กฎทองคำกล่าวไว้ว่า "จงซื้อเมื่อเลือดนองถนน" ในแง่การลงทุน มันคือช่วงที่ตลาดตกต่ำนั่นเอง ด้วยสถานการณ์โลกปัจจุบันเทรดเดอร์อาจจะร้อง "อ่อ!" หากพูดว่า "ซื้อเมื่อ COVID-19 กำลังระบาด" ถึงแม้เราจะภาวนาให้ COVID-19 หายไปไวๆ ก็ตาม ว่าแต่.. ท่านมีความกล้ามากพอจะเสี่ยงหากำไรช่วงวิกฤตจริงๆ เหรอ? ท่านอาจพึ่งพาความเชื่อผิดๆ หรือแนวคิดเดิมๆ เพื่อจะมั่งคั่งร่ำรวยไม่ได้อีกต่อไป
ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนกล่าวว่า การรับมือกับเทรนด์ขาลงยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร ในขณะที่เทรดเดอร์บางรายค้นพบวิธีการใช้จังหวะวิกฤตให้เป็นประโยชน์และทำกำไรจากการลงทุนในหุ้น ตราสารหนี้ และตราสารทางการเงินอื่นๆ
MTrading พร้อมแนะนำวิธีเทรดในช่วงตลาดขาลงให้กับเทรดเดอร์ทุกคน หากพร้อมแล้วล่ะก็ เข้าร่วมแวดวง forex แบบเพลิดเพลินแต่ได้เงินจริงไปกับเรา
อยากจะเป็น Warren Buffet คนที่ 2 ของโลก หรือเป็นมหาเศรษฐีอย่าง John Paulson ดีล่ะ? อ่านบทความนี้ให้จบแล้วจะพบว่า ท่านเองก็ประสบความสำเร็จอย่างพวกเขาได้!
แน่นอน พวกเขาได้รับผลกระทบอย่างที่ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้ แต่เป็นในแง่มุมที่ต่างออกไป ตามทฤษฎีการลงทุน เทรดเดอร์ต้องเทรดอย่างมีตรรกะจึงจะได้กำไรและผลตอบแทนสูงสุด แต่เอาเข้าจริงคงมีเพียงไม่กี่คนที่จะทำตามทฤษฎีนั้นจริงๆ ความวิตกกังวลทำให้พวกเขาเทรดโดยไร้เหตุผล และเมื่อจังหวะวิกฤตมาถึง เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ต่างก็เทรดตามอารมณ์ โดยเฉพาะในยามที่เศรษฐกิจโลกเผชิญกับวิกฤตที่ควบคุมไม่ได้
ใช่แล้ว! มันคือสิ่งที่เรากำลังเผชิญกันอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 นั่นแหละ ทฤษฎีการเงินเชิงพฤติกรรมได้อธิบายเหตุผลที่ทำให้นักลงทุนเทรดโดยไร้ตรรกะมากยิ่งขึ้น ดังนี้
เหตุผลที่กล่าวมานี้กีดกันโอกาสดีๆ ที่นักลงทุนควรจะทำกำไรได้ น้อยคนนักที่จะเข้าใจว่าช่วงวิกฤตก็อาจเป็นเวลาเหมาะสมที่จะทำเงินได้อย่างไม่น่าเชื่อ มองหาโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือและมี ตราสารการเทรดให้เลือกลงทุน หลากหลายเอาไว้
อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เทรดเดอร์พลาดโอกาสทองในการรับผลตอบแทนคุ้มค่าจากการเทรด คือ การหลีกเลี่ยงการลงทุนเพราะกลัวขาดทุน ทั้งที่จริงๆ แล้ว ท่านควรจะหลีกเลี่ยงความเสี่ยงมากกว่า ว่ายังไงนะ? ท่านไม่เคยได้ยินคำกล่าวนี้มาก่อนเลยเหรอ? มาทำความเข้าใจว่ามันหมายความว่าอย่างไรกันแน่
