ความเชื่อมั่นยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจนในช่วงต้นวันศุกร์ ขณะที่นักลงทุนในตลาดกำลังเผชิญกับการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของ Fed และปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ลดน้อยลง รวมถึงสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจจากจีนและญี่ปุ่น ถึงกระนั้น ความเร่งรีบในการเลือกลงทุนสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยของตลาดส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐฯอยู่ในเรดาห์ของภาวะกระทิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ Powel l ประธาน Fed ส่งสัญญาณทางอ้อมสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ในขณะที่ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯดูเหมือนจะพร้อมแล้วที่จะสิ้นสุดสัปดาห์ในทิศทางบวก ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทกลับชะลอตัวลงและร่วมกับความหวาดกลัวปัญหาในฉนวนกาซาส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น สินค้าโภคภัณฑ์และค่าเงิน AUD,NZD ซึ่งสิ่งนี้จะสร้างแรงกดดันด้านลบให้กับราคาทองคำ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้นท่ามกลางการพยุงตลาดพลังงานของซาอุดีอาระเบีย
ด้วยเหตุนี้ คู่เงิน EURUSD,คู่เงิน AUDUSD และคู่เงิน NZDUSD จึงปรับลดลง ในขณะที่ คู่เงิน USDJPY พุ่งสูงขึ้นในรอบสัปดาห์ นอกจากนี้ คู่เงิน USDCAD ยังมีแนวโน้มขาขึ้นสี่วัน ขณะที่ คู่เงิน GBPUSD ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบสัปดาห์อีกครั้งหลังจากการรายงานข้อมูล GDP ของสหราชอาณาจักรที่ตกต่ำลง
ในอีกทางหนึ่ง BTCUSD ถอยจากระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือน ส่วนทางด้าน ETHUSD ชะลอตัวจากการพุ่งสูงขึ้นรายวันที่ใหญ่ที่สุดในรอบปีด้วยการร่วงลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนกำลังรอการอัปเดตเพิ่มเติมเกี่ยวกับการอนุมัติ Spot ETF
มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:
ความไม่มั่นใจของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ Jerome Powell ในการยืนยันจุดยืนการปรับเปลี่ยนทางนโยบายได้กระตุ้นให้เกิดความกังวลใจเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดครั้งต่อไปของนายธนาคารกลางสหรัฐฯ และยังส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯสามารถพุ่งสูงขึ้นรายวันที่ใหญ่ที่สุดในเดือนพฤศจิกายนได้ นอกจากนี้ การเรียกร้องสิทธิว่างงานเบื้องต้นของสหรัฐฯที่ปรับลดลงเล็กน้อยยังช่วยหนุนความแข็งแกร่งของดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้กำหนดนโยบายของ Fed รายอื่นๆร่วมกับ Powell ส่งสัญญาณที่ช่วยรื้อฟื้นความหวังในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ
โดย Raphael W. Bostic ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯแห่งแอตแลนตาได้กล่าวว่า “เราจะยังคงนโยบายการเงินที่เข้มงวดจนกว่าเราจะแน่ใจว่าอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 2%” ในขณะเดียวกัน Thomas I. Barkin ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯแห่งริชมอนด์ยังกล่าวด้วยว่าเขามีความยากลำบากที่จะประกาศว่ามีข้อกำหนดในการควบคุมนโยบายการเงินที่เพียงพอแล้ว นอกจากนี้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯแห่งเซนต์หลุยส์ Kathleen O'Neill กล่าวเสริมว่า “(ยัง) เร็วเกินไปที่จะปฏิเสธการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปของสหรัฐฯ”
นอกจากนี้ ความคิดเห็นของผู้กำหนดนโยบายเกี่ยวกับความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯและความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ภายนอกประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจีน ยุโรป และสหราชอาณาจักร ยังส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้นอีกด้วย ประการแรก Powell ประธาน Fed ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯแข็งแกร่งเกินการคาดการณ์ในปีนี้ ขณะที่ Barkin จาก Fed กล่าวเสริมว่า "เศรษฐกิจสหรัฐฯ 'แข็งแกร่งอย่างน่าทึ่ง' " อีกทั้ง Jared Bernstein ที่ปรึกษาสภาเศรษฐกิจแห่งสหรัฐอเมริกายังกล่าวเพิ่มเติมว่าพวกเขากำลังมองเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนไปสู่การเติบโตที่มั่นคง
ในอีกทางหนึ่ง ความกลัวของตลาดที่ว่าธนาคารจีนกำลังต้องการเงินทุนระยะสั้นอย่างเร่งด่วนเพื่อจ่ายอัตราดอกเบี้ยรายวันในอัตราที่สูง โดยมีการอ้างถึงข้อมูลจาก Bloomberg ที่รายงานว่าอัตราดอกเบี้ยในตลาดรายวันของธนาคารจีนที่สูงถึง 50% จะกระตุ้นให้เกิดความกลัวทางเศรษฐกิจเกี่ยวกับจีน โดยความหวาดกลัวได้เพิ่มสูงขึ้นหลังจากที่สื่อของรัฐอ้างถึง Pan Gongsheng ผู้ว่าการธนาคารประชาชนจีน (PBoC) ว่ากำลังคอยติดตามความเสี่ยงด้านหนี้สินในภาคส่วนต่างๆอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม ที่ปรึกษา PBoC ที่ไม่เปิดเผยนามกล่าวว่าประเทศจีนนั้นสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตของ GDP ได้เล็กน้อยที่ 5% และยังคงพยายามระงับความผันผวนที่เกิดขึ้น ซึ่งจะเป็นการทดสอบช่วงขาขึ้นของเงินดอลลาร์สหรัฐฯต่อไป
อย่างไรก็ตาม ความพร้อมของผู้กำหนดนโยบายของจีนในการปกป้องการเติบโตทางเศรษฐกิจส่งผลให้แรงเทซื้อทองคำยังคงมีความหวัง นอกจากนี้ ความคาดหวังที่จะได้เห็นการอัดฉีดทางการคลังจำนวน 886 พันล้านเยนของรัฐบาลญี่ปุ่นผ่านการวางแผนงบประมาณเพิ่มเติมครั้งที่สองยังทำให้ XAUUSD ขยับตัวสูงขึ้น แม้ว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯจะแข็งค่าขึ้นก็ตาม นอกจากนี้การที่เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) Mario Centeno และ Boris Vujčić ดูเหมือนจะยังไม่มีความแน่ชัดเกี่ยวกับนโยบายการเงินในอนาคตและจุดยืนทางเศรษฐกิจของยูโรโซนก็จะช่วยหนุนอุปสงค์ของ USD ได้อีกด้วย
แม้ว่าตลาดจะมีความผันผวนในช่วงต้นวันศุกร์ แต่การที่ Lagarde จาก ECB อาจจะพยายามพยุงความเชื่อมั่นไว้ได้อาจทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯชะลอตัว ถึงกระนั้น ก็มีปัจจัยเร่งปฏิกิริยาน้อยกว่าที่จะสนับสนุนข้อโต้แย้งของเธอ ซึ่งในทางกลับกันจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯนั้นแข็งค่าขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางสัญญาณการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของ Fed และข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น
ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !