ออกจากระบบ
คุณจะแน่ใจหรือไม่ที่จะออกจากระบบ
MTrading Team • 2024-03-21

EURUSD พุ่งแตะจุดสูงสุดในรอบสัปดาห์เหนือ 1.0900 ขณะที่ Fed กดดันดอลลาร์สหรัฐฯ จับตามองตัวเลข PMI

EURUSD พุ่งแตะจุดสูงสุดในรอบสัปดาห์เหนือ 1.0900 ขณะที่ Fed กดดันดอลลาร์สหรัฐฯ จับตามองตัวเลข PMI

ตลาดเปิดทำการวันพฤหัสบดีด้วยความเชื่อมั่นที่มีทิศทางเป็นบวกอย่างระมัดระวัง ขณะที่นักลงทุนยอมรับกับความลังเลของ Fed ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยแถลงการณ์ของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) Powell ไม่สามารถคงนโยบายการเงินที่เข้มงวดได้ ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐฯซึ่งแข็งค่าขึ้นนั้นอ่อนค่าลง ในทางกลับกัน สินค้าโภคภัณฑ์และค่าเงิน AUD,NZD กลับปรับตัวสูงขึ้น

ขณะที่ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) ร่วงลงแตะจุดต่ำสุดในรอบสัปดาห์ เช่นเดียวกันกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯที่พลิกกลับจากการฟื้นตัวก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดตลอดกาลใหม่อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบไม่ได้รับผลกระทบจากการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์

อีกทางด้านหนึ่ง คู่เงิน EURUSD พุ่งขึ้นรายวันสูงสุดในรอบ 1 เดือน หลังจากดีดตัวขึ้นจากเส้น 200-SMA โดยยังคงปรับตัวสูงขึ้นในภายหลัง นอกจากนี้ คู่เงิน GBPUSD ยังปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน หลังจากพุ่งขึ้นมากที่สุดในรอบ 2 สัปดาห์ ส่วนทางด้าน คู่เงิน USDJPY ร่วงลงหลังจากยุติแนวโน้มขาขึ้น 7 วัน และพลิกกลับจากจุดสูงสุดในรอบ 5 เดือน ในขณะเดียวกัน คู่เงิน AUDUSD และคู่เงิน NZDUSD ยังคงปรับตัวสูงขึ้นเป็นวันที่สองติดต่อกัน

ทางฝั่งตลาดคริปโทเคอร์เรนซี BTCUSD และ ETHUSD พยายามรักษาระดับการดีดตัวสูงขึ้นของวันก่อนหน้า ขณะที่ เทรดเดอร์คริปโตกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านกฎระเบียบที่เพิ่มขึ้นระหว่างผู้ร่วมตลาดในอุตสาหกรรมและคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (US SEC) อย่างไรก็ตาม ความคาดหวังเกี่ยวกับการอนุมัติ spot ETF และกระแสเงินทุนล่าสุด ชี้ให้เห็นว่าราคาของบิตคอยน์และอีเธอเรียมยังมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต

มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:

  • น้ำมันเบรนท์ (Brent) พุ่งสูงขึ้นเล็กน้อยที่ประมาณ $86.50 หลังจากยุติช่วงแนวโน้มขาขึ้นห้าวันในวันก่อนหน้า
  • ทองคำ (Gold) ยังคงปรับตัวสูงขึ้นที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แม้ว่าล่าสุดราคาจะลดลงจาก $2,222 เป็น $2,205 ก็ตาม
  • ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD INDEX) ทรงตัวจากการร่วงลงของวันก่อนหน้าด้วยการพุ่งสูงขึ้นเล็กน้อยที่ประมาณ 103.30
  • ตลาดหลักทรัพย์ Wall Street ปิดบวกเล็กน้อย หุ้นในโซนเอเชียแปซิฟิก ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ หุ้นในยุโรปและสหราชอาณาจักร ปรับตัวสูงขึ้นด้วยเช่นกัน
  • BTCUSD และ ETHUSD พลิกกลับจากการดีดตัวสูงขึ้นของวันก่อนหน้าที่ประมาณ $67,000 และ $3,520 ตามลำดับ
เงื่อนไขการเทรดที่ดีที่สุด
รับโบนัสเงินฝากสูงสุดถึง 200% รับโบนัสเงินฝากสูงสุดถึง 200%
Spread 
เริ่มต้นที่ 0 pip Spread 
เริ่มต้นที่ 0 pip
แพลตฟอร์ม Copy
Trade ระดับโลก แพลตฟอร์ม Copy 
Trade ระดับโลก
เข้าร่วมเลย

ดอลลาร์สหรัฐฯไม่ตอบรับต่อท่าทีแข็งกร้าวของ Fed ...

ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เป็นไปตามการคาดการณ์ของตลาดในวงกว้าง โดยยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน แต่โอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยก่อนกลางปี 2024 นั้นมีแนวโน้มลดลง นอกจากนี้ FOMC ยังคงภาพรวมการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย (dot plot) เหมือนเดิม ซึ่งบ่งชี้ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ตามที่คาดการณ์ไว้ในเดือนธันวาคม อย่างไรก็ตาม ท่าทีของประธาน Jerome Powell ดูเหมือนจะไม่สามารถหนุนการคงนโยบายการเงินที่เข้มงวดได้ เนื่องจากเขาไม่ได้แสดงแนวโน้มที่ดีต่อสัญญาณอัตราเงินเฟ้อและตัวเลขการจ้างงานล่าสุดที่สนับสนุนการเลื่อนการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อดอลลาร์สหรัฐฯและอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ขณะที่ ช่วยหนุนให้สกุลเงินหลักปรับตัวสูงขึ้นเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ รวมไปถึงสินค้าโภคภัณฑ์อีกด้วย

น่าสังเกตว่า ในขณะที่การยุติการผ่อนคลายนโยบายการเงินของ Fed นั้นได้ส่งผลกระทบต่อเงินดอลลาร์สหรัฐฯ Christine Lagarde ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กลับเลื่อนการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปจนถึงปลายปี 2024 ส่งผลให้คู่เงิน EURUSD ปรับตัวสูงขึ้น ในขณะเดียวกัน แม้ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรจะอ่อนตัวลง แต่ก็ไม่สามารถต้านทานการพุ่งสูงขึ้นของคู่เงิน GBPUSD ได้ เนื่องจากตัวเลขจริงที่มีการรายงานออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐฯยังอ่อนค่าลงหลังการประชุม Fed

ในช่วงเวลาเดียวกัน Kazuo Ueda ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) ได้ลดทอนความคาดหวังเกี่ยวกับนโยบายการเงินที่เข้มงวดของธนาคารกลางญี่ปุ่น หลังจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 17 ปี โดยสถานการณ์ดังกล่าวเมื่อประกอบกับข้อมูลเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ตกต่ำลงยังท้าทายแรงเทขายคู่เงิน USDJPY อีกด้วย

นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจของออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ที่ปรับตัวขึ้นไม่มากนักยังส่งผลต่อแรงเทซื้อคู่เงิน AUDUSD และคู่เงิน NZDUSD โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) และธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) ยังคงพยายามรักษาการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของพวกเขาไว้

ในอีกด้านหนึ่ง ความกังวลเกี่ยวกับความต้องการน้ำมันที่อาจจะลดลง เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเป็นเวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ ประกอบกับความหวังที่จะมีปริมาณพลังงานสำรองเพิ่มขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันดิบ แม้ว่าปริมาณคงคลังน้ำมันดิบของสหรัฐฯรายสัปดาห์จะลดลงอย่างมากก็ตาม

ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า ความเชื่อมั่นในตลาดคริปโทเคอร์เรนซีเริ่มถดถอยลง ท่ามกลางการต่อสู้ด้านกฎระเบียบระหว่างผู้ร่วมตลาดในอุตสาหกรรมและคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (SEC) อีกสาเหตุที่เป็นไปได้คือ การถูกบังคับขายสัญญาซื้อ (long liquidations) ของผู้ร่วมตลาดหลักในช่วงที่ราคาแตะจุดสูงสุดในรอบหลายปี

  • สัญญาณซื้อแรง: USDCAD, USDJPY
  • สัญญาณขายแรง: Crude Oil, US Dollar, GBPUSD
  • สัญญาณซื้อ: BTCUSD, ETHUSD, Nasdaq, Gold
  • สัญญาณขาย: DAX, FTSE 100, BTCUSD, AUDUSD, EURUSD

ทุกสายตาจับจ้องไปที่ตัวเลขดัชนี PMI และ BoE...

เมื่อได้เห็นปฏิกิริยาที่ไม่คาดคิดของตลาดต่อการเคลื่อนไหวของ Fed เทรดเดอร์จะสังเกตการรายงานตัวเลขค่าดัชนี PMI ประจำเดือนมีนาคมสำหรับกลุ่มประเทศเศรษฐกิจชั้นนำอย่างใกล้ชิดเพื่อดูทิศทางที่ชัดเจน อีกสิ่งสำคัญที่ต้องจับตามองก็คือการประกาศนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) แม้ว่าธนาคารกลางของสหราชอาณาจักรไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงมาตรการในปัจจุบันก็ตาม โดยข้อมูลตัวเลข PMI ที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯและข้อมูลกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภูมิภาคจะช่วยให้ดอลลาร์สหรัฐฯดีดตัวสูงขึ้น และท้าทายการฟื้นตัวล่าสุดของคู่เงิน EURUSD และสกุลเงินหลักอื่นๆเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ทองคำมีแนวโน้มกลับไปสู่ทางฝั่งของช่วงแนวโน้มขาลงน้อยลง ท่ามกลางการยอมรับอย่างกว้างขวางของเทรดเดอร์ต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed ในเดือนมิถุนายน และการผ่านพ้นอุปสรรคทางเทคนิคที่สำคัญ

ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !