ตลาดการเงินยังคงซบเซาในช่วงต้นวันศุกร์ โดยส่วนใหญ่สนับสนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่นักลงทุนต่างกำลังรอการรายงานตัวชี้วัดอัตราเงินเฟ้อของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ซึ่งก็คือ ดัชนีราคา PCE พื้นฐาน อีกสิ่งที่สนับสนุนท่าทีระมัดระวังของตลาดก็คือพาดหัวข่าวที่หลากหลายเกี่ยวกับข้อกังวลทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับจีนและตะวันออกกลาง
ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) เตรียมพร้อมสำหรับแนวโน้มขาขึ้นสี่สัปดาห์ โดยปรับตัวขึ้นเล็กน้อยระหว่างวันที่ระดับ 103.55 อย่างไรก็ตาม การปิดตลาดในแดนบวกของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทและการดึงกลับของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลกลับไม่สามารถหาทิศทางที่ชัดเจนแก่สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง อย่างเช่น หุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์ ได้
ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯยังคงแข็งค่าขึ้น คู่เงิน EURUSD แบกรับภาระจากการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ชะลอการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย ส่วนทางด้าน คู่เงิน GBPUSD ยังคงซบเซาท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจในสหราชอาณาจักรที่มีทิศทางที่ดีขึ้นเป็นส่วนใหญ่และแนวโน้มที่หลากหลายเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) นอกจากนี้ คู่เงิน USDJPY ยังปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจากตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นที่ปรับตัวลดลงและการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในขณะที่ คู่เงิน AUDUSD และคู่เงิน NZDUSD ยังคงได้รับแรงกดดันท่ามกลางบรรยากาศตลาดที่ค่อนข้างอ่อนแอ และข้อกังวลที่ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนจะไม่สามารถรักษาระดับค่าเงิน AUD,NZD ได้
ทางฝั่งของ BTCUSD ชะลอตัวลงจากการดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบสัปดาห์ ส่วนทางด้าน ETHUSD ร่วงลงต่อเนื่องติดต่อกันเจ็ดวัน ขณะที่ความเชื่อมั่นของตลาดคริปโตกำลังถดถอยลง
มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:
ในวันพฤหัสบดี ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของสหรัฐฯ (GDP) ที่ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้สำหรับไตรมาสที่ 4 (Q4) ปี 2023 ส่งผลให้ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) พุ่งขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบสัปดาห์ อีกทั้ง Janet Yellen รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯยังได้แสดงความคิดเห็นว่า "ผลการรายงานของตัวเลข GDP ไตรมาส 4 ของสหรัฐฯที่แข็งแกร่งนั้น 'เป็นสิ่งที่ดี' " ขณะเดียวกันก็เสริมด้วยว่าตัวเลขดังกล่าวไม่น่าจะสร้างความท้าทายด้านเงินเฟ้อ
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าการปรับลดลงของคำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯและค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในเดือนธันวาคม รวมไปถึงข้อมูลกิจกรรมที่น่าผิดหวังจากธนาคารกลางสหรัฐฯแห่งรัฐแคนซัสและชิคาโกยังกระตุ้นให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรกระทรวงการคลังของสหรัฐฯและดอลลาร์สหรัฐฯปรับลดลง
ในอีกทางหนึ่ง Wang Yi รัฐมนตรีต่างประเทศของจีนและ Jake Sullivan ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯจะพบปะกันที่กรุงเทพฯ เพื่อหารือเกี่ยวกับการโจมตีของกลุ่มฮูตีต่อการขนส่งในทะเลแดง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อปักกิ่งมีอิทธิพลเหนือเตหะรานและอาจสามารถช่วยสหรัฐฯลดความตึงเครียดในเส้นทางเดินเรือหลักได้ นอกจากนี้ ประธานาธิบดี Vladimir Putin แห่งรัสเซียยังส่งสัญญาณถึงความพร้อมในการเจรจากับยูเครน ซึ่งจะทำให้การพร้อมรับความเสี่ยงดีขึ้นและส่งผลกระทบต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะเดียวกันก็ช่วยพยุงราคาทองคำด้วยเช่นกัน
นอกจากนั้น ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยังคงอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานไว้ไม่เปลี่ยนแปลงตามที่มีการคาดการณ์ไว้ แต่ความคิดเห็นของประธาน ECB Christine Lagarde กลับส่งผลกระทบต่อค่าเงินยูโร (EUR) โดย Lagarde ยังได้อ้างถึงความเสี่ยงด้านลบต่อข้อมูลเศรษฐกิจในขณะที่ผลักดันการอภิปรายเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยออกไป ถึงกระนั้น Reuters ได้อ้างถึงแหล่งข่าวที่ไม่ระบุตัวตนจาก ECB ว่าผู้กำหนดนโยบายพร้อมที่จะหารือเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม หากข้อมูลอัตราเงินเฟ้อมีทิศทางที่ดีขึ้น
อีกทางหนึ่ง ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของโตเกียวที่ลดลงในเดือนมกราคมร่วมกับรายงานการประชุมนโยบายการเงินที่ไม่เข้มงวดของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) ได้ส่งผลกระทบต่อค่าเงินเยนของญี่ปุ่น (JPY) แต่อย่างไรก็ตาม อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ตกต่ำลงและการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯจะทดสอบแรงเทซื้อคู่เงิน USDJPY ก่อนการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจหลัก ด้วยเหตุนี้ สถานการณ์ของคู่เงินเยนยังแสดงให้เห็นถึงความคิดเห็นจากรัฐมนตรีกระทรวงการคลังของญี่ปุ่น Suzuki ซึ่งกล่าวว่ารัฐบาลและ BoJ ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดโดยพิจารณาจากความจำเป็นในการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% อย่างมั่นคงและยั่งยืน
ต่อไป ดัชนีราคา PCE พื้นฐานของสหรัฐฯในเดือนธันวาคม หรือที่รู้จักในชื่อตัวชี้วัดอัตราเงินเฟ้อของ Fed จะมีความสำคัญต่อทิศทางของตลาดในระยะสั้น เนื่องจากจะเป็นข้อมูลสำคัญสุดท้ายก่อนการประชุมนโยบายการเงินของ Fed ในสัปดาห์หน้า .
หากตัวเลขตัวชี้วัดอัตราเงินเฟ้อนี้ตรงกับที่คาดการณ์ไว้หรือเกินกว่านั้น ดอลลาร์สหรัฐฯจะพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดใหม่ในรอบหลายวันอย่างรวดเร็ว และจะสร้างแรงกดดันด้านลบให้กับสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง อย่างเช่น สกุลเงินหลักและค่าเงิน AUD,NZD รวมไปถึงสินค้าโภคภัณฑ์อีกด้วย ทั้งนี้ ความผิดหวังครั้งใหญ่จากการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจจะมีความจำเป็นสำหรับช่วงแนวโน้มขาลงของดอลลาร์สหรัฐฯที่จะเข้าควบคุมตลาดอีกครั้ง
ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !