ความเชื่อมั่นของตลาดยังคงมีทิศทางที่ไม่แน่นอน ขณะที่เทรดเดอร์กำลังรอแถลงการณ์จากนายธนาคารกลางคนสำคัญท่ามกลางความผันผวนที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ นอกจากนี้ การรุกรานภาคพื้นดินของอิสราเอลในฉนวนกาซาที่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะยังคงดำเนินต่อไปอีกนานแค่ไหน รวมถึงการอัปเดตที่ไม่ชัดเจนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯและจีนยังท้าทายความเชื่อมั่นอีกด้วย
ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้นเป็น 105.65 โดยพุ่งสูงขึ้นเป็นวันที่สามติดต่อกัน ในขณะที่ S&P 500 Futures ร่วงลงเล็กน้อย และหุ้นในเอเชียแปซิฟิกก็ปรับตัวลดลง ทั้งนี้ คู่เงิน GBPUSD ร่วงลงมากที่สุดในบรรดาคู่สกุลเงิน G10 ท่ามกลางปัจจัยพื้นฐานของสหราชอาณาจักรที่ตกต่ำลงเมื่อไม่นานมานี้ แม้ว่าจะมีความคิดเห็นเรื่องการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ก็ตาม
ในอีกทางหนึ่ง ราคาน้ำมันเบรนท์แตะที่ระดับต่ำสุดในรอบ 11 สัปดาห์ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI แกว่งตัวที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม นอกจากนี้ ราคาทองคำก็ร่วงลงเป็นวันที่สามติดต่อกัน ในขณะที่ราคาแร่เงินก็ร่วงลงต่ำสุดในรอบสามสัปดาห์เช่นเดียวกัน
และเป็นที่น่าสังเกตว่าสกุลเงินดิจิทัลยังคงอยู่ในแนวรับหลังจากการพุ่งสูงขึ้นล่าสุด ขณะที่นักลงทุนกำลังประเมินสัญญาณในแง่ดีเกี่ยวกับ ETF option และเมทริกซ์อุปสงค์-อุปทานที่ส่งสัญญาณก่อนหน้านี้
มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:
ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) ขยับสูงขึ้นมาอยู่ที่ 105.65 โดยเพิ่มขึ้นเป็นวันที่สามติดต่อกัน เนื่องจากสภาวะการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงร่วมกับการคาดการณ์การดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของ Fed ก่อนแถลงการณ์ของ Jerome Powell ทั้งนี้ พลวัตของตลาดเมื่อเร็วๆนี้ยังไม่ชัดเจนมากนัก ขณะที่สหรัฐฯพยายามลดความรุนแรงในปฏิบัติการภาคพื้นดินของอิสราเอลในฉนวนกาซา อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าแนวโน้มที่อิสราเอลจะหยุดนั้นมีน้อยลง และความกดดันจากทั่วโลกที่มีต่อผู้นำตะวันตกซึ่งครั้งหนึ่งเคยสนับสนุนการต่อสู้กับกลุ่มฮามาสก็เพิ่มสูงขึ้น ด้วยเหตุนี้ ความเชื่อมั่นในตลาดจึงยังคงมีทิศทางที่ไม่ชัดเจน ซึ่งในทางกลับกันกลับสนับสนุนอุปสงค์ของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
ในอีกทางหนึ่ง Pan Gongsheng ผู้ว่าการธนาคารประชาชนจีน (PBoC) ได้กล่าวว่า พวกเขาจะยังคงดำเนินนโยบายการเงินอย่างรอบคอบและจะสนับสนุนการเติบโตที่มั่นคงอย่างแท้จริงสำหรับเศรษฐกิจของจีน โดยจะสนับสนุนการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้นและแก้ไขความเชื่อมั่นที่สั่นคลอน
ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดี Joe Biden ของสหรัฐฯและประธานาธิบดี Xi Jinping ของจีนมีกำหนดจัดการเจรจาโดยพบหน้ากันเป็นครั้งแรกในรอบหนึ่งปีในวันที่ 15 พฤศจิกายน ตามรายงานของบลูมเบิร์ก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการปรับปรุงความสัมพันธ์จีน-อเมริกันและยังจะเป็นการกระตุ้นช่วงแนวโน้มขาขึ้นของดอลลาร์สหรัฐฯด้วยเช่นกัน
Michelle Bowman ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯกล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่าเธอคาดว่าจะมีการปรับนโยบายให้เข้มงวดยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ประธาน Fed ของดัลลาส Lorie K. Logan กล่าวว่าพวกเขาจำเป็นต้องเผชิญกับสภาวะทางการเงินที่ตึงตัวเพื่อทำให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 2% อีกทั้ง ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ Christopher Waller ยังกล่าวเสริมว่า “สิ่งที่ผู้คนคำนึงถึงตอนนี้คือการที่ราคาจะกลับสู่ระดับก่อนหน้านี้นั้นจะไม่เกิดขึ้น”
ประธาน Fed Powell และผู้ว่าการ Bailey ของ BoE มีแนวโน้มที่จะเซอไพรส์ตลาดอย่างมากโดยอาจจะเป็นการกระตุ้นเทรดเดอร์ได้เช่นกันซึ่งส่วนใหญ่เป็นเทรดเดอร์คู่เงิน GBPUSD ดังที่กล่าวไปแล้ว ปัจจัยพื้นฐานของสหรัฐฯที่ค่อนข้างแข็งแกร่งจะช่วยให้คู่เงิน Cable ยังคงแข็งแกร่งขึ้น เว้นแต่ว่า Powell จะส่งสัญญาณอะไรที่เกี่ยวข้องกับนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย ซึ่งมีโอกาสน้อยกว่า
ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !