ในช่วงเช้าวันพุธ คู่เงิน EURUSD ปรับตัวสูงขึ้นรายวันครั้งแรกในรอบกว่าหนึ่งสัปดาห์ หลังจากแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 สัปดาห์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงภาวะ consolidation ของตลาดก่อนการประกาศอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดี และการรายงานข้อมูลยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ ประจำเดือนกันยายน
นอกจากภาวะ consolidation ของตลาดก่อนที่จะมีการรายงานข้อมูลออกมาแล้ว เส้น 200-SMA และสัญญาณ RSI ที่บ่งชี้ถึงแรงเทขายที่มากเกินไปยังสร้างความท้าทายให้กับแรงเทขายคู่เงิน EURUSD อีกด้วย ซึ่งบ่งบอกว่าศักยภาพในการปรับตัวลงของระดับราคามีอย่างจำกัด การปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญของคู่เงินยูโรอาจเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ ECB ทำให้ตลาดผิดหวัง หรือหากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯส่งสัญญาณที่แข็งแกร่งเกินกว่าที่คาดสำหรับดอลลาร์สหรัฐฯ
ระดับเส้น 200-SMA ซึ่งอยู่ที่ราวๆ 1.0870 จะเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับคู่เงิน EURUSD โดยได้รับแรงหนุนจากสัญญาณ RSI ที่บ่งชี้ถึงแรงเทขายที่มากเกินไป อย่างไรก็ตาม หากราคาร่วงลงทะลุระดับดังกล่าว การปรับตัวลงของคู่เงินยูโรอาจดึงราคาลงสู่ระดับต่ำสุดของเดือนสิงหาคมที่ประมาณ 1.0775 หลังจากนั้น เส้นแนวรับที่ลาดขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023 ซึ่งล่าสุดอยู่ที่ราวๆ 1.0750 จะทำหน้าที่เป็นแนวรับสุดท้ายของแรงเทซื้อ
ในทางตรงกันข้าม ระดับสูงสุดของเดือนกรกฎาคมที่ราวๆ 1.0950 อาจดึงดูดแรงเทซื้อคู่เงิน EURUSD ในช่วงที่ระดับราคามีการปรับตัวขึ้น หลังจากนั้น จุดสูงสุดของเดือนมีนาคมที่ประมาณ 1.0980 และระดับราคาที่ราวๆ 1.1000 อาจกระตุ้นแรงเทซื้อยูโรก่อนที่จะถูกทดสอบด้วยแนวรับที่เปลี่ยนเป็นแนวต้านอายุสองเดือนที่บริเวณ 1.1015 และเส้นแนวรับก่อนหน้าที่ทอดยาวตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนซึ่งอยู่ใกล้กับระดับ 1.1030 ต่อไป
แม้ว่าตัวชี้วัดทางเทคนิคจะบ่งชี้ถึงการชะลอตัวของช่วงแนวโน้มขาลงและการปรับตัวสูงขึ้นของคู่เงิน EURUSD แต่แนวต้านหลายระดับและปัจจัยพื้นฐานยังคงขัดขวางการกลับตัวของแนวโน้มขาลงที่ดำเนินมาตลอดสองสัปดาห์