ความเชื่อมั่นของตลาดที่สะท้อนถึงภาวะความเสี่ยงยังอยู่ในระดับต่ำในช่วงเช้าวันอังคาร หลังจากบรรยากาศการซื้อขายที่เงียบเหงาเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เนื่องจากช่วงวันหยุดในสหรัฐฯและแคนาดา ความกังวลเกี่ยวกับนโยบาย "Make America Great Again" ของ Trump และความพยายามของจีนในการกระตุ้นเศรษฐกิจแม้ว่าจะมีมาตรการออกมามากมาย ล้วนส่งผลกระทบต่อตลาด อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐฯที่ลดลง การพูดคุยถึงการลดความตึงเครียดในสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน และมาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจของจีนยังช่วยหนุนความเชื่อมั่นก่อนการเปิดเผยข้อมูลสำคัญในสัปดาห์นี้
ความวิตกกังวลของตลาดและความเชื่อมั่นเชิงบวกในสหรัฐฯช่วยหนุนให้ดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้น และกดดันราคาทองคำ ราคาน้ำมันดิบ และสกุลเงินหลักอื่นๆ ในขณะเดียวกัน Bitcoin กำลังปรับตัวสูงขึ้นจากความคาดหวังต่อการผ่อนปรนกฎระเบียบและการไหลเข้าของกระแสเงินทุนที่ทำสถิติใหม่
ความแข็งแกร่งของดอลลาร์สหรัฐฯ ประกอบกับความกังวลทางเศรษฐกิจในยูโรโซนและสหราชอาณาจักรกดดันให้คู่เงิน EURUSD และคู่เงิน GBPUSD ปรับลดลง โดยคู่เงิน EURUSD แตะจุดต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน ขณะที่ คู่เงิน GBPUSD กลับสู่ระดับต่ำสุดในช่วงกลางเดือนสิงหาคมอีกครั้ง ในขณะเดียวกัน คู่เงิน USDJPY ขยับตัวสูงขึ้น หลังจากนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น Shigeru Ishiba ประกาศแผนมูลค่า 65 พันล้านดอลลาร์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมชิปและ AI ของญี่ปุ่น รวมถึงการเจรจาต่อรองเรื่องค่าจ้างที่กำลังจะมีขึ้น
แม้จะมีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจภายในประเทศที่เป็นบวก แต่ความแข็งแกร่งของดอลลาร์สหรัฐฯและปัญหาของจีนยังคงส่งผลกระทบต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และดอลลาร์แคนาดา
ทางฝั่งออสเตรเลีย ข้อมูลความเชื่อมั่นและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่แข็งแกร่งจาก NAB ไม่สามารถช่วยหนุนคู่เงิน AUDUSD ได้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากรายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับลดลง โดยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของ NAB ขยับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบสองปีที่ +5 ขณะที่สภาพธุรกิจคงที่ที่ +7 อย่างไรก็ตาม ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก Westpac สำหรับเดือนพฤศจิกายนปรับลดลงจาก 6.2% ไปที่ 5.3%
ในทำนองเดียวกัน คู่เงิน NZDUSD ยังคงได้รับแรงกดดัน โดยสะท้อนแนวโน้มเดียวกับคู่เงินออสซี่ แม้ว่าข้อมูลยอดค้าปลีกผ่านบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของนิวซีแลนด์ในเดือนตุลาคมจะปรับตัวดีขึ้นก็ตาม
ขณะที่ คู่เงิน USDCAD ยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่สาม เนื่องจากความแข็งแกร่งของดอลลาร์สหรัฐฯ ประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลงและแนวโน้มการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางแคนาดา
ราคาทองคำร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่าหนึ่งเดือน ซึ่งนับเป็นการปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นวันที่สาม ขณะที่ราคาน้ำมันดิบก็ร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่สามเช่นกันแตะระดับต่ำสุดในรอบเดือน โดยทั้งสองสินค้าโภคภัณฑ์อยู่ภายใต้แรงกดดันจากความไม่แน่นอนที่ผ่อนคลายลงเกี่ยวกับการเลือกตั้งของสหรัฐฯ และแรงผลักดันให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นโดย Donald Trump ผู้ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี นอกจากนี้ การชะลอตัวของความต้องการทองคำจากอินเดียหลังเทศกาลและความต้องการจากจีนที่หยุดชะงักลงยังส่งผลกระทบต่อราคาทองคำอีกด้วย
แม้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯจะแข็งค่าขึ้น แต่ Bitcoin (BTCUSD) และ Ethereum (ETHUSD) ยังคงดึงดูดแรงเทซื้ออย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากการไหลเข้าของกระแสงเินทุนสู่กองทุน ETF อย่างแข็งแกร่ง และความเชื่อมั่นเชิงบวกในอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นหลังจากการชนะการเลือกตั้งของ Donald Trump การรายงานข่าวล่าสุดเกี่ยวกับการเข้าซื้อ Bitcoin ที่มากที่สุดในวันเดียวของ MicroStrategy ยังผลักดันให้ BTCUSD เข้าใกล้ระดับสูงสุดใหม่ที่ประมาณ $89,000
วันนี้คาดว่าตลาดจะคึกคักมากขึ้น เนื่องจากนักลงทุนในสหรัฐฯและแคนาดากลับมามีความเคลื่อนไหวอีกครั้งหลังจากช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมา โดยมีเหตุการณ์สำคัญที่น่าจะกระตุ้นโมเมนตัมของตลาด ได้แก่ การประกาศข้อมูลดัชนีความเชื่อมั่น ZEW รายเดือนจากสหภาพยุโรปและเยอรมนี ตามมาด้วยรายงานการจ้างงานของสหราชอาณาจักร นอกจากนี้ ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อจากอินเดียและแถลงการณ์ของเจ้าหน้าที่ Fed หลายท่านอาจส่งผลให้เกิดความผันผวนมากขึ้นในตลาดได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม คาดว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯจะยังคงแข็งค่าก่อนการรายงานอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯในสัปดาห์นี้ รวมถึงแถลงการณ์ของประธาน Fed Jerome Powell ซึ่งอาจกดดันให้คู่เงิน EURUSD,คู่เงิน GBPUSD และสกุลเงินหลักอื่นๆปรับลดลง เช่นเดียวกันกับราคาทองคำและราคาน้ำมันดิบ ในขณะเดียวกัน คู่เงิน USDJPY, Bitcoin และคู่เงิน USDCAD มีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นต่อไป หากไม่มีปัจจัยเชิงลบที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อย
ขอให้คุณโชคดีในการเทรด!