GBPUSD ร่วง 5 วันติดต่อกันหลังอัตราเงินเฟ้ออังกฤษต่ำกว่าที่คาด โดยมุ่งความสนใจไปที่ FOMC

สถานการณ์การซื้อขายในช่วงเช้าวันพุธยังคงมีทิศทางไม่ชัดเจน โดยส่วนใหญ่ชะลอตัว เนื่องจากนักลงทุนกำลังรอฟังผลการประชุมนโยบายการเงินของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินกลางสหรัฐฯ (FOMC) ทั้งนี้ ท่าทีระมัดระวังของนักลงทุนยังส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ เช่น ค่าสกุลเงินหลักอื่นๆ สินค้าโภคภัณฑ์ และค่าเงิน AUD,NZD

ถึงแม้ว่าดอลลาร์สหรัฐฯจะแข็งค่าขึ้น แต่คู่เงิน EURUSD ดีดตัวขึ้นจากการที่เจ้าหน้าที่ ECB แสดงจุดยืนการดำเนินนโยบายการเงินอย่างเข้มงวด และข้อมูลเศรษฐกิจของเยอรมนีที่ปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม คู่เงิน GBPUSD ยังคงถูกกดดันเป็นวันที่ห้าติดต่อกันหลังจากข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของอังกฤษมีการรายงานออกมาต่ำกว่าการคาดการณ์

นอกจากนี้ แม้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี และแสดงให้เห็นถึงความพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แต่คู่เงิน USDJPY ยังคงพุ่งสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดใหม่นับตั้งแต่พฤศจิกายน 2023 ขณะที่ ราคาทองคำแกว่งตัวภายในกรอบการซื้อขายประจำสัปดาห์ โดยราคาน้ำมันดิบเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 4.5 เดือนเมื่อวันก่อนหน้า

ในอีกทางหนึ่ง BTCUSD ดีดตัวกลับจากจุดต่ำสุดในรอบสองสัปดาห์ ในขณะที่ ETHUSD อยู่ในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ โดยนักลงทุนกำลังรอสัญญาณเพิ่มเติมเพื่อยืนยันแนวโน้มขาขึ้นก่อนหน้า

มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:

• น้ำมันเบรนท์ (Brent) แกว่งตัวที่ระดับสูงสุดในรอบ 4.5 เดือน โดยร่วงลงเล็กน้อยที่ประมาณ $87.30
• ทองคำ (Gold) ขาดโมเมนตัมที่ประมาณ $2,160 โดยยังคงเคลื่อนไหวภายในช่วงการซื้อขายรายสัปดาห์
• ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD INDEX) แกว่งตัวที่ระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์ ล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 103.85
• ตลาดหลักทรัพย์ Wall Street ปิดบวกเล็กน้อย หุ้นในโซนเอเชียแปซิฟิก ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ หุ้นในยุโรปและสหราชอาณาจักร ยังขาดโมเมนตัม
• BTCUSD และ ETHUSD พุ่งสูงขึ้นเล็กน้อยที่ระดับต่ำสุดในรอบหลายวันที่ประมาณ $62,500 และ $3,170 ตามลำดับ

ดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้นจากการคาดการณ์ว่า Fed อาจใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวด….

ด้วยตัวเลขข้อมูลอัตราเงินเฟ้อ, การจ้างงาน และการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่แข็งแกร่ง ประกอบกับข้อมูลตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯที่มีทิศทางเป็นบวกได้หนุนให้ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในช่วงแนวโน้มขาขึ้นห้าวันแตะที่จุดสูงสุดในรอบเดือน ด้วยเหตุนี้ ดอลลาร์สหรัฐฯเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลจึงปรับตัวตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ขณะที่นักลงทุนเริ่มยอมรับกับแนวโน้มที่ Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน

นอกเหนือไปจากความกังวลเกี่ยวกับ Fed และข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เกิดขึ้นจากจีน รัสเซีย และตะวันออกกลาง ล้วนสนับสนุนความต้องการดอลลาร์สหรัฐฯในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

อีกทั้ง เมื่อรวมกับความกังวลเกี่ยวกับการเข้าสู่สภาวะการลงจอดอย่างนุ่มนวล (soft landing) ของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ร่วมกับข้อสงสัยเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศเศรษฐกิจหลักจากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น ล้วนเป็นแรงหนุนให้ดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้น

ถึงกระนั้นก็ตาม ความคิดเห็นที่สนับสนุนการเลื่อนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ ECB และตัวเลข ZEW ของเยอรมันที่ปรับตัวดีขึ้น รวมไปถึงความเชื่อมั่นล่าสุดจากแถลงการณ์ของผู้กำหนดนโยบายจะท้าทายแรงเทขายยูโร

ในทางกลับกัน เงินปอนด์สเตอร์ลิง (GBP) ยังคงได้รับแรงกดดัน เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรที่อ่อนตัวกว่าที่คาดการณ์ไว้ ร่วมกับความกลัวการชะลอตัวของเศรษฐกิจอังกฤษได้ท้าทายการเลื่อนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE)

อีกทางด้านหนึ่ง คู่เงิน NZDUSD และคู่เงิน AUDUSD ยังคงได้รับผลกระทบเนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจ

ท่ามกลางสภาพการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีน ขณะที่คู่เงิน USDJPY ปรับตัวไม่มากนักแม้จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 17 ปี โดยนักลงทุนได้คาดการณ์ถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของญี่ปุ่นไว้ล่วงหน้าแล้ว

ทั้งนี้ BTCUSD และ ETHUSD ชะลอตัวลงจากการพุ่งสูงขึ้นก่อนหน้านี้ แม้ล่าสุดจะมีการดีดตัวกลับขึ้นมาก็ตาม ขณะที่ นักลงทุนคริปโทเคอร์เรนซียังคงมองหาสัญญาณเพิ่มเติมเพื่อยืนยันแนวโน้มขาขึ้นก่อนหน้า ซึ่งได้รับแรงหนุนจากความเชื่อมั่นในแง่ดีเกี่ยวกับการอนุมัติ spot ETF

• สัญญาณซื้อแรง: USDCAD, USDJPY
• สัญญาณขายแรง: Crude Oil, US Dollar, GBPUSD
• สัญญาณซื้อ: BTCUSD, ETHUSD, Nasdaq, Gold
• สัญญาณขาย: DAX, FTSE 100, BTCUSD, AUDUSD, EURUSD

ทุกสายตาจับจ้องไปที่ FOMC...

ขณะที่แถลงการณ์ของประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) Christine Lagarde และข้อมูลความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยูโรโซนอาจส่งผลต่อเทรดเดอร์ที่เทรดตามโมเมนตัม แต่ความสนใจหลักจะยังมุ่งไปที่การประกาศนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่แค่การตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ย ซึ่งคาดว่าจะไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น เพราะตลาดคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ไม่เปลี่ยนแปลง แต่สิ่งที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดคือรูปแบบกราฟ dot plot และแถลงการณ์ของประธาน Fed Jerome Powell เพื่อดูทิศทางที่ชัดเจน

ถ้าหากการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของผู้กำหนดนโยบายการเงินของ Fed ชี้ไปทางการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียงแค่ 3 ครั้งในปี 2024 แทนที่จะเป็น 4 ครั้ง ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอาจจะแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องจากช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ประธาน Fed Powell จำเป็นต้องรักษาแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดและไม่ส่งสัญญาณถึงความจำเป็นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อสนับสนุนช่วงแนวโน้มขาขึ้นของดอลลาร์สหรัฐฯ

ในกรณีที่มีความแตกต่างระหว่างความคาดหวังของตลาดในการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของ Fed และแนวโน้มของการผ่อนคลายนโยบายการเงินจากแถลงการณ์ของประธาน Fed Powell และ/หรือรูปแบบกราฟ dot plot อาจจะทำให้เกิดการดึงดอลลาร์สหรัฐฯกลับสู่ระดับต่ำสุดก่อนหน้านี้ได้

ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !