AUDUSD ได้รับประโยชน์จากข้อกังวลที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ในจีนและการดำเนินการของ Fed

ความเชื่อมั่นของตลาดไปในทิศทางบวกเล็กน้อยในช่วงต้นวันจันทร์ ในขณะที่จีนยังคงใช้มาตรการเพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจท่ามกลางความกลัวว่าจะได้เห็นการฟื้นตัวช้าลง ในขณะเดียวกัน มีพาดหัวข่าวที่บ่งบอกถึงความสามารถที่จำกัดของธนาคารกลางในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม แม้ว่าเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางหลักส่วนใหญ่จะยังพยายามคงแนวทาง "higher for longer" ก็ตาม

ในอีกทางหนึ่ง ความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างสหรัฐฯและจีน ตลอดจนความกลัวว่าการพึ่งพาตนเองของจีนจะไม่เพียงพอที่จะปกป้องการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจของประเทศที่รวมไปถึงความกังวลเรื่องที่ฝั่งตะวันตกและรัสเซียเผชิญกับความขัดแย้งนั้นได้ร่วมกันในการกระตุ้นความเสี่ยงในตลาดการเงิน

ถึงกระนั้น วันหยุดวันแรงงานของสหรัฐอเมริกาก็เข้ามามีบทบาทเล็กน้อยในตลาดเป็นผลให้นักลงทุนในตลาดสามารถทรงตัวจากการร่วงลงของวันก่อนหน้าได้

ทั้งนี้ดัชนีสัญญาณการค้าของนิวซีแลนด์ (Term of Trade Index) ไม่สามารถสนับสนุนแรงเทซื้อ NZDUSD ในตลาดได้ขณะที่มีการเริ่มต้นการโปรโมตแคมเปญสำหรับการเลือกตั้งทั่วไปในเขตเลือกตั้ง Auckland แต่ส่วนดัชนีฐานเงินของญี่ปุ่นกลับส่งผลให้คู่เงิน USDJPY ยังคงได้รับแรงกดดัน

อีกทางด้านหนึ่ง ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงจากจุดต่ำสุดในรอบปี ขณะที่ราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นหลังจากพุ่งสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบหนึ่งเดือนของวันก่อนหน้า

ในขณะเดียวกัน หุ้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกขยับตัวสูงขึ้น แต่การค้าในยุโรปและสหราชอาณาจักรกลับเผชิญกับความผันผวน

นอกจากนี้ คู่เงิน USDCHF ได้รับแรงหนุนจากตัวเลข GDP ของสวิสที่มีทิศทางบวก ในทางกลับกันคู่เงิน USDTRY ได้รับผลกระทบจากสัญญาณเงินเฟ้อ

และเป็นที่น่าสังเกตว่าสถานการณ์ของตลาดคริปโตมีความผันผวน โดยล่าสุดได้พุ่งสูงขึ้นท่ามกลางการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯและความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยของนักลงทุน BTCUSD และ ETHUSD

มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:

• น้ำมันเบรนท์ (Brent) ร่วงลงเล็กน้อยจากระดับสูงสุดในรอบปีที่ราวๆ $89.00
• ทองคำ (Gold) พุ่งสูงขึ้นเล็กน้อยที่ราวๆ $1,945 หลังจากปรับตัวขึ้นในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาติดต่อกัน
• ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD INDEX) แนวโน้มขาขึ้นสองวันหยุดชะงักขณะที่ร่วงลงไปที่ 104.10
• ตลาดหลักทรัพย์ Wall Street ปิดผสมส่งผลต่อ หุ้นในโซนเอเชียแปซิฟิก แม้ว่าจีนจะมีทิศทางบวกขณะที่ หุ้นในยุโรปและสหราชอาณาจักร ปรับตัวสูงขึ้น
• BTCUSD ยังคงได้รับแรงกดดันที่ราวๆ $26,000 ขณะที่ ETHUSD แกว่งตัวที่ราวๆ $1,650

จีนได้กระตุ้นความเสี่ยง

ไม่ว่าจะเป็นการปรับลด FX RRR อย่างหนักของธนาคารประชาชนจีน (PBOC)หรือการดำเนินมาตรการมากมายเพื่อลดอัตราดอกเบี้ยที่เกี่ยวข้องกับสินเชื่อสำหรับซื้อบ้าน (mortgage rates) รวมไปถึงการจัดตั้งหน่วยงานพิเศษเพื่อส่งเสริมการโอนกิจการของรัฐเป็นของเอกชนซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้กำหนดนโยบายของจีนพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องเศรษฐกิจของตนจากการสูญเสียความแข็งแกร่งในการฟื้นตัว นอกจากนี้การรักษาความเชื่อมั่นของตลาดให้เป็นไปในทิศทางบวกคือโอกาสที่เพิ่มขึ้นในการยุติการเคลื่อนไหวนโยบายการเงินที่เข้มงวดจากธนาคารกลางสำคัญๆทั่วโลกให้เร็วยิ่งขึ้น ซึ่งรวมไปถึงธนาคารกลางสหรัฐ (Fed), ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และธนาคารกลางยุโรป (ECB)

ในทางด้านหนึ่ง ปฏิทินเศรษฐกิจที่เบาบางและวันหยุดของสหรัฐฯยังช่วยให้ความเชื่อมั่นสามารถรับมือกับความสูญเสียบางส่วนที่เกิดขึ้นหลังจากการเผยแพร่รายงานการจ้างงานในสหรัฐฯเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาและรายงานตัวเลขค่าดัชนี ISM Manufacturing PMI

อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯและจีนยังทำให้ตลาดเกิดข้อกังขาที่เกี่ยวข้องกับความสามารถของจีนในการปกป้องการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจจากสถานการณ์โควิดซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงในช่วงเริ่มต้นสัปดาห์ที่ซบเซา

ส่วนทางฝั่งของ BTCUSD และ ETHUSD ได้รับผลกระทบจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ตลาดจะมีความกังวลมากขึ้นว่าผู้กำหนดนโยบายของสหรัฐฯอาจละเว้น Bitcoin และ Ethereum ในขณะที่มีแนวโน้มที่จะคัดค้านสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆในกฎระเบียบใหม่

• สัญญาณซื้อแรง: USDCAD
• สัญญาณขายแรง: ETHUSD, GBPUSD, Gold
• สัญญาณซื้อ: USD Index, Nasdaq, USDJPY
• สัญญาณขาย: DAX, FTSE 100, BTCUSD, AUDUSD, EURUSD

ECB’s Lagarde กระตุ้นนักลงทุนในช่วงวันหยุดของสหรัฐฯ

เนื่องจากวันหยุดวันแรงงานของสหรัฐอเมริกาและกำหนดการเผยแพร่รายงานทางเศรษฐกิจที่ไม่ชัดเจนโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงเช้าจากนิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย ตุรกี และสวิตเซอร์แลนด์ นักลงทุนในตลาดอาจเห็นการเริ่มต้นสัปดาห์อย่างซบเซา อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์ของ Joachim Nagel ผู้ว่าธนาคารกลางเยอรมัน และ Christine Lagarde ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจหนุนโมเมนตัมนักลงทุน ทั้งนี้ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่ผันผวนเมื่อไม่นานมานี้และการผ่อนคลายความกังวลการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดที่เกี่ยวข้องกับ Fed อาจส่งผลให้ค่าเงินยูโรสามารถชะลอตัวจากการร่วงลงเมื่อครั้งล่าสุดได้

ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !