ตลาดยังคงระมัดระวังในช่วงเช้าวันพฤหัสบดี ประกอบกับความเชื่อมั่นที่ถูกกดดันจากข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯที่ไม่น่าประทับใจนัก และความคิดเห็นเชิงสนับสนุนนโยบายการเงินที่เข้มงวดจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) โดยนักเทรดกำลังชะลอการเคลื่อนไหวขณะที่รอคอยเหตุการณ์สำคัญที่จะมีการรายงานในช่วงท้ายของวัน รวมไปถึงการเปิดเผยข้อมูล GDP ไตรมาสที่ 3 ของยูโรโซนและแถลงการณ์จากประธาน Fed Jerome Powell
แม้ว่าข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯในวันพุธสำหรับเดือนตุลาคม รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะออกมาตามที่คาดไว้ แต่ท่าทีของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯหลายคนเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยที่เป็นกลาง (neutral interest rate) ที่สูงขึ้นและภาวะเงินเฟ้อที่ยังคงมีอยู่ได้ผลักดันดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) ให้ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบหนึ่งปี โดยมีเสียงสนับสนุนการดำเนินนโยบายการเงินอย่างเข้มงวดที่สำคัญจากประธานธนาคารกลางสหรัฐฯประจำเซนต์หลุยส์ James Bullard, ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯประจำแคนซัสซิตี้ Jeffrey Schmid, ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯประจำมินนิอาโปลิส Neel Kashkari และประธานธนาคารกลางสหรัฐฯประจำดัลลัส Lorie Logan
ความแข็งแกร่งของดอลลาร์สหรัฐฯ ร่วมกับถ้อยแถลงเชิงสนับสนุนการผ่อนคลายนโยบายการเงินจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ผลักดันให้คู่เงิน EURUSD ปรับตัวลงก่อนการเปิดเผยข้อมูล GDP ของยูโรโซนในวันนี้และแถลงการณ์ของ Jerome Powell ประธาน Fed โดยยูโรยังถูกกดดันจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นภายในยุโรป และความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นในเยอรมนี ซึ่งทำให้คู่เงิน EURUSD แตะระดับต่ำสุดในรอบปี
ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ได้พยายามสร้างความมั่นใจให้กับตลาดว่าอัตราเงินเฟ้อในสหราชอาณาจักรยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ทำให้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมนั้นเป็นไปได้ยาก อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านทางเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร ซึ่งทวีความรุนแรงขึ้นจากงบประมาณที่ที่มีทิศทางเชิงลบและการขาดความมั่นใจในรัฐบาลใหม่ ยังคงกดดันคู่เงิน GBPUSD ให้ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบสามเดือนหลังจากร่วงลงติดต่อกันห้าวัน
ในทางกลับกัน คู่เงิน USDJPY ปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่สี่ แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม แม้ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะวางแผนที่จะขยายระยะเวลาการอุดหนุนราคาก๊าซและไฟฟ้าไปจนถึงปีหน้า โดยการพุ่งสูงขึ้นของคู่เงินเยนอย่างต่อเนื่องยังได้รับแรงหนุนจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับจุดยืนของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) ต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายใต้รัฐบาลผสมชุดปัจจุบัน
ในช่วงเช้าวันนี้ รายงานการจ้างงานของออสเตรเลียสำหรับเดือนตุลาคมไม่เป็นที่น่าพอใจนัก ประกอบกับดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่าขึ้น ส่งผลให้คู่เงิน AUDUSD ร่วงลง แม้ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) Michelle Bullock จะพยายามสร้างความมั่นใจให้กับตลาดโดยระบุว่า “ฉันคิดว่านโยบายการเงินของเราเข้มงวดเพียงพอแล้ว และเราจะคงไว้เช่นนี้จนกว่าเราจะมั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้อลดลง” อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์ออสเตรเลียยังคงปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง เป็นผลให้คู่เงิน AUDUSD ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม โดยร่วงลงเป็นวันที่ห้าติดต่อกัน
ส่วนทางด้านคู่เงิน NZDUSD เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับคู่เงิน AUDUSD โดยปรับลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 14 สัปดาห์หลังจากดัชนีราคาสินค้าอาหารของนิวซีแลนด์ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบปี ในทางกลับกัน ช่วงแนวโน้มขาขึ้นของคู่เงิน USDCAD ยังคงควบคุมทิศทางตลาด โดยคู่สกุลเงินนี้ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2020 ในช่วงแนวโน้มขาขึ้นที่ดำเนินมาห้าวัน ซึ่งการปรับตัวขึ้นของคู่เงิน USDCAD ที่ส่วนใหญ่ได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ท่าทีผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางแคนาดา (BoC) และราคาน้ำมันดิบ ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักของแคนาดาที่ปรับตัวลง
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบสองสัปดาห์ โดยได้รับผลกระทบจากดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่าขึ้นและความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจของจีน อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันฟื้นตัวขึ้นหลังจากการปรับลดลงของรายงานสินค้าคงคลังรายสัปดาห์อย่างไม่คาดคิด แม้จะมีการฟื้นตัวขึ้น แต่ราคาน้ำมันเริ่มอ่อนตัวลงอีกครั้งในช่วงเช้าวันพฤหัสบดี ขณะที่ นักเทรดรอคอยการรายงานปริมาณสินค้าคงคลังอย่างเป็นทางการ รวมถึงข้อมูลและเหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
ราคาทองคำกำลังถูกกดดันจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่าขึ้น และความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ที่อ่อนแอลงจากจีน โดยแรงเทขายผลักดันให้ราคาลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบสองเดือน โดยโลหะมีค่านี้ทะลุผ่านเส้นแนวรับที่สูงขึ้นอายุเก้าเดือนเมื่อวันก่อนหน้า และยังคงอยู่ในแนวโน้มขาลงเป็นวันที่ห้าแตะระดับต่ำสุดในรอบหลายวัน
Bitcoin (BTCUSD) ทำสถิติสูงสุดใหม่ก่อนที่จะถอยกลับจากระดับราคาที่ประมาณ $93,500 ขณะที่ Ethereum (ETHUSD) ก็ปรับลดลงจากระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม ทำให้แนวโน้มขาลงในช่วงหลังหยุดชะงักไป โดยแรงเทซื้อคริปโตดูเหมือนจะชะลอตัว เนื่องจากเริ่มมีการขายทำกำไรเมื่อราคาขึ้นไปถึงระดับสูง อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นเชิงบวกโดยภาพรวมในอุตสาหกรรมนี้ยังคงแข็งแกร่ง โดยได้รับแรงหนุนจากชัยชนะในการเลือกตั้งของ Donald Trump ในสหรัฐฯ
ผู้ร่วมตลาดจะโฟกัสไปที่การรายงานข้อมูลครั้งที่สองของ GDP ไตรมาสที่ 3 ของยูโรโซน รายงานการจ้างงาน และข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนกันยายน ซึ่งคาดว่าจะให้ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจของภูมิภาคยุโรป หลังจากนั้นแถลงการณ์จากผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) Andrew Bailey และประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ Jerome Powell จะเป็นที่น่าจับตามอง ซึ่งจะให้ทิศทางเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคาดการณ์การดำเนินนโยบายการเงินจากธนาคารกลางทั้งสองแห่ง
โดยภาพรวมแล้ว ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯมีแนวโน้มที่จะยังคงแข็งแกร่ง โดยช่วงแนวโน้มขาขึ้นได้ผลักดันราคาขึ้นท้าทายเส้นแนวต้านอายุสองปี ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์การดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของ Fed และความคาดหวังเชิงบวกต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายใต้การบริหารของ Trump ซึ่งความแข็งแกร่งนี้อาจยังคงส่งผลกระทบต่อคู่เงิน EURUSD โดยเฉพาะหากข้อมูลเศรษฐกิจจากยูโรโซนยังไม่เป็นที่น่าพอใจมากนัก ขณะเดียวกัน ความล้มเหลวของ BoE ในการโน้มน้าวตลาดฝั่ง hawks ประกอบกับความกังวลต่อสภาพเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรที่ยังคงมีอยู่ คาดว่าจะทำให้เกิดแรงกดดันด้านลบต่อคู่เงิน GBPUSD
ทางฝั่งตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ราคาทองคำได้หลุดแนวรับสำคัญที่บริเวณ $2,600 ซึ่งขณะนี้กลายเป็นแนวต้าน และอาจมุ่งหน้าสู่แนวรับ 100-SMA ที่ประมาณ $2,543 หากโมเมนตัมขาลงยังคงดำเนินต่อไป โดยราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มที่จะทรงตัวอยู่ที่ประมาณ $68.00 เว้นแต่ว่าจะมีเซอร์ไพรส์จากรายงานสินค้าคงคลังรายสัปดาห์
ทางด้านสกุลเงิน Antipodean มีแนวโน้มที่จะยังไม่ฟื้นตัวในเร็วๆนี้ โดยเฉพาะเมื่อยังมีความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของจีน แม้ว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯจะชะลอตัวชั่วคราวก็ตาม ในขณะเดียวกัน สกุลเงินดิจิทัลก็อาจขยายการดึงกลับล่าสุดของระดับราคาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากตลาดยังขาดปัจจัยกระตุ้นขาขึ้นใหม่ๆจากข่าวสารในอุตสาหกรรม
ขอให้คุณโชคดีในการเทรด!