คำบัญญัตินี้หมายถึง เทรดเดอร์ที่เลือกจะเก็บทุนทรัพย์ไว้แทนที่จะหาลู่ทางในการทำกำไร แม้บางครั้งการเทรดจะมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาตลาด แต่มันก็ยังพอมีโอกาสที่ท่านจะชนะได้บ้าง ในทางกลับกัน ความเสี่ยงที่น้อยลงทำให้การเทรดของท่านมั่นคงมากขึ้น แต่หากเทรดด้วยความเสี่ยงต่ำเกินไป ก็ลืมโอกาสที่จะร่ำรวยไปได้เลย! เพราะกำไรที่ได้นั้นแทบจะเป็นศูนย์
หุ้นที่มีเงินปันผลเติบโต คือตัวอย่างที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของเหล่านักลงทุน พวกเขาเฝ้ารอรับเงินปันผลที่แน่นอนในช่วงจ่ายปันผล ซึ่งเป็นวิธีการง่ายๆ ในการชดเชยการขาดทุนในอนาคต
โปรดรู้เอาไว้ว่า "คุณไม่ได้เดินเพียงลำพัง" เหตุวิกฤตไม่เพียงแต่ส่งผลต่อนักลงทุน แต่ยังมีผลกระทบต่อรายได้โดยรวมของบริษัทเช่นกัน ดังนั้น อย่าตกใจไปเลย หากเงินปันผลที่ท่านได้จริงอาจลดฮวบ เพราะวิกฤตนี่มันร้ายแรงเหนือการควบคุมเหลือเกิน
ข้อควรรู้: อารมณ์และความกลัวทำให้เทรดเดอร์เผชิญกับความล้มเหลว ปัญหาสำคัญคือ พวกเขากลัวแม้กระทั่งจังหวะที่ตลาดฟื้นตัวจากภาวะตกต่ำ จากการวิเคราะห์ล่าสุดพบว่า 93% ของเทรดเดอร์กลุ่ม Gen Z ไม่มั่นใจในตลาด Forex ช่วงวิกฤต COVID-19 จะมีสักกี่คนที่กลับมาไว้วางใจ เมื่อตลาดฟื้นตัวขึ้น?
เอาล่ะ ท่านคงสงสัยว่า "แล้วหุ้นตั้งรับล่ะ?" เราต้องขอบอกว่า การเฟ้นหาบริษัทที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะวิกฤตหรือช่วงเศรษฐกิจตกต่ำนั้นไม่ง่ายเลย อีกนัยหนึ่ง ท่านมักจำเป็นต้องเตรียมแผนสำรองในการลงทุนใหม่อีกครั้งซึ่งก็อาจจะเสี่ยงพอตัว
ในสถานการณ์แบบนี้ การเร่ิมทดลองเทรดแบบไร้ความเสี่ยงนับเป็นไอเดียที่ดีเลยทีเดียว!
MTrading ขอเสนอ บัญชีเดโม่ พร้อมเงิน $5,000 แบบฟรีๆ! ให้ท่านได้ทดลองเทรดภายใต้เงื่อนไขและภาวะตลาดแบบเรียลไทม์ เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับท่านก่อนเปิดบัญชีจริง
ลองถามตัวท่านเองว่าอะไรสำคัญมากกว่ากัน ระหว่าง: หลีกเลี่ยงจะเสียเงิน 1,000 เหรียญ หรือ ทำเงินได้ 1,000 เหรียญ? หากท่านเลือกข้อแรก นั่นแสดงว่าท่านเป็นเทรดเดอร์ผู้หลีกเลี่ยงการขาดทุน หรือจะพูดให้ง่ายก็คือ ความกลัวมีอิทธิพลต่อความคิดของท่านมากจนเกินไป โดยเฉพาะเมื่อตลาดอยู่ในภาวะตกต่ำ แล้วถ้าหากท่านกลัวจนหลังชนฝา แล้วจะหาเงินได้ยังไงเวลาที่พายุโหมกระหน่ำล่ะครับ?
ขั้นแรกคือ ท่านไม่ควรขายหุ้นทิ้งทั้งหมดตั้งแต่เมื่อสัญญานแห่งหายนะเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น ลำดับต่อมาคือ อย่าตื่นตูมและรีบเร่งลงทุนในตราสารอื่นๆ เพื่อป้องกันการสูญเสีย เรามักพบเจอสัญชาตญานพื้นฐานในการเทรดที่เทรดเดอร์น้อยคนนักจะเอาชนะได้
ท่านอาจจะป้องกันตัวเองจากความเจ็บปวดในการขาดทุนด้วยการหนีจากการเทรดไปเสีย เหมือนที่เทรดเดอร์เจ้าอารมณ์ทำกันเป็นประจำ (อุ้ปส์!) แต่นั่นแทบไม่ใช่การตัดสินใจโดยใช้เหตุผลเลยแม้แต่นิด เมื่อเกิดสถานการณ์วิกฤต เทรดเดอร์ไม่น้อยวิ่งหนีอย่างคลุ้มคลั่งท่ามกลางราคาหุ้นที่ร่วงลงอย่างรุนแรง
หนึ่งในทางออกที่ดีก็คือ การเปลี่ยนไปลงทุนในตราสารอื่นๆ ที่มั่นคงและปลอดภัยกว่า เช่น คู่เงิน หรือตราสารเทียบเท่าเงินสด เช่น ทอง เป็นต้น
หากเราสามารถช่วยให้ท่านเอาชนะความกลัวในการเทรดได้สำเร็จ ขอแนะนำเคล็ดลับดีๆ ที่จะช่วยให้ท่านทำเงินในช่วงวิกฤตได้ แต่ก่อนอื่นมาลองดูวิธีทำกำไรจากการเทรด forex กันก่อน
ช่วงวิกฤตเป็นโอกาสที่ท่านสามารถซื้อสินทรัพย์ที่ถูกลงจากนักลงทุนที่กระสับกระส่ายด้วยความกลัวที่จะขาดทุน อย่างที่เราได้บอกไว้ ความกลัวเป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่มีอิทธิพลต่อตลาดมากๆ ดังนั้น นี่จึงเป็นโอกาสทองที่เทรดเดอร์ผู้มีตรรกะจะซื้อสินทรัพย์ในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง
หลักการสำคัญ: ในขณะที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่กำลังสั่นระริกด้วยความกลัว นักเทรดมืออาชีพจะเฝ้ามองราคาที่ลดลงอย่างใจเย็น เราเรียกจังหวะนี้ว่า "โอกาสทองในการซื้อ" ไม่บ่อยนักที่ท่านจะพบจังหวะในการซื้อหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์ในราคาที่ต่ำที่สุดในตลาด
และนี่คือ 3 องค์ประกอบหลัก ที่จะทำให้กลยุทธ์นี้สำเร็จ
เมื่อวิกฤตปะทุตัวขึ้น ตลาดกลายเป็นเถ้าถ่าน ตราสารการเทรดถูกทอดทิ้ง สิ่งที่ท่านต้องทำคือ รอเพียงอึดใจเดียว เมื่อสถานการณ์กลับคืนสู่ภาวะปกติราคาก็จะเด้งกลับอย่างรวดเร็วมายังมูลค่าก่อนที่จะเกิดความตกต่ำ!
ผู้เชี่ยวชาญได้วิเคราะห์อย่างละเอียดเกี่ยวกับผลลัพธ์หลังจาก 28 เหตุวิกฤตที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์โลกสมัยใหม่ ซึ่งรวมถึงสงครามโลกครั้งที่ 2, วินาศกรรม 9/11, ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ และเหตุการณ์อื่นๆ อีกมากมาย พบว่าราคาตลาดมักหวนกลับมายังราคาก่อนหน้าที่จะมีเหตุวิกฤตเกินขึ้นเสมอ นักลงทุนที่ใจร้อนขายสินทรัพย์ทิ้งไปเพราะความกลัวจะต้องเสียใจยิ่งกว่าเดิมเมื่อต้องซื้อสินทรัพย์นั้นกลับคืนมาในพอร์ตในราคาที่สูงขึ้น!
