ออกจากระบบ
คุณจะแน่ใจหรือไม่ที่จะออกจากระบบ
MTrading Team • 2024-06-27

GBPUSD ฟื้นตัวที่ระดับต่ำสุดในรอบหกสัปดาห์ขณะการรายงานปัจจัยสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

GBPUSD ฟื้นตัวที่ระดับต่ำสุดในรอบหกสัปดาห์ขณะการรายงานปัจจัยสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

ตลาดยังคงมีแนวโน้มผันผวนในช่วงเช้าของวันพฤหัสบดี ขณะที่ นักลงทุนกำลังรอการรายงานข้อมูลและเหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ หลังจากที่ดอลลาร์สหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อถือ โดยได้รับแรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ฟื้นตัว นอกจากนี้ สภาวะทรงตัวในช่วงการปรับพอร์ตรายเดือนและไตรมาส ประกอบกับการขาดแคลนข่าวสารที่ส่งผลต่อความเสี่ยงในตลาด ล้วนเป็นปัจจัยที่จำกัดการเคลื่อนไหวของตลาดและทดสอบแนวโน้มของเทรดเดอร์ก่อนหน้านี้

ด้วยปัจจัยเดียวกันนี้ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) จึงเตรียมพร้อมสำหรับการปรับตัวสูงขึ้นเป็นสัปดาห์ที่สี่ติดต่อกัน แม้จะขาดแรงผลักดันขาขึ้นก็ตาม ปัจจัยนี้ยังสร้างแรงกดดันด้านลบต่อคู่เงิน EURUSD และคู่เงิน GBPUSD โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางความกังวลที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ทางการเมืองในยูโรโซนและข้อมูลเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรที่ส่วนใหญ่ถดถอยลง นอกจากนี้ คู่เงิน USDJPY พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1986 ก่อนที่จะเกิดการดึงกลับเล็กน้อยท่ามกลางความกังวลที่เกี่ยวข้องกับการแทรกแซงของญี่ปุ่นเพื่อพยุงค่าเงินเยน

คู่เงิน AUDUSD ยังคงขยับตัวสูงขึ้นเป็นวันที่สามติดต่อกัน ท่ามกลางแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดครั้งใหม่ของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ทว่าคู่เงิน NZDUSD กลับยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันที่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์จากความกังวลด้านเศรษฐกิจของนิวซีแลนด์ (NZ) ที่ถูกกระตุ้นโดยกระทรวงการคลังของนิวซีแลนด์ ส่วนทางด้าน คู่เงิน USDCAD ยังคงไม่มีทิศทางที่ชัดเจนภายในกรอบการซื้อขายรายสัปดาห์ หลังจากพุ่งสูงขึ้นในช่วงสองวันที่ผ่านมาติดต่อกัน ท่ามกลางราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลง รวมไปถึงดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่าขึ้น และข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของแคนาดาที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ ข้อมูลผลกำไรภาคอุตสาหกรรมของจีนที่ปรับตัวลง ยังส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของตลาดสินค้าโภคภัณฑ์และสกุลเงินกลุ่ม Antipodeans ท่ามกลางช่วงการซื้อขายที่ซบเซาในตลาดฝั่งเอเชียแปซิฟิก

ในอีกทางหนึ่ง ราคาน้ำมันดิบยังคงทรงตัว เนื่องจากปริมาณสำรองน้ำมันดิบสหรัฐฯประจำสัปดาห์ที่เพิ่มขึ้นล่าสุด ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่ฟื้นตัวขึ้นและปัญหาเศรษฐกิจของจีนท้าทายแนวโน้มความต้องการพลังงาน แม้ว่าสภาวะการขาดแคลนอุปทานที่นำโดยกลุ่ม OPEC+ ยังคงอยู่ ขณะที่ ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะปรับลดลงรายเดือนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ต้นปี 2024 เนื่องจากเทรดเดอร์ได้ทำการประเมินการพุ่งสูงขึ้นของระดับราคาครั้งก่อนอีกครั้ง ท่ามกลางท่าทีสนับสนุนนโยบายการเงินที่เข้มงวดของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และแรงเทซื้อทองคำจากจีนที่ชะลอตัวลง

เมื่อพูดถึงสกุลเงินดิจิทัล BTCUSD และ ETHUSD กำลังฟื้นตัว ขณะที่ยังคงอยู่ในช่วงแนวโน้มขาลง ก่อนการเปิดตัวกองทุน ETH ETF ที่รอคอยมานาน และสัญญาณหมดอายุของออปชั่นที่ช่วยหนุนระดับราคา

มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:

  • น้ำมันดิบ WTI พยายามรักษาระดับการพุ่งสูงขึ้นเป็นสัปดาห์ที่สามติดต่อกันที่ระดับสูงสุดในรอบสองเดือน โดยขยับขึ้นมาที่ประมาณ $80.80
  • ทองคำ (Gold) ยุติการร่วงลงติดต่อกันสองวันในขณะที่นักลงทุนเริ่มมีการซื้อขายใกล้ระดับ $2,300
  • ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD INDEX) ถอยกลับจากระดับสูงสุดในรอบแปดสัปดาห์ โดยลดลง 0.15% ระหว่างวันไปที่ประมาณ 105.90
  • ตลาดหลักทรัพย์ Wall Street ปิดบวกเล็กน้อย หุ้นในโซนเอเชียแปซิฟิก ปรับตัวลดลง ขณะที่ หุ้นในยุโรปและสหราชอาณาจักร ยังคงมีทิศทางเป็นบวกเล็กน้อยในช่วงเปิดการซื้อขาย
  • BTCUSD และ ETHUSD ชะลอตัวจากการดีดตัวสูงขึ้นในช่วงเริ่มต้นสัปดาห์จากระดับต่ำสุดในรอบเดือน แม้ว่าจะขาดโมเมนตัมขาลงที่ประมาณ $60,700 และ $3,370 ตามลำดับ
เงื่อนไขการเทรดที่ดีที่สุด
รับโบนัสเงินฝากสูงสุดถึง 200% รับโบนัสเงินฝากสูงสุดถึง 200%
Spread 
เริ่มต้นที่ 0 pip Spread 
เริ่มต้นที่ 0 pip
แพลตฟอร์ม Copy
Trade ระดับโลก แพลตฟอร์ม Copy 
Trade ระดับโลก
เข้าร่วมเลย

ช่วงแนวโน้มขาขึ้นของดอลลาร์สหรัฐฯยังคงครองตลาดก่อนถึงการรายงานปัจจัยสำคัญ...

แม้ว่าการทดสอบ Stress Test ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และยอดขายบ้านใหม่จะขัดแย้งกับแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของ Fed ขณะที่แรงเทซื้อดอลลาร์สหรัฐฯยังคงควบคุมตลาดโดยอิงจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯที่ปรับตัวสูงขึ้น การแข็งค่าขึ้นล่าสุดของดอลลาร์สหรัฐฯอาจเชื่อมโยงกับการปรับพอร์ตการลงทุนในช่วงปลายเดือนและปลายไตรมาส ท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่มีความระมัดระวังก่อนที่จะมีการรายงานปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อตลาด นอกจากนี้ อีกสิ่งที่เป็นแรงหนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯก็คือ การพูดคุยกันล่าสุดของ Fed ที่บ่งชี้ว่าอาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2024 น้อยกว่าธนาคารกลางรายหลักรายอื่นๆที่ได้ปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินไปแล้ว

ในบรรดาธนาคารกลางชั้นนำ เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่วนใหญ่ค่อนข้างแน่ใจว่าจะได้เห็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง ท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยน่าประทับใจนักจากเยอรมนีและฝรั่งเศส นอกจากนี้ ความวิตกกังวลทางการเมืองในกลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) หลังจากพรรคฝ่ายขวาจัดสุดโต่งได้รับความนิยมมากขึ้นก่อนการเลือกตั้งระดับชาติ อาจส่งผลกระทบต่อราคาคู่เงิน EURUSD ด้วยเช่นกัน

ในทำนองเดียวกัน คู่เงิน GBPUSD แตะที่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ เนื่องจากตัวเลขยอดค้าปลีกสหราชอาณาจักรจากสมาคมอุตสาหกรรมค้าปลีกอังกฤษ (CBI) สำหรับเดือนมