EURUSD ยังคงถูกกดดันที่แนวรับสำคัญที่ 1.0900 ขณะการรายงานอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนและ NFP ของสหรัฐฯ

ในวันศุกร์แรกของปี 2024 ตลาดยังคงไม่มีความเคลื่อนไหวมากนักก่อนการรายงานข้อมูล NFP ท่ามกลางปฏิทินเศรษฐกิจเอเชียที่เบาบาง อีกสิ่งสำคัญในวันนี้คือการรายงานครั้งแรกของอัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนและคำสั่งซื้อโรงงานของสหรัฐฯ รวมถึงข้อมูลค่าดัชนี ISM Services PMI ทั้งนี้ โอกาสที่อัตราดอกเบี้ยจะปรับลดลงในปี 2024 ที่เพิ่มสูงขึ้นและการลงจอดอย่างนุ่มนวล (soft landing) ของเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกาจะเป็นผลดีต่อความเชื่อมั่นของตลาดและช่วยพยุงค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

ท่ามกลางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่าขึ้น คู่เงิน EURUSD ยังคงได้รับแรงกดดัน ในขณะที่ คู่เงิน GBPUSD ยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน แม้ว่าความกังวลทางเศรษฐกิจเกี่ยวกับกลุ่มประเทศยูโรโซนและสหราชอาณาจักรจะเพิ่มมากขึ้นในช่วงหลังก็ตาม โดย JPY ร่วงลงมากที่สุดในบรรดาคู่สกุลเงิน G10 ท่ามกลางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ ค่าเงิน AUD,NZD ปรับตัวลดลง

อีกทางด้านหนึ่ง ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปิดผสมแต่หุ้นในฝั่งเอเชียแปซิฟิกกลับปรับตัวลดลงท่ามกลางความกังวลที่หลากหลายเกี่ยวกับจีน

ในกรณีของสินค้าโภคภัณฑ์ ราคาน้ำมันดิบจะมีราคาเสนอซื้อเป็นบวกโดยพลิกกลับการร่วงลงของวันก่อนหน้า ในขณะที่ราคาทองคำยังคงอยู่ในแนวรับ โดยเตรียมพร้อมสำหรับการร่วงลงครั้งแรกในรอบสี่สัปดาห์

ราคา BTCUSD และ ETHUSD ปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากความเชื่อมั่นเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะได้รับอนุมัติ Spot ETF ของสหรัฐฯลดลง ท่ามกลางการประชุมของ US SEC กับตลาดแลกเปลี่ยน

มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:

• น้ำมันเบรนท์ (Brent) ยังคงมีราคาเสนอซื้อ (bid) เป็นบวกเล็กน้อยที่ประมาณ $78.00 ในขณะที่ชะลอตัวจากการร่วงลงของวันก่อนหน้า
• ทองคำ (Gold) พยายามรักษาระดับการดีดตัวขึ้นในวันพฤหัสบดีจากเส้น 21-SMA ที่ราวๆ $2,045
• ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD INDEX) เพิ่มขึ้น 0.15% ระหว่างวันเป็นประมาณ 102.50
• ตลาดหลักทรัพย์ Wall Street ปิดผสม หุ้นในโซนเอเชียแปซิฟิก ปรับตัวลดลง ส่วน หุ้นในยุโรปและสหราชอาณาจักร มีราคาเสนอขายเป็นบวกเล็กน้อย
• BTCUSD และ ETHUSD ยังคงได้รับแรงกดดันที่ประมาณ $43,850 และ $2,260 ตามลำดับ

ดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลงแม้ข้อมูลเศรษฐกิจจะมีทิศทางที่ดี สถานการณ์ในตลาดยังคงไม่แน่นอน...

ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) เตรียมปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์แรกในรอบ 4 สัปดาห์ โดยมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 8 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ลดลง ในขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับภาวะ soft-landing ของสหรัฐฯเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ยังจะช่วยหนุนเงินดอลลาร์สหรัฐฯด้วยเช่นกัน

ในวันพฤหัสบดี ตัวเลขการเปลี่ยนแปลงการจ้างงาน ADP ของสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบสี่เดือนที่ 164K เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ของตลาดที่ 120K และการแก้ไขตัวเลขครั้งก่อนที่ 101K ในขณะเดียวกัน ตัวเลขการขอรับสวัสดิการว่างงานเบื้องต้นก็ลดลงเหลือ 202K จากการรายงานก่อนหน้าที่ 220K และเมื่อเทียบกับที่คาดการณ์ไว้ที่ 216K

นอกจากนี้ การรายงานครั้งสุดท้ายของตัวเลขค่าดัชนี US S&P Global Services PMI ในเดือนธันวาคมปรับตัวดีขึ้นเป็น 51.4 จากการประเมินเบื้องต้นที่ 51.3 ในขณะที่ ตัวเลขค่าดัชนี Composite PMI ลดลงเหลือ 50.9 จากการคาดการณ์ก่อนหน้าที่ 51.0

อีกทางด้านหนึ่ง การรายงานอัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีครั้งแรกในเดือนธันวาคม ตามการวัดด้วยดัชนีราคาผู้บริโภค HICP ตรงกับการคาดการณ์ของตลาดที่ 3.8% YoY เมื่อเทียบกับการรายงานก่อนหน้าที่ 3.2% แต่ได้ลดลงจากประมาณการจาก 0.3% MoM เป็น 0.2% นอกจากนี้ การรายงานอัตราเงินเฟ้อตามการวัดด้วยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าถูกต้องตามการคาดการณ์รายเดือนที่ 0.1% ในเดือนดังกล่าว เมื่อเทียบกับการรายงานก่อนหน้าที่ -0.4% ในขณะที่ตัวเลขรายปีเพิ่มขึ้นเป็น 3.7% จาก 3.2% เมื่อเทียบกับที่คาดการณ์ไว้ที่ 3.8%

ในอีกทางหนึ่ง การรายงานครั้งสุดท้ายของค่าดัชนี S&P Global/CIPS Services PMI ของสหราชอาณาจักรในเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้นเกินการประมาณการเบื้องต้นที่ 52.7 เป็น 53.4 ในขณะที่ ตัวเลขค่าดัชนี Composite PMI ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 52.1 จากการคาดการณ์เบื้องต้นที่ 51.7

นอกจากนี้ ตัวเลขค่าดัชนี Jibun Bank Services PMI ของญี่ปุ่นในเดือนธันวาคมลดลงเหลือ 51.5 จาก 52.0 แต่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนดังกล่าวกลับปรับตัวดีขึ้นเป็น 37.2 จาก 36.1

นอกจากนั้น ราคาน้ำมันดิบไม่ได้รับผลจากการดึงกลับของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากข้อมูลสินค้าคงคลังน้ำมันอย่างเป็นทางการของสหรัฐฯจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงาน (EIA) ระบุว่าการกักเก็บน้ำมันในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 29 ธันวาคมนั้นปรับลดลงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงของหุ้นน้ำมันดิบ EIA ลดลงเหลือ -5.503M จาก -7.114M เมื่อเทียบกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ -3.725M

สิ่งที่น่าสังเกตคือ สำนักข่าว Politico เปิดเผยข่าวโดยอ้างถึงเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ สามคนที่ระบุว่ากองทัพสหรัฐฯกำลังร่างแผนเพื่อตอบโต้การโจมตีเรือขนส่งสินค้าในทะเลแดงโดยกลุ่มฮูติที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ซึ่งข่าวนี้จะท้าทายความเชื่อมั่นและส่งผลให้ราคาน้ำมันและดอลลาร์สหรัฐฯขยับตัวสูงขึ้น

• สัญญาณซื้อแรง: USDCAD, USDJPY
• สัญญาณขายแรง: Crude Oil, US Dollar, GBPUSD
• สัญญาณซื้อ: BTCUSD, ETHUSD, Nasdaq, Gold
• สัญญาณขาย: DAX, FTSE 100, BTCUSD, AUDUSD, EURUSD

จับตามองข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ/ยุโรปเพื่อหาทิศทางที่ชัดเจน...

จากนี้ไป ข้อมูลการจ้างงานจากสหรัฐอเมริกาและแคนาดาและการรายงานตัวเลขอัตราเงินเฟ้อครั้งแรกของยูโรโซน รวมถึงคำสั่งซื้อโรงงานของสหรัฐฯและตัวเลขค่าดัชนี ISM Services PMI จะกระตุ้นนักลงทุนในตลาด หากข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯแย่กว่าที่คาดการณ์ไว้ เงินดอลลาร์สหรัฐฯอาจอ่อนค่าลง อย่างไรก็ตาม ถ้าหากข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ เงินดอลลาร์สหรัฐฯก็อาจปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อในสหภาพยุโรปที่แข็งแกร่งขึ้นอาจไม่สร้างความประทับใจให้กับช่วงแนวโน้มขาขึ้นของคู่เงิน EURUSD เว้นแต่ว่าข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯจะออกมาน่าผิดหวังมาก ซึ่งหากอัตราเงินเฟ้อในสหภาพยุโรปถดถอยลง ก็อาจดึงให้ราคาคู่เงิน EURUSD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าแนวรับสำคัญที่ 1.0900

ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !