ท่านเป็นนักเทรดมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มเข้ามาในเส้นทางการเทรดใช่มั้ย? เคยสงสัยหรือเปล่าว่าที่เขาพูดๆ กันว่า “ราคา Bid”, “ราคา Ask” หรือ “ตั้ง Stop loss” นั้นหมายความว่าอะไร? หรือบางท่านที่พอมีประสบการณ์ในตลาดมาบ้างก็อาจเข้าใจศัพท์พื้นฐานเหล่านี้อยู่แล้ว แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าจะหลีกเลี่ยงความผิดพลาดที่ทำให้เทรดขาดทุนได้ยังไง? ในขณะที่เทรดเดอร์บางท่านก็อาจเทรดผิดๆ มาตั้งแต่ต้นและอยากจะลองเปลี่ยนกลยุทธ์การเทรดให้ดีขึ้น? แต่จะเข้าใจการเทรดได้มากขึ้นอย่างไร หากท่านไม่เข้าใจภาษาในการเทรดให้ดีเสียก่อน!
วันนี้ เราได้รวบรวมศัพท์พื้นฐานที่ใช้ในแวดวงการเทรด ลองศึกษาคำศัพท์เหล่านี้ให้ดี แล้วท่านจะเข้าใจตลาดมากยิ่งขึ้น!
Advisor (โปรแกรมช่วยเทรด)
Advisor คือ โปรแกรมที่ถูกเขียนและออกแบบมาเพื่อใช้อัลกอริทึมช่วยเฝ้าและติดตามการซื้อขายในตลาดโดยที่นักเทรดไม่ต้องมานั่งเฝ้าหน้าจอเอง ยิ่งไปกว่านั้นระบบจะคอยแจ้งเตือนเมื่อกราฟเข้าเงื่อนไขในการทำกำไรตามที่เทรดเดอร์กำหนดไว้
เพื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์ Advisor บนโปรแกรม MT4 ของ MTrading โปรดไปที่เมนู “Tools” แล้วเลือก “Options” จากนั้นไปที่แถบ “Expert Advisors” แล้วกดติ้กถูกที่ช่อง “Allow automated trading”
Arbitrage (อาร์บิทราจ)
การทำอาร์บิทราจ คือ การทำกำไรจากส่วนต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขาย หรือส่วนต่างสเปรด หรือส่วนต่างของราคาสินทรัพย์จากโบรกเกอร์เจ้าหนึ่งกับโบรกเกอร์อีกเจ้า พูดง่ายๆ ก็คือการ “ซื้อถูก ขายแพง” นั่นเองครับ แต่ขอเตือนก่อนว่าการทำอาร์บิทราจเป็นการละเมิดกฎหมายของหลายประเทศเลยทีเดียว
Ask (ราคา Ask)
ราคา Ask หรือ Offer rate เป็นราคาซื้อที่โบรกเกอร์เสนอให้ท่านสำหรับการเปิดออเดอร์ Buy เพื่อซื้อคู่เงินหรือสินทรัพย์ต่างๆ
Asset Allocation (การจัดสรรสินทรัพย์)
Asset Allocation หมายถึง การจัดสรรสินทรัพย์ หรือพูดให้เข้าใจง่ายคือการกระจายหลักทรัพย์การลงทุนในหลายๆ กลุ่มเพื่อทำให้พอร์ตโตขึ้น และยังเป็นการกระจายความเสี่ยงเช่นกันครับ
Averaging (การถัวเฉลี่ยราคา)
Averaging คือ กลยุทธ์การเปิดออเดอร์เพิ่มในปริมาณเท่าเดิมหรือเพิ่มวอลุ่ม (Volume) ให้มากขึ้นหลังจากปิดออเดอร์แรกไปแล้วส่วนหนึ่ง ในที่นี้ก็เพื่อถัวเฉลี่ยราคาเปิดกับราคาขายทำกำไรนั่นเอง กลยุทธ์นี้เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นักเทรดมืออาชีพนิยมใช้กันมากที่สุดเลยก็ว่าได้
Bar (กราฟแท่ง)
กราฟแท่ง หรือ Bar chart เป็นรูปแบบของกราฟราคาที่แสดงในโปรแกรม MT4 ซึ่งเดิมกราฟหลักที่โปรแกรมให้มานั้นจะเป็นเส้นแนวนอนธรรมดาๆ โดยท่านสามารถปรับรูปแบบกราฟให้เป็นกราฟแท่งโดยไปที่ตัวเลือก “Bar” เพียงเท่านี้ท่านก็จะสามารถดูกราฟราคาแบบแท่งได้ชัดเจน
Base Currency (ค่าเงินหลัก)
อย่างที่ทราบกันดีว่าในคู่เงินหนึ่งคู่จะมีสกุลเงินทั้งหมด 2 ตัว โดยสกุลเงินตัวแรก คือ ค่าเงินหลัก หรือ Base currency ซึ่งเป็นค่าเงินที่ใช้เปรียบเทียบในการซื้อขายกับสกุลเงินตัวที่สอง
ตัวอย่าง: สำหรับคู่เงิน EUR\USD ค่าเงินหลัก หรือ Base currency คือ EUR นั่นเองครับ
Benchmark interest rate (อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง)
อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง คือ อัตราดอกเบี้ยขั้นต่ำที่กำหนดโดยธนาคารกลางของแต่ละประเทศ
Bear Market (ตลาดหมี)
Bear Market หรือตลาดหมี คือ จังหวะที่ตลาดเป็นเทรนด์ขาลง (Downtrend) และราคามีแนวโน้มที่จะย่อตัวลงเรื่อยๆ นั่นเอง โดยจะสังเกตได้ชัดเจนจากราคาที่ปรับตัวลงต่ำกว่าราคาสูงสุดเดิม (Lower high) หรือต่ำกว่าราคาต่ำสุดเดิม (Lower low)
Bid (ราคา Bid)
ราคา Bid คือ ราคาที่ท่านต้องการขายคู่เงินหรือสินทรัพย์ต่างๆ ที่ถืออยู่
Bid/Ask Spread (สเปรดระหว่างราคา Bid และราคา Ask)
สเปรดระหว่าง Bid/Ask คือ ส่วนต่างระหว่างราคา Bid หรือราคาซื้อ (ที่ฝั่ง Buy ต้องจ่าย) และราคา Ask หรือราคาขาย (ที่ฝั่ง Sell ต้องการขายสินทรัพย์)
โดยสูตรการคำนวณสเปรด คือ สเปรด = ราคา Ask - ราคา Bid
Blue Chip Stock (หุ้นบลูชิพ)
หุ้นบลูชิพ คือ หุ้นผู้นำที่มีมาตรฐานเนื่องจากเป็นหุ้นของบริษัทที่มีกิจการมั่นคง มีผลประกอบการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นหุ้นใหญ่ (High cap stock) ที่มีความเสี่ยงต่ำ
Bollinger Band
เส้น Bollinger Band เป็นอินดิเคเตอร์ หรือเครื่องมือเทรดที่ใช้บ่งบอกแนวโน้ม (เทรนด์) โดยการแสดงราคาสินทรัพย์ที่เคลื่อนตัวอยู่ระหว่างเส้นแนวรับ (Support band) และแนวต้าน (Resistance band)
Breakout
Breakout (เบรคเอ้าท์) คือ จังหวะที่ราคาวิ่งขึ้นหรือลงทะลุกรอบเส้นแนวโน้มหรือแนวรับ-ต้านต่างๆ
Bull Market (ตลาดกระทิง)
Bull Market หรือตลาดกระทิง ซึ่งเป็นจังหวะที่ตลาดมีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยท่านจะเห็นราคาที่วิ่งขึ้นสูงกว่า High เดิม หรือ Low เดิม (Higher high และ Higher low)
Candlestick Chart Pattern (รูปแบบกราฟแท่งเทียน)
เป็นแพทเทิร์นกราฟที่แสดงราคาสูงสุด (High), ราคาต่ำสุด (Low), ราคาเปิด (Open), และราคาปิด (Close) ในช่วงเวลาต่างๆ โดยที่มาของชื่อกราฟชนิดนี้คือลักษณะที่คล้ายกับแท่งเทียน ซึ่งประกอบไปด้วยตัวแท่งเทียนและ ‘ไส้เทียน’ ซึ่งเป็นเส้นที่ยื่นออกมาจากด้านบนและด้านล่างของตัวเทียนนั่นเอง
CFD หรือ Contract for Difference
CFD (ย่อมาจาก Contract for Difference) คือ สัญญาณซื้อขายส่วนต่างที่ทำขึ้นมาระหว่างโบรกเกอร์และลูกค้าผู้ซื้อขาย เพื่อสร้างข้อตกลงเกี่ยวกับส่วนต่างระหว่างราคาเปิด (Opening price) และราคาปิด (Closing price)
Channel (กรอบราคา)
Channel ในแง่ของการเทรด คือ กรอบราคา หรือช่องที่ราคามีการแกว่งตัว ซึ่งอาจเป็นช่องระหว่างกรอบแนวรับแนวต้านหรือกรอบแนวโน้ม (เทรนด์)
Chasing the Trade (FOMO)
Chasing the Trade คือ การไล่ตามราคา เช่น การไล่ซื้อตามราคาที่วิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะกลัวพลาดโอกาสที่จะได้ถือสินทรัพย์ไว้ทำกำไร หรือภาษาชาวบ้านก็คือ ‘กลัวตกรถ’ (Fear of missing out หรือ FOMO) นั่นเอง แต่ระวังให้ดีล่ะครับ เพราะส่วนใหญ่ที่เห็นคือจะกลายเป็นขาดทุนแทน เนื่องจากราคาพุ่งได้ไม่นาน ก็จะร่วงกลับลงมาในที่สุด