มาลองดูตัวอย่างสถานการณ์ตลาด forex หลังการโจมตีอ่าวเพิร์ล ฮาร์เบอร์ ดัชนี S&P 500 ทำให้เกิดช่องว่างราคา ณ ขณะที่ดัชนีร่วง 4% และเมื่อดัชนีร่วงอีกกว่า 14% นักลงทุนจึงขายสินทรัพย์ที่พวกเขามีอยู่ด้วยความกลัว แต่แล้วฟ้าหลังฝนก็ย่อมสดใสขึ้นเสมอ ในปี ค.ศ. 1945 ดัชนีฟื้นกลับมากว่า 25% ซึ่งเพิ่มขึ้นเกินกว่าจุดตกต่ำในช่วงวิกฤตเสียอีก
จากทฤษฎีสู่การลงสนามจริง ได้เวลาแล้ว! ที่ท่านจะทำกำไรจากเทคนิคการเทรดในช่วงวิฤต
หากท่านยังไม่เชื่อว่า ท่านสามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสได้ MTrading มีตัวอย่างเหตุการณ์จริงมาพิสูจน์ แล้วท่านจะพบว่าเทคนิคที่เราได้กล่าวไปเบื้องต้นได้ช่วยให้เหล่านักธุรกิจกลายเป็นเศรษฐีพันล้านมาหลายรายแล้ว!
ยังคงไม่มั่นใจที่จะเข้าร่วมตลาด forex ในช่วงที่ตลาดแลดูสิ้นหวังใช่ไหม? ลองอ่านเรื่องราวของ 3 นักลงทุนอันดับต้นๆ ของโลกที่ใช้โอกาสในช่วงวิกฤตสร้างรายได้มหาศาลและกลายเป็นเศรษฐีพันล้านของโลก
บัฟเฟตต์ได้ลงทุนกับหุ้นเด่นๆ หลายตัวในช่วงวิกฤตปี 2008 เขาซื้อหุ้นมูลค่ารวม 5 พันล้านเหรียญ และได้รับอัตราดอกเบี้ย 10% รวมทั้งยังได้หลักประกันอีกด้วย เขาลงทุนเช่นนี้กับบริษัทหลายแห่งที่มีชื่อเสียงและน่าเชื่อถือ ได้แก่ General Electrics, Goldman Sachs และ Dow Chemical
จอห์นได้สร้างชื่อเสียงหลังจากการวางเดิมพันครั้งสำคัญกับตลาดการเคหะในสหรัฐ ช่วงวิกฤตปี 2009 การเดิมพันในเวลาอันประจวบเหมาะครั้งนั้น ทำให้พอลสันและบริษัทของเขาทำเงินได้ถึง 15 พันล้านเหรียญเลยทีเดียว เป็นผลให้จอห์น มีสัญญาเทรดมูลค่านับพันล้านกับหนึ่งในธนาคารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอเมริกา
หนึ่งในตัวอย่างที่ดีของการใช้ประโยชน์จากความกลัวในช่วงวิกฤตสินเชื่อ หลังจากที่ไดมอนได้ทำรายได้มหาศาลให้ JP Morgan เขายังได้อุ้ม Bear Stearns และ Washington Mutual เอาไว้ในขณะที่สถาบันการเงินทั้งสองกำลังจะล้มลง เขาซื้อหุ้นแต่ละตัวในราคาไม่ถึง 10 เหรียญ ปัจจุบัน เขากลายเป็นมหาเศรษฐีพันล้าน
เราหวังว่าตัวอย่างของนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จเหล่านี้ จะทำให้ท่านมั่นใจในการตัดสินใจลงทุนในตลาดช่วงวิกฤตมากยิ่งขึ้น
อยากเทรดแบบมือโปรไหม? เรามีทางออกให้กับเทรดเดอร์ทุกคน! บริการ Copy Trading คัดลอกการเทรดเลียนแบบนักเทรดมืออาชีพโดยอัตโนมัติ หากสนใจ หาข้อมูลเพิ่มเติม ที่นี่
อยากเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเทรดมากยิ่งขึ้น? ติดตามบทเรียนการเทรดอื่นๆ เพิ่มเติมได้ ที่นี่
- 6 วิธีจัดการความเครียดจากการเทรด
บทความนี้ไม่มี และไม่ควรถูกพิจารณาว่ามี คำแนะนำหรือคำปรึกษาด้านการลงทุน รวมถึงข้อเสนอหรือการชักชวนในการทำธุรกรรมใดๆ ในตราสารทางการเงิน ทั้งนี้ นักลงทุนควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน