ออกจากระบบ
คุณจะแน่ใจหรือไม่ที่จะออกจากระบบ

ทำความรู้จักหุ้นมีม (Meme Stock) พร้อมความหมายอธิบายแบบละเอียด

หุ้นมีม (Meme stock) ได้รับความนิยมอย่างมากจากนักลงทุนในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยความหมายของหุ้นมีม หมายถึง สินทรัพย์หรือหุ้นของบริษัทที่มีราคาขึ้นลงอย่างมาก เป็นที่พูดถึงอย่างแพร่หลายในโซเชียลมีเดีย ดังที่เราได้เห็นตัวอย่างของการเติบโตของหุ้น Reddit Meme ที่รวดเร็วแล้ว ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีของสินทรัพย์ประเภทนี้โดยเฉพาะ

None

หลักการสำคัญของสินทรัพย์นี้คือราคาที่พุ่งสูงขึ้นซึ่งอาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด และไม่มีสัญญาณใดๆ บอกมาก่อน ซึ่งถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่ค่อนข้างมีความเสี่ยง ในขณะเดียวกัน ก็อาจก่อให้เกิดกำไรมหาศาลได้ในะระยะเวลาอันสั้น โดยในวันนี้เราจะมาอธิบายความหมายของหุ้นมีมและตัดสินใจว่าควรค่าแก่การลงทุนหรือไม่

ความหมายของหุ้นมีม (Meme Stocks Definition)

นักเทรดผู้เชี่ยวชาญบางส่วนถือว่าการเทรดทรัพย์สินเหล่านี้เปรียบเสมือนการเข้าสมรภูมิรบ ทำให้เทรดเดอร์ที่มีทักษะการเทรดไม่มากพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการเทรดหุ้นมีม เนื่องจากอาจยังมีข้อมูลด้านปัจจัยพื้นฐานไม่เพียงพอที่จะทำให้ภาพที่ชัดเจนของประสิทธิภาพของบริษัทหรือหุ้น

ในขณะเดียวกัน หากมีการให้ข้อมูลพื้นฐานและการสนับสนุนจากสาธารณชนมากพอแล้ว ราคาหุ้นมีมก็สามารถขึ้นลงได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าปัจจัยทางเทคนิค, ข้อมูลเชิงลึกของตลาด หรือปัจจัยพื้นฐานจะเป็นอย่างไร ทำให้การลงทุนในสินทรัพย์ประเภทนี้ค่อนข้างเสี่ยง อย่างไรก็ตาม นักเทรดรายวันและเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์สามารถทำกำไรได้ดีอย่างแน่นอน

ราคาหุ้นที่ดีดขึ้นอย่างรวดเร็ว มักจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพียงแนวโน้มและราคาที่เปลี่ยนแปลงเพียงชั่วคราวเท่านั้น ยิ่งทำให้หุ้นเหล่านี้น่าสนใจทั้งในแง่ของการเพิ่มทุนและความเสี่ยงในแง่ของการสูญเสียเงินทุน

Industry-best trading conditions
Deposit bonus
up to 200% Deposit bonus 
up to 200%
Spreads
from 0 pips Spreads 
from 0 pips
Awarded Copy
Trading platform Awarded Copy
Trading platform
Join instantly

ประเด็นสำคัญที่ต้องรู้เกี่ยวกับหุ้นมีม

ข้อควรรู้เกี่ยวกับหุ้นมีม ได้แก่:

  1. หุ้นมีมมักจะมีการโปรโมททางออนไลน์ผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ
  2. สินทรัพย์ประเภทนี้เริ่มเป็นที่นิยมในปี 2020
  3. GME (GameStop) เป็นหุ้นมีมตัวแรกที่นักเทรดให้ความสนใจ ด้วยราคาที่พุ่งขึ้นถึง 100 เท่าในเวลาเพียงไม่กี่เดือน โดยได้รับแรงหนุนจากกลุ่มมีมนั่นเอง
  4. เพื่อเข้าใจหลักการของหุ้นเหล่านี้ นักเทรดควรทราบภาษา คำศัพท์ และคำสแลงของ meme ที่ใช้บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ฟอรั่ม และชุมชนออนไลน์อื่นๆ

