ออกจากระบบ
คุณจะแน่ใจหรือไม่ที่จะออกจากระบบ
MTrading Team • 2023-01-27

EURUSD หลุดจากช่วงขาขึ้น เนื่องด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนค่าลงทุกสัปดาห์

EURUSD หลุดจากช่วงขาขึ้น เนื่องด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนค่าลงทุกสัปดาห์

ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ในไตรมาสที่ 4 ของสหรัฐที่ดีขึ้น ส่งผลให้ Fed ยังคงมีการเคลื่อนไหวเชิงรุกต่อไป (Hawkish) ในขณะที่นักลงทุนยังคงรอรายงานดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯที่จะในเผยแพร่ในวันศุกร์นี้ ซึ่งจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้โพลของสำนักข่าวรอยเตอร์ยังเผยให้เห็นถึง ความท้าทายต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในขณะนี้ รวมถึงการดิ้นรนของ Fed ในการเอาชนะปัญหาเพดานหนี้ ซึ่งจะทำให้เงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้ง

โดยหลังจากการเผยแพร่ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ของสหรัฐฯในไตรมาสที่ 4 ส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และ ค่าเงิน AUD,NZD (Antipodeans) มีการปรับลดลง โดยคู่เงิน USDJPY ไม่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ เนื่องด้วย BoJ มีการจำกัดมาตรการควบคุมอัตราดอกเบี้ยระยะยาว (YCC)

ทั้งนี้ดูเหมือน GBPUSD จะมีราคาปรับลดลงมากที่สุด เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหราชอาณาจักร ต่อต้านในการยอมถอยจากแรงกดดันของพรรคอนุรักษ์นิยมที่เสนอให้ล้มเลิกแผนปรับขึ้นภาษี ในขณะที่ EURUSD ก็ลดลงด้วยเช่นกัน เนื่องจาก ECB มีการเคลื่อนไหวเชิงรุกหลังจากข้อมูล GDP ของสหรัฐฯที่เผยแพร่ออกมาดีขึ้น รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ราคาทองคำยังยืนอยู่ในแนวโน้มขาลงเป็นวันที่สอง ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบพยายามดิ้นรนเพื่อให้ยังยืนอยู่ในขาขึ้นเป็นสัปดาห์ที่สาม

ในส่วนของ BTCUSD และ ETHUSD มีราคาปรับลดลงเล็กน้อยเป็นวันที่สอง เนื่องด้วยการดีดตัวขึ้นของดอลลาร์สหรัฐฯ รวมถึงความกังวลต่อกฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้นในตลาดคริปโต

มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:

  • น้ำมันเบรนท์ (Brent) พุ่งขึ้นเล็กน้อยที่ราวๆ $87.50 ซึ่งเตรียมที่จะกลับเข้ามาอยู่ในช่วงขาขึ้นเป็นสัปดาห์ที่สาม
  • ทองคำ (Gold) ย่อลงไป 0.25% ที่ราวๆ $1,925
  • ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD INDEX) พุ่งขึ้นไปที่ 102.00 หลังจากมีการประกาศ GDP ของสหรัฐฯ
  • ตลาดหลักทรัพย์ Wall Street ปิดผสม โดยพุ่งขึ้นเล็กน้อย ซึ่งทำให้ให้ตลาดในเอเชียยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ทั้งนี้หุ้นในยุโรปรวมถึงสหราชอาณาจักรมีการเสนอราคาซื้อ(Bid) เพิ่มขึ้นเล็กน้อย
  • BTCUSD และ ETHUSD ยังอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบหลายวัน โดยย่อลงมาติดต่อกันเป็นวันที่สองที่ราวๆ $22,980 และ $1,580 ตามลำดับ
Industry-best trading conditions
Deposit bonus
up to 200% Deposit bonus 
up to 200%
Spreads
from 0 pips Spreads 
from 0 pips
Awarded Copy
Trading platform Awarded Copy
Trading platform
Join instantly

ดอลลาร์สหรัฐฯดีดตัวขึ้นก่อนการประชุมของ Fed ในสัปดาห์หน้า

หลังจากที่ข้อมูล GDP ของสหรัฐฯที่ดีขึ้นถูกประกาศออกมา ส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบหลายเดือน อีกทั้งยังส่งผลให้ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD INDEX/DYX) มีการปรับเพิ่มขึ้นแซงหน้ามาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ Fed ต้องการ (รายงาน PCE ของสหรัฐฯ) นอกจากนี้ความหวังในการรักษาแรงเทซื้อสกุลเงินดอลลาร์ให้หนาแน่น คือคำสั่งซื้อสินค้าคงทนที่มีต้องเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงการเอาชนะปัญหาเพดานหนี้

ทั้งนี้นักลงทุนยังคงขาดความเชื่อมั่น เนื่องด้วยการเผยแพร่ข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อผ่อนคลายลง จะเป็นท้าทายการเคลื่อนไหวเชิงรุก (Hawkish) ของ Fed โดยอาจทำให้ Fed ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังเดือนกุมภาพันธ์

โดยในวันนี้ EURUSD ยังคงเพิ่มขึ้น เนื่องด้วยไม่มีการประชุมจาก ECB รวมถึงข้อมูล GDP ของสหรัฐฯที่ดีขึ้น อีกทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่ดีขึ้น

ในขณะเดียวกันการจำกัดมาตรการควบคุมอัตราดอกเบี้ยระยะยาว (YCC) ของแบงค์ชาติญี่ปุ่น ทำให้ USDJPY ยังคงทรงตัว ทั้งนี้คู่เงิน AUDUSD ยังคงร่วง เนื่องจากข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ลดลงรวมถึงค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่กลับมาแข็งค่าขึ้น

โดยแรงเทขายทองคำยังที่หนาแน่นในช่วงนี้ อาจเป็นการยืนยันถึงรูปการกลับตัวของกราฟขาลงที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตได้ ในขณะที่มันดิบยังคงมีรูปแบบกราฟอยู่ในแนวด้านข้าง แต่ยังคงมีแรงเทซื้ออย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางของความต้องการซื้อพลังงานที่เพิ่มขึ้น อีกทั้ง OPEC+ ยังสนับสนุนการลดกำลังการผลิต

นอกจากนี้ BTCUSD และ ETHUSD ยังคงพยายามรักษาระดับต่อไปเพื่อเพิ่มแรงเทซื้อ ท่ามกลางความกังวลต่อกฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้นของสหรัฐฯในตลาดคริปโต

  • สัญญาณซื้อแรง: GBPUSD
  • สัญญาณขายแรง: ETHUSD, USDJPY
  • สัญญาณซื้อ: USD Index, USDCAD, Nasdaq, EURUSD
  • สัญญาณขาย: DAX, FTSE 100, gold, BTCUSD, AUDUSD

มาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ Fed ต้องการสำคัญที่สุด

แม้ว่าข้อมูลตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ของสหรัฐฯอาจสร้างความคึกคักให้กับนักลงทุน แต่นักลงทุนยังคงสนใจดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯในเดือนธันวาคมมากกว่า ซึ่งเป็นตัวเลขอัตราเงินเฟ้อที่ Fed ต้องการ ทั้งนี้หากอัตราเงินเฟ้อลดลง อาจทำให้ดอลลาร์สหรัฐที่ล่าสุดดีดตัวขึ้นมาสามารถอ่อนค่าลงไปได้อีก ท่ามกลางความหวังที่ Fed จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้อาจช่วยให้ EURUSD ยังคงรักษาแนวโน้มขาขึ้นได้ โดยอาจทำให้ราคาพุ่งไปแตะจุดสูงสุดในรอบหลายเดือนได้ เนื่องจาก ECB ยังคงมีการเคลื่อนไหวเชิงรุก (Hawkish)

ขอให้คุณโชคดีในการเทรด!