Commodity (สินค้าโภคภัณฑ์)
สินค้าโภคภัณฑ์ คือ สินค้าจากทรัพยากรธรรมชาติที่เราใช้กันในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร แร่ธาตุต่างๆ รวมถึงน้ำมันดิบ, ก๊าซธรรมชาติ, น้ำมัน WTI, โลหะเงิน และทองคำ เป็นต้น
Consumer Price Index (CPI)
Consumer Price Index (CPI) คือ ดัชนีราคาผู้บริโภค ซึ่งเป็นตัวเลขบ่งชี้หลักที่สำคัญของอัตราเงินเฟ้อที่จะมีการรายงานเดือนละครั้ง โดยตัวเลขนี้จะสะท้อนการเปลี่ยนแปลงมูลค่า ‘ตะกร้าสินค้า’ ที่มีการจับจ่ายบริโภคของผู้บริโภคในสหรัฐฯ
Counter Currency (ค่าเงินรอง)
Counter currency หรือ Quote currency เป็นสกุลเงินลำดับที่สองของคู่เงินนั้นๆ ซึ่งเป็นคู่เงินในการซื้อ
ตัวอย่าง: สำหรับคู่เงิน EUR\USD ค่าเงินรอง คือ USD
Currency pair (คู่เงิน)
คู่เงินจะประกอบไปด้วยค่าสกุลเงิน 2 ตัวที่แตกต่างกัน โดยสกุลเงินตัวหนึ่งจะเป็นค่าเงินหลักที่ใช้เปรียบเทียบกับค่าสกุลเงินรอง หรือพูดง่ายๆ ก็คือ การนำค่าสกุลเงินของประเทศหนึ่งไปแลกซื้อสกุลเงินอีกประเทศ ณ จังหวะนั้นๆ
Debt Ratio (อัตราส่วนหนี้สิน)
อัตราส่วนหนี้สิน เป็นตัวบอกสัดส่วนหนี้สินต่างๆ ที่หักออกจากหนี้สินโดยรวมทั้งหมด
Derivative (อนุพันธ์)
ตราสารอนุพันธ์ (Derivative) เป็นสัญญาทางการเงินที่มีมูลค่าของการซื้อขายสินค้าอ้างอิง เช่น ดัชนีตลาด (Index), หุ้น (Stock), สินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity), คู่เงิน (Currency) หรืออัตราดอกเบี้ย (Interest rate) โดยไม่ต้องมีสินทรัพย์นั้นจริงๆ ในมือ
Demo-account (บัญชีเดโม่)
บัญชี Demo เป็นบัญชีทดลองสำหรับมือใหม่ ซึ่งเป็นตัวเลือกการฝึกฝนการเทรดที่ดีที่สุดสำหรับนักเทรดที่ไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการเทรดมาก่อน โดยเทรดเดอร์จะสามารถทดลองเทรดและฝึกฝนกลยุทธ์การเทรดผ่านบัญชีจำลองในสภาวะตลาดจริงได้
Dividend (เงินปันผล)
เงินปันผล คือ ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทเจ้าของหุ้นที่มีผลประกอบการที่เติบโตซึ่งแบ่งให้กับผู้ถือหุ้นทั้งหมด โดยเงินปันผลจะมีช่วงเวลาการจ่ายเป็นไตรมาส หรืออาจเป็นรายเดือน รายปี หรือมีช่วงเวลาจ่ายปันผลโดยเฉพาะของหุ้นนั้นๆ
Doji (แท่งเทียนโดจิ)
แท่งเทียนโดจิ เป็นรูปแบบแท่งเทียนไม่มีเนื้อเทียน (ตัวเทียนเป็นเส้นตรงตรงกลาง) มีแต่ไส้เทียน
Drawdown (เงินขาดทุนสะสม)
Drawdown คือ อัตราส่วนของการขาดทุนสะสมของบัญชีเทรดหนึ่งๆ
EBITDA
EBITDA ย่อมาจาก Earnings Before Interest, Taxes, Depreciation and Amortization คือ กำไรของบริษัทก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าใช้จ่ายตัดจ่าย ซึ่งเป็นตัวประเมินผลการดำเนินงานของบริษัท
Economic Calendar (ปฏิทินเศรษฐกิจ)
ปฏิทินเศรษฐกิจ เป็นตารางเวลาการเผยแพร่ข้อมูลตัวเลขและการรายงานต่างๆ ทางเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ซึ่งจะส่งผลต่อความเคลื่อนไหวในตลาดการเงิน
investing.com
Equity (อควิตี้)
Equity จะเป็นตัวเลขบอกจำนวนเงินในบัญชีเทรดที่รวมผลกำไรและขาดทุนจากคำสั่งซื้อขายทั้งหมดที่ทำการเปิดเทรด โดยยอดอิควิตี้จะมาจากยอดกำไรขาดทุนของคำสั่งที่เรายังไม่ปิดนั่นเอง
EPS (Earnings Per Share หรือกำไรต่อหุ้น)
EPS เป็นอัตราส่วนระหว่างกำไรสุทธิต่อจำนวนหุ้น ซึ่งใช้บอกความมั่นคงของบริษัทเจ้าของหุ้นได้
EUR/Euro (ยูโร)
สกุลเงินยูโร เป็นสกุลเงินหลักของกลุ่มประเทศสมาชิกของยุโรป (European Union member states)
EV (Enterprise Value หรือมูลค่าสุทธิของกิจการ)
มูลค่าสุทธิของกิจการ คือ มูลค่าทั้งหมดของกิจการหรือหุ้น
EV/EBITDA
Enterprise Value ต่อ Earnings Before Interest, Taxes, Depreciation and Amortization เป็นตัววัดมูลค่าของบริษัทที่แม่นยำมากที่สุด โดยการนำค่า EV มาหารกับค่า EBITDA ซึ่งหากค่าที่ได้ออกมาต่ำเท่าไหร่ ก็หมายความว่ามูลค่าของบริษัทอยู่ในเกณฑ์ดีมากเท่านั้น
Exchange Rate (อัตราแลกเปลี่ยน)
อัตราแลกเปลี่ยนเป็นตัวบ่งบอกราคาของคู่เงิน หรือที่เรียกกันอีกอย่างว่า FX rate ซึ่งย่อมจาก Foreign exchange rate นั่นเอง
Fibonacci Line (เส้นฟีโบนักชี)
เป็นการนำตัวเลขฟีโบนักชีมาแสดงเป็นเส้นในแพทเทิร์นกราฟ เพื่อบอกตำแหน่งแนวต้านในกราฟ
Floating Profit/Loss (กำไร/ขาดทุนลอยตัว)
กำไร/ขาดทุนลอยตัว เป็นตัวเลขที่บอกกำไรหรือขาดทุนของคำสั่งซื้อขายต่างๆ ที่ยังไม่ปิดหรือยังไม่ได้สรุป โดยตัวเลขนี้จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามราคาตลาดในปัจจุบัน
Floating Spread (สเปรดลอยตัว)
Floating Spread คือ ส่วนต่างระหว่างราคา Bid และราคา Ask ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ตามสภาวะของตลาดจากอุปสงค์หรืออุปทานที่เพิ่มขึ้นและลดลง
Forex Foreign Exchange Market (ตลาด Forex)
ตลาด Forex คือ ตลาดที่มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนค่าสกุลเงิน หรือที่เรียกกันส่วนใหญ่ว่า ตลาดคู่เงิน (Currency market), Foreign exchange และเรียกย่อๆ ว่า FX นั่นเอง
Forex Trading (การเทรด Forex)
การเทรด Forex คือ การซื้อขาย CFDs หรือสัญญาฟิวเจอร์ส (Futures contract) สำหรับการแลกเปลี่ยนค่าสกุลเงินของประเทศต่างๆ โดยอาจรวมถึงสกุลเงินดิจิทอล ( Cryptocurrencies)
FTSE 100 Index
ดัชนี FTSE 100 (Financial Times Stock Exchange 100 Index) เป็นดัชนีที่วัดผลการดำเนินงานของบริษัทขนาดใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของลอนดอน
Gap (ช่องว่างราคา)
Gap คือ ช่องว่างราคาที่เกิดขึ้นในกราฟเนื่องจากราคากระโดดจากระดับหนึ่งไปยังอีกระดับ และเกิดช่องว่างที่ไม่มีแท่งกราฟปรากฎขึ้น โดย gap ราคาเกิดขึ้นได้ในระหว่างการเทรดและช่วงที่ราคาวิ่งอย่างรวดเร็วเนื่องจากปัจจัยข่าวต่างๆ
GBP/British pound (ปอนด์อังกฤษ)
เงินปอนด์ คือ ค่าสกุลเงินหลักของประเทศอังกฤษ
Hedging
Hedging คือ กลยุทธ์ในการจัดการความเสี่ยงในการเทรด
ตัวอย่าง: การเปิดคำสั่งซื้อให้สวนทางกับคำสั่งขาย
In the Money (ITM)
In the Money (ITM) คือ สถานะของออปชันในกรณีที่ราคาใช้สิทธิของออปชันมากกว่าระดับราคาสินทรัพย์
Index (ดัชนี)
ดัชนีเป็นตัวบ่งชี้ของข้อมูลตัวเลขต่างๆ ในตลาดการเงิน พูดง่ายๆ ก็คือดัชนีจะเป็นตัวบ่งบอกสภาวะของตลาดว่าตลาดกำลังอยู่ในเกณฑ์บวก หรืออยู่ในความเสี่ยง
Indicator (ตัวชี้วัดทางเทคนิค)
อินดิเคเตอร์ หรือตัวชี้วัดทางเทคนิค เป็นเครื่องมือเทรดทางเทคนิคที่อาศัยการวิเคราะห์และคำนวณข้อมูลในกราฟราคา เพื่อสร้างสัญญาณซื้อขายและคาดการณ์ทิศทางราคาล่วงหน้า
Instant execution (การส่งคำสั่งให้ดำเนินการทันที)
Instant execution คือ การส่งคำสั่งซื้อขายแบบทันทีทันใดโดยไม่ต้องรอให้ราคาแมทช์
Instrument (ตราสาร)
ตราสาร (หรือ Instrument) หมายถึง สินทรัพย์ที่สามารถนำมาซื้อขายแลกเปลี่ยนได้ ซึ่งได้แก่ หุ้น, คู่เงิน และสินค้าโภคภัณฑ์ เป็นต้น
Investor (นักลงทุน)
นักลงทุน คือ ผู้ที่แสวงหาผลกำไรโดยใช้เครื่องมือทางการเงินต่างๆ เป็นตัวช่วยในการลงทุน โดยสินทรัพย์หลักๆ ที่นักลงทุนส่วนใหญ่ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ได้แก่ หุ้น, ตราสารหนี้, ทองคำ, น้ำมัน และคู่เงิน และมีบริการการลงทุนที่น่าสนใจอย่าง PAMM เป็นต้น
Investor's account (บัญชีนักลงทุน)
บัญชีนักลงทุน คือ บัญชีเทรดที่เทรดเดอร์เปิดกับโบรกเกอร์แห่งหนึ่ง โดยให้ผู้จัดการทางการเงิน หรือ PAMM manager ของโบรกเกอร์ดังกล่าวเป็นคนคอยดูแลการซื้อขายให้
IPO (Initial Public Offering)
Initial Public Offering หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า “หุ้น IPO” คือ หุ้นที่มีการซื้อขายเป็นครั้งแรก โดยบริษัทเจ้าของหุ้นเพิ่งจะปล่อยหุ้นดังกล่าวออกมาให้ประชาชนทั่วไปได้ทำการซื้อขายเป็นครั้งแรกนั่นเอง
JPY /Japanese yen (เงินเยนญี่ปุ่น)
เงินเยนญี่ปุ่น คือ ค่าสกุลเงินของประเทศญี่ปุ่น
Japanese candles (กราฟแท่งเทียนญี่ปุ่น)
กราฟแท่งเทียนญี่ปุ่นเป็นอีกหนึ่งแพทเทิร์นกราฟยอดนิยมบนแพลตฟอร์มเทรด ที่ทำให้เทรดเดอร์สามารถดูราคาและความผันผวนในตลาดได้ง่ายขึ้น โดยแท่งเทียนแต่ละแท่งจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่: ตัวเทียน หรือ Body (ส่วนที่อยู่ระหว่างราคาเปิดและราคาปิด) และไส้เทียน หรือ Shadow\Wick (ซึ่งเป็นเส้นตรงที่ลากออกมาจากตัวเทียนถึงราคา High และ Low)
Leading Indicator (ตัวชี้วัดนำ)
ตัวชี้วัดนำ คือ ตัวชี้วัดประเภทหนึ่งซึ่งเป็นดัชนีที่ประกอบไปด้วยเครื่องมือสำคัญทางการเงินที่ใช้คาดการณ์ว่าสภาวะเศรษฐกิจและตลาดนั้นจะเป็นอย่างไรในหลายเดือนข้างหน้า โดยตัวชี้วัดประเภทนี้จะมีประโยชน์ในการคาดการณ์ช่วงเวลา, ระดับการเปลี่ยนแปลง, ระยะเวลาของช่วงสภาวะเศรษฐกิจในอนาคต รวมถึงสภาวะธุรกิจและกิจการต่างๆ
Leverage (เลเวอเรจ)
เลเวอเรจ คือ ตัวช่วยในการเทรดที่ทำให้นักเทรดสามารถเปิดคำสั่งซื้อขายที่มีขนาดใหญ่กว่าเงินทุนจริงได้
Limit Order (คำสั่งลิมิต)
ออเดอร์ลิมิต คือ การตั้งลิมิตราคา หรือการจำกัดระดับราคาในการซื้อขายสินทรัพย์
Liquidity (สภาพคล่อง)
สภาพคล่องจะเป็นตัวบ่งบอกความง่าย (คล่อง) ในการขายสินทรัพย์ต่างๆ
Liquidity provider (ผู้ให้บริการสภาพคล่อง)
ผู้ให้บริการสภาพคล่อง (LP) คือ องค์กรทางการเงินที่ช่วยโบรกเกอร์กำหนดราคาให้กับลูกค้า เพื่อสร้างสภาพคล่องในการซื้อขาย อีกทั้งยังเป็นผู้รับซื้อและขายสินทรัพย์ในตลาดให้ลูกค้า
Long position (ออเดอร์ Long)
ออเดอร์ Long คือ การเปิดคำสั่ง ‘ซื้อ (Buy)’ เพื่อทำกำไรจากราคาที่วิ่งขึ้น
Lot (ล็อต)
ล็อต คือ ปริมาณการซื้อขายของสินทรัพย์ต่างๆ เช่น 1 Lot = 100,000 สำหรับคู่เงิน และ 1 Lot = 1 หุ้น สำหรับสัญญา CFD หุ้น
Low price (ราคาต่ำสุด)
ราคา Low เป็นราคาต่ำสุดในกรอบเวลา (Timeframe) ต่างๆ
MA หรือ Moving Average (ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่)
ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) เป็นตัวเลขที่บ่งบอกค่าเฉลี่ยของราคาเพื่อใช้วิเคราะห์แนวโน้ม (เทรนด์) ของสินทรัพย์ต่างๆ โดยภาพข้างล่างเป็นตัวอย่างกราฟเส้นที่แสดงให้เห็นความผันผวนของราคาที่ใช้บ่งบอกเทรนด์ แนวรับ และแนวต้าน
MACD
Moving Average/Convergence/Divergence หรือ MACD เป็นหนึ่งในเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทั้งในขาขึ้นและขาลง ที่ช่วยให้เทรดเดอร์เห็นการเปลี่ยนแปลงของราคาและเข้าใจได้ว่าเทรนด์อยู่ในขาขึ้นหรือขาลง
Margin (มาร์จิ้น)
มาร์จิ้น คือ ระดับเงินทุนที่ท่านจะต้องมีในบัญชีเทรดเพื่อเทรดโดยใช้เลเวอเรจ
Margin Call (มาร์จิ้นคอล หรือ Stop Out)
การแจ้งเตือนที่บังคับให้นักลงทุนฝากเงินในบัญชีเทรดเพิ่ม หรือปิดคำสั่งซื้อขายบางส่วนที่เปิดอยู่ โดยคำสั่งนี้จะเกิดขึ้นเมื่อยอดเงินในบัญชีของท่านมีไม่พอสำหรับรองรับการเปิดคำสั่งซื้อขายโดยใช้มาร์จิ้น หรือจังหวะที่ระดับมาร์จิ้นแตะ 130% หรือลดลงมากกว่านั้น
Market Cap (Market Capitalization)
Market Cap คือ มูลค่ารวมของหลักทรัพย์ตามราคาตลาด
Market Maker (ผู้ควบคุมตลาด)
Market Maker คือ ผู้ควบคุมตลาด หรือที่ภาษาชาวบ้านเรียกว่า “เจ้ามือ” ซึ่งมีลักษณะเป็นผู้ที่ทำให้เกิดสภาพคล่องในตลาดโดยการเตรียมพร้อมการซื้อขายสินทรัพย์ในช่วงเวลาต่างๆ
Market Order (คำสั่งตลาด)
การตั้งคำสั่งซื้อขายตามราคาตลาด ณ ขณะนั้น เพื่อให้สามารถเปิดหรือปิดคำสั่งซื้อขายเหล่านั้นได้ทันที
Margin Trading (การเทรดมาร์จิ้น)
การใช้มาร์จิ้นในการเทรด คือ การยืมเงินทุนของโบรกเกอร์มาใช้ในการเปิดคำสั่งซื้อขายที่มีวอลุ่มขนาดใหญ่ ซึ่งเงินทุนในบัญชีของนักเทรดอาจมีไม่เพียงพอ
MultiTerminal
MultiTerminal เป็นหนึ่งในรูปแบบแพลตฟอร์มเทรด MT4 ที่ให้เทรดเดอร์สามารถเปิดคำสั่งซื้อขาย หรือเทรดจากหลายบัญชีได้ทีเดียวพร้อมกัน ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากสำหรับนักเทรดที่ใช้บัญชีนักลงทุน หรือเทรดเดอร์ที่มีหลายพอร์ต
Nasdaq 100 (ดัชนี NQ100)
ดัชนี Nasdaq 100 คือ ดัชนีที่รวบรวมผลประกอบการของบริษัทขนาดใหญ่กว่า 100 แห่งในสหรัฐฯ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ต และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq
NFP (ตัวเลข Non-Farm Payroll)
ตัวเลข Nonfarm ของสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดหลักของสหรัฐเลยก็ว่าได้ โดยตัวเลขสถิตินี้จะบอกจำนวนการจ้างงานรายเดือนของหน่วยงานต่างๆ นอกภาคการเกษตร, ภาครัฐ, ภาคครัวเรือน, กลุ่มธุรกิจที่ไม่ได้จดทะเบียน และองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร โดยจะประกาศออกมาทุกๆ วันศุกร์แรกของเดือน
Non-market quote
Non-market quote คือ การตั้งคำสั่งด้วยราคาที่อยู่ในระหว่างช่องว่างของระดับราคา
Open Market (ตลาดเปิด)
การที่ตลาดซื้อขายกลับมาเปิดอีกครั้งหลังจากที่รอบการเทรดก่อนหน้าสิ้นสุดในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์
Open position (คำสั่งที่เปิดอยู่)
Open position คือ คำสั่งซื้อขายที่เราได้เปิดถือค้างเอาไว้ ยังไม่ได้ปิด
Oscillator
Oscillator คือ ประเภทอินดิเคเตอร์หรือตัวชี้วัดชนิดหนึ่งที่ใช้ในการวิเคราะห์ตลาด
OTC
Over The Counter trade (OTC) คือ การซื้อขายหุ้นกันเองโดยตรง โดยมีการตกลงราคากันเอง ไม่มีตลาดอย่างเป็นทางการ
Out of the Money
คือ ออปชั่นที่มีโอกาสในการใช้สิทธิต่ำ หรือสินทรัพย์ที่ซื้อขายยาก
Passive Income
Passive income คือ รายได้ที่มาจากการลงทุนโดยไม่ต้องออกแรงไม่มากมาย ไม่ได้มาจากการทำงานประจำ แต่เป็นการปล่อยให้เงินทำงาน
Penny Stock (หุ้นเศษสลึง)
หุ้น Penny คือ หุ้นของบริษัทขนาดเล็ก ที่มีราคาต่ำกว่า $5 ต่อหุ้น
PE Ratio (อัตราส่วน PE)
อัตราส่วน PE คือ อัตราส่วนระหว่างราคาหุ้นและกำไรสุทธิของหุ้น โดยการนำราคาหุ้นมาหารด้วยกำไรสุทธิของหุ้นต่อ 1 ตัว โดยค่าที่ได้จากการคำนวณจะบ่งบอกมูลค่าของสินทรัพย์และทำให้ทราบว่าต้องใช้เวลากี่ปีนักลงทุนถึงจะได้ทุนคืน
Pip (Price Interest Point หรือ Percentage in Point)
Pip คือ หน่วยการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนของคู่เงิน ซึ่งโดยทั่วไป 1 Pip จะมีหน่วยเท่ากับ 1/10,000 หรือ .0001% ของราคาสินทรัพย์
ตัวอย่าง: EUR\USD - 1.19385, 1 pip = 5 หน่วย
Portfolio (พอร์ต)
พอร์ต คือ ตัวจัดเก็บและรวบรวมสินทรัพย์ที่นักเทรดกำลังครอบครอง หรือเคยเป็นเจ้าของ
Profit (กำไร)
Profit คือ กำไรซึ่งเป็นผลตอบแทนจากการเทรดชนะ
Quote Currency (ค่าเงินรอง)
Quote currency คือ สกุลเงินลำดับที่สองในคู่สกุลเงิน หรือที่เรียกกันอีกอย่างว่า Counter currency
ตัวอย่าง: สำหรับคู่เงิน EUR\USD ค่าเงินรอง คือ USD
Range (กรอบราคา)
Range คือ กรอบราคาซึ่งเป็นส่วนต่างที่อยู่ในกรอบระหว่างระดับ High และระดับ Low
Rebate (รีเบต)
Rebate คือ เงินที่โบรกเกอร์หรือพาร์ทเนอร์จ่ายคืนกลับให้ลูกค้าโดยตรง
Rollover (โรลโอเวอร์)
Rollover คือ จำนวนเงินที่นักเทรดอาจได้รับหรือถูกเรียกเก็บจากการเปิดคำสั่งซื้อขายทิ้งไว้ข้ามคืน
RSI หรือ Relative Strength Index
RSI เป็นอินดิเคเตอร์โมเมนตัมที่ใช้บอกความเร็วในการเคลื่อนไหวของราคา โดยจะมีค่าตั้งแต่ 0 ถึง 100 ซึ่งจะบ่งบอกสภาวะตลาดที่มีการซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold) ที่ใช้บอกสัญญาณในการเปลี่ยนเทรนด์ได้
Scalping
การเทรด Scalp คือ กลยุทธ์การเทรดรายวัน โดยการเปิดคำสั่งซื้อขายหลายๆ ออเดอร์เพื่อทำกำไรจากราคาที่วิ่งเพียงเล็กน้อย แต่เน้นปริมาณออเดอร์มากๆ
Short position (ออเดอร์ Short)
การเปิดออเดอร์ Short คือ การตั้งคำสั่งดักขาย โดยหวังว่าราคาจะย่อตัวลงไปกว่าเดิม
Short Sell (ขายชอร์ต)
การขาย Short สินทรัพย์ต่างๆ ที่ผู้ขายไม่ได้เป็นเจ้าของเอง แต่ยืมมาขายและรอให้ราคาปรับตัวลงกว่าราคาที่ขายไปเพื่อซื้อสินทรัพย์นั้นกลับมาคืนเจ้าของที่ราคาต่ำๆ และทำกำไรจากส่วนต่างระหว่างราคาที่ขายไปและราคาที่ซื้อกลับมาคืน
Slippage (สลิปเพจ)
Slippage คือ ค่าความคลาดเคลื่อนระหว่างราคาซื้อขายที่ต้องการและราคาซื้อขายที่เกิดขึ้นจริง โดยจะเป็นส่วนต่างระหว่างราคาที่ท่านได้ตั้งคำสั่งซื้อขายและราคาจริงที่คำสั่งแมทช์
Standard & Poor’s 500 (S&P 500)
S&P 500 คือ ดัชนีของบริษัทขนาดใหญ่กว่า 500 แห่งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ ซึ่งเป็นตัวเลขสถิติที่ใช้บ่งบอกสภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐได้
Spike
Spike เป็นลักษณะแท่งราคาแท่งเดี่ยวที่ผันผวนจากราคาก่อนหน้าค่อนข้างมาก
Spot Price (ราคาสปอต)
ราคาปัจจุบันของคู่เงิน
Spread (สเปรด)
สเปรด คือ ส่วนต่างระหว่างราคา Ask หรือราคาซื้อ และ Bid หรือราคาขาย
Stop Loss Order (ออเดอร์ตัดขาดทุน)
ออเดอร์ Stop Loss คือ การกำหนดจุดในการออกออเดอร์เมื่อราคาวิ่งไปแตะจุดที่กำหนดไว้ เพื่อป้องกันการขาดทุนจากการที่ราคาวิ่งสวนทางกับออเดอร์ที่เปิดไว้
Stop Out
Stop Out คือ จุดที่โบรกเกอร์จะปิดคำสั่งซื้อขายของท่านโดยอัตโนมัติ เมื่อระดับมาร์จิ้นเริ่มลดลงต่ำกว่าจุดที่กำหนด หรือที่เรียกกันว่า มาร์จิ้นคอล (Margin Call)
Swap (สว๊อป)
Swap คือ ค่าธรรมเนียมในการเปิดออเดอร์ข้ามคืน
Take profit (จุดทำกำไร)
Take profit เป็นการตั้งจุดออกหรือปิดคำสั่งซื้อขายเพื่อทำกำไรจากราคาที่วิ่งไปแตะระดับที่กำหนดในการทำกำไร
Tick
หน่วยของราคาสินทรัพย์ที่มีการขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยทั้งในขาขึ้นและขาลง
Trading Terminal
เป็นซอฟต์แวร์หรือแพลตฟอร์มสำหรับการซื้อขาย (เทรด) ที่เชื่อมต่อกับตลาดการเงินทั่วโลกและสามารถเทรดตราสารได้หลากหลาย
Trailing Stop
การตั้ง Trailing stop คือ การกำหนดจุดออกออเดอร์หรือตั้งจุดปิดคำสั่งซื้อขายไว้ล่วงหน้า เพื่อให้ออเดอร์ปิดลงเมื่อราคาวิ่งสวนทิศทางที่เปิดออเดอร์เอาไว้และแตะระดับที่กำหนด
Trend Line (เส้นเทรนด์ไลน์)
เส้น Trend line เป็นเส้นที่ใช้บอกทิศทางการเคลื่อนที่ของราคาสินทรัพย์ต่างๆ โดยจะเป็นเส้นที่ลากเชื่อมต่อระหว่างราคา High 3 จุด หรือราคา Low 3 จุด
USD/United States dollar (ดอลลาร์สหรัฐฯ)
ดอลลาร์สหรัฐ คือ สกุลเงินของประเทศสหรัฐนั่นเอง
Volatility (ความผันผวน)
การที่ราคาวิ่งขึ้นลงอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาต่างๆ
โดยยิ่งตลาดมีความผันผวนมากเท่าไหร่ สเปรดก็จะยิ่งกว้างมากเท่านั้น
Volume (Trading volume หรือ ปริมาณการซื้อขาย)
จำนวนครั้งในการซื้อหรือขายสินทรัพย์ในช่วงเวลาหนึ่งๆ ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะดูเป็นรายวัน
ขอให้ทุกท่านโชคดีกับการเทรด!