หลักการของหุ้นมีม

ลองนึกภาพหุ้นที่ได้รับกระแสจากโซเชียลมีเดียและโลกออนไลน์ ซึ่งทำให้ราคามีพุ่งอย่างรวดเร็วภายในเวลาสั้นๆ บางครั้งอาจเป็นเวลาหลายชั่วโมงหรือหลายวันกว่าราคาจะถึงจุดสูงสุดเพื่อดึงดูดนักลงทุนรายย่อยมากขึ้นเรื่อยๆ ขั้นตอนนี้เรียกว่าการกระชากของราคา ราคาอาจพุ่งแค่ระยะสั้นๆ และกลับตัวลงสู่ระดับเดิมอย่างรวดเร็ว

หากแปลตามภาษากรีก meme หมายถึง “ขีดจำกัด” ในที่นี้เราอาจไม่ได้หมายถึงตัวหุ้นหรือบริษัทที่ออกหุ้น แต่อาจหมายถึงชุดข้อมูล “ที่จำกัด” ที่มีการส่งต่อกันในโซเชียลมีเดียเท่านั้น

ดังนั้น การลงทุนหุ้นมีมก็เหมือนการลงทุนที่เป็นกระแสซึ่งเกิดจากนักลงทุนรายอื่นๆ นั่นเอง

5 หุ้นมีมที่น่าเทรดในปี 2022

หุ้นมีมต่อไปนี้เป็นทรัพย์สินที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มีความเคลื่อนไหวที่โดดเด่นในปีนี้ เนื่องจากมีมูลค่าราคาตลาดสูง และส่วนใหญ่ออกโดยบริษัทที่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็นในวงการอุตสาหกรรมค้าปลีก อุปกรณ์โทรคมนาคม การพัฒนาซอฟต์แวร์ และอื่นๆ โดยหุ้นมีมที่น่าสนใจ ได้แก่:

บริษัท Market Cap รายละเอียดบริษัท
Bed Bath & Beyond (NASDAQ:BBBY) $2.6 พันล้าน บริษัทที่จัดจำหน่ายอุปกรณ์ในบ้าน
Blackberry (NYSE:BB) $5.9 พันล้าน บริษัทสมาร์ทโฟนแห่งยุค 2000s ที่ผันมาเป็นบริษัทซอฟต์แวร์
Nokia (NYSE:NOK) $33 พันล้าน บริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ของโลก
Palantir (NYSE:PLTR) $50 พันล้าน บริษัทซอฟต์แวร์ที่เชี่ยวชาญด้าน Big data, AI และ Digital transformation
Virgin Galactic (NYSE:SPCE) $6.7 พันล้าน ดั้งเดิมเป็นหุ้น SPAC และเป็นผู้ริเริ่มธุรกิจการเดินทางสู่อวกาศ

สรุปสั้นๆ เกี่ยวกับหุ้นมีม

หุ้นมีมแตกต่างจากสินทรัพย์ทั่วไปที่เราคุ้นเคย เพราะหุ้นเหล่านี้มีความเสี่ยงและให้ผลกำไรสูงภายในระยะเวลาอันสั้น โดยเกิดจากกระแสโซเชียลมีเดียและความสนใจจากผู้คนบนโลกออนไลน์เป็นหลัก ราคาสินทรัพย์เหล่านี้ดีดขึ้นลงอย่างรวดเร็ว หรืออาจกลับตัวได้แบบไม่คาดคิด ที่น่ากังวลคือหุ้นประเภทนี้จะไม่มีปัจจัยพื้นฐานหรือปัจจัยทางเทคนิคใดที่จะช่วยคาดการณ์สถานการณ์ของหุ้นได้

บทความนี้ไม่มีและไม่ควรถูกพิจารณาว่ามีคำแนะนำหรือคำปรึกษาด้านการลงทุน รวมถึงข้อเสนอหรือการชักชวนในการทำธุรกรรมใดๆ ในตราสารทางการเงิน ทั้งนี้ นักลงทุนควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน