ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ในไตรมาสที่ 4 ของสหรัฐที่ดีขึ้น ส่งผลให้ Fed ยังคงมีการเคลื่อนไหวเชิงรุกต่อไป (Hawkish) ในขณะที่นักลงทุนยังคงรอรายงานดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯที่จะในเผยแพร่ในวันศุกร์นี้ ซึ่งจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้โพลของสำนักข่าวรอยเตอร์ยังเผยให้เห็นถึง ความท้าทายต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในขณะนี้ รวมถึงการดิ้นรนของ Fed ในการเอาชนะปัญหาเพดานหนี้ ซึ่งจะทำให้เงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้ง
โดยหลังจากการเผยแพร่ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ของสหรัฐฯในไตรมาสที่ 4 ส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และ ค่าเงิน AUD,NZD (Antipodeans) มีการปรับลดลง โดยคู่เงิน USDJPY ไม่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ เนื่องด้วย BoJ มีการจำกัดมาตรการควบคุมอัตราดอกเบี้ยระยะยาว (YCC)
ทั้งนี้ดูเหมือน GBPUSD จะมีราคาปรับลดลงมากที่สุด เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหราชอาณาจักร ต่อต้านในการยอมถอยจากแรงกดดันของพรรคอนุรักษ์นิยมที่เสนอให้ล้มเลิกแผนปรับขึ้นภาษี ในขณะที่ EURUSD ก็ลดลงด้วยเช่นกัน เนื่องจาก ECB มีการเคลื่อนไหวเชิงรุกหลังจากข้อมูล GDP ของสหรัฐฯที่เผยแพร่ออกมาดีขึ้น รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ราคาทองคำยังยืนอยู่ในแนวโน้มขาลงเป็นวันที่สอง ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบพยายามดิ้นรนเพื่อให้ยังยืนอยู่ในขาขึ้นเป็นสัปดาห์ที่สาม
ในส่วนของ BTCUSD และ ETHUSD มีราคาปรับลดลงเล็กน้อยเป็นวันที่สอง เนื่องด้วยการดีดตัวขึ้นของดอลลาร์สหรัฐฯ รวมถึงความกังวลต่อกฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้นในตลาดคริปโต
มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:
หลังจากที่ข้อมูล GDP ของสหรัฐฯที่ดีขึ้นถูกประกาศออกมา ส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบหลายเดือน อีกทั้งยังส่งผลให้ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD INDEX/DYX) มีการปรับเพิ่มขึ้นแซงหน้ามาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ Fed ต้องการ (รายงาน PCE ของสหรัฐฯ) นอกจากนี้ความหวังในการรักษาแรงเทซื้อสกุลเงินดอลลาร์ให้หนาแน่น คือคำสั่งซื้อสินค้าคงทนที่มีต้องเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงการเอาชนะปัญหาเพดานหนี้
ทั้งนี้นักลงทุนยังคงขาดความเชื่อมั่น เนื่องด้วยการเผยแพร่ข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อผ่อนคลายลง จะเป็นท้าทายการเคลื่อนไหวเชิงรุก (Hawkish) ของ Fed โดยอาจทำให้ Fed ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังเดือนกุมภาพันธ์
โดยในวันนี้ EURUSD ยังคงเพิ่มขึ้น เนื่องด้วยไม่มีการประชุมจาก ECB รวมถึงข้อมูล GDP ของสหรัฐฯที่ดีขึ้น อีกทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่ดีขึ้น
ในขณะเดียวกันการจำกัดมาตรการควบคุมอัตราดอกเบี้ยระยะยาว (YCC) ของแบงค์ชาติญี่ปุ่น ทำให้ USDJPY ยังคงทรงตัว ทั้งนี้คู่เงิน AUDUSD ยังคงร่วง เนื่องจากข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ลดลงรวมถึงค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่กลับมาแข็งค่าขึ้น
โดยแรงเทขายทองคำยังที่หนาแน่นในช่วงนี้ อาจเป็นการยืนยันถึงรูปการกลับตัวของกราฟขาลงที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตได้ ในขณะที่มันดิบยังคงมีรูปแบบกราฟอยู่ในแนวด้านข้าง แต่ยังคงมีแรงเทซื้ออย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางของความต้องการซื้อพลังงานที่เพิ่มขึ้น อีกทั้ง OPEC+ ยังสนับสนุนการลดกำลังการผลิต
นอกจากนี้ BTCUSD และ ETHUSD ยังคงพยายามรักษาระดับต่อไปเพื่อเพิ่มแรงเทซื้อ ท่ามกลางความกังวลต่อกฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้นของสหรัฐฯในตลาดคริปโต
แม้ว่าข้อมูลตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ของสหรัฐฯอาจสร้างความคึกคักให้กับนักลงทุน แต่นักลงทุนยังคงสนใจดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯในเดือนธันวาคมมากกว่า ซึ่งเป็นตัวเลขอัตราเงินเฟ้อที่ Fed ต้องการ ทั้งนี้หากอัตราเงินเฟ้อลดลง อาจทำให้ดอลลาร์สหรัฐที่ล่าสุดดีดตัวขึ้นมาสามารถอ่อนค่าลงไปได้อีก ท่ามกลางความหวังที่ Fed จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้อาจช่วยให้ EURUSD ยังคงรักษาแนวโน้มขาขึ้นได้ โดยอาจทำให้ราคาพุ่งไปแตะจุดสูงสุดในรอบหลายเดือนได้ เนื่องจาก ECB ยังคงมีการเคลื่อนไหวเชิงรุก (Hawkish)
ขอให้คุณโชคดีในการเทรด!