการปฏิเสธว่าไม่ได้จัดหาระบบอาวุธร้ายแรงให้แก่รัสเซีย ดังนั้น พาดหัวข่าวภูมิรัฐศาสตร์ส่วนใหญ่จึงชี้ให้เห็นถึงสภาวะความตึงเครียด และส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐฯสามารถชะลอการร่วงลงของสัปดาห์ก่อนได้ อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าสภาวะการทรงตัวของตลาดก่อนการรายงานข้อมูลดัชนี PMI ที่สำคัญของวันนี้และคำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯในวันศุกร์จะทดสอบแรงเทซื้อดอลลาร์สหรัฐฯในภายหลัง ด้วยเหตุนี้ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯจึงพยายามขยายแนวโน้มขาขึ้นสามวันที่ระดับสูงสุดในรอบกว่าสัปดาห์ ขณะเดียวกันก็มีแนวโน้มที่จะพุ่งสูงขึ้นในรอบสัปดาห์ด้วยเช่นกัน
ในอีกทางหนึ่ง คู่เงิน EURUSD ชะลอการร่วงลงติดต่อกันสามวันก่อนการรายงานตัวเลขดัชนี PMI ของยูโรโซนและเยอรมันในเดือนพฤษภาคม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีท่าทีลังเลที่จะส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลังเดือนมิถุนายน นอกจากนี้ คู่เงิน GBPUSD ยังพุ่งขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลา 5 วัน เนื่องจากตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรที่ปรับตัวลงช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ ร่วมกับเสียงเรียกร้องให้มีการจัดการเลือกตั้งในอังกฤษในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้
การรายงานข้อมูลค่าดัชนี PMI เบื้องต้นประจำเดือนพฤษภาคมของออสเตรเลียนั้นอยู่ในช่วงขาลง ขณะที่ทางฝั่งญี่ปุ่นก็มีการรายงานในหลากหลายทิศทาง ซึ่งในทางกลับกัน สิ่งนี้ก็นับว่าเป็นความท้าทายสำหรับเทรดเดอร์คู่เงิน AUDUSD และคู่เงิน USDJPY ท่ามกลางความเชื่อมั่นที่ผันผวน ถึงกระนั้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวสูงขึ้นและความกังวลเกี่ยวกับการที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) อาจไม่สามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้อีก รวมไปถึงความหวังที่จะได้เห็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ล้วนส่งผลกระทบต่อค่าเงินเยนของญี่ปุ่น (JPY) และดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD)
อย่างไรก็ตาม คู่เงิน NZDUSD ยังคงรักษาระดับการพุ่งสูงขึ้นของวันก่อนหน้า แม้ว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของนิวซีแลนด์จะอ้างอิงถึงความกังวลเรื่องการขาดดุลของรัฐบาลที่สูงขึ้น โดยอาจมีสาเหตุมาจากการยุติการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ)
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังร่วงลงเป็นวันที่สี่ติดต่อกัน ในขณะที่แตะระดับต่ำสุดในรอบสัปดาห์ เนื่องจากข้อมูลจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) มีการรายงานว่า ปริมาณสำรองน้ำมันดิบสหรัฐฯเพิ่มขึ้นเหนือความคาดการณ์ของตลาด ต่างจากที่คาดว่าจะมีการดึงน้ำมันดิบออกจากคลัง โดยสอดคล้องกับข้อมูลจากภาคเอกชนที่มีการรายงานมาก่อนหน้านี้ อีกทั้ง การที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานรัสเซียออกมาเปิดเผยว่า การผลิตน้ำมันดิบของรัสเซียอยู่เหนือเป้าหมายเล็กน้อย ยังเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ ราคาทองคำร่วงลงเป็นวันที่สามติดต่อกัน ท่ามกลางความกังวลที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจในจีนและดอลลาร์สหรัฐฯที่ยังปรับตัวขึ้น นอกจากนี้ อีกปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อ XAUUSD อาจเป็นพาดหัวข่าวที่บ่งบอกถึงสภาวะการทรงตัวของตลาดจากการเคลื่อนไหวก่อนหน้า ก่อนการรายงานข้อมูล/เหตุการณ์สำคัญในสัปดาห์นี้
ดอลลาร์สหรัฐฯกลับมามีโมเมนตัมขาขึ้นหลังจากรายงานการประชุม Fed ที่มีแนวโน้มสนับสนุนการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดเมื่อวันก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม นักลงทุนในตลาดยังคงมีท่าทีระมัดระวังก่อนการรายงานตัวเลขค่าดัชนี PMI ของสหรัฐฯ/สหราชอาณาจักรและยูโรโซนเป็นครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม รวมถึงจำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ และข้อมูลที่อยู่อาศัยจะทดสอบช่วงขาขึ้นเพิ่มเติมของดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อพิจารณาจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ถดถอยลงล่าสุด ตัวเลขที่ปรับลดลงนี้อาจทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯชะลอการพุ่งสูงขึ้นในรอบสัปดาห์ และส่งผลให้ราคาทองคำและราคาน้ำมันดิบกลับมาอยู่ในช่วงขาขึ้นอีกครั้ง ในขณะเดียวกัน ข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวนจากประเทศเศรษฐกิจชั้นนำ รวมถึงปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์อาจส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้น และท้าทายสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม เป็นที่สังเกตว่า ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของตลาดหุ้นในช่วงล่าสุด อาจจะจำกัดการปรับตัวสูงขึ้นของดอลลาร์สหรัฐฯได้ด้วยเช่นกัน
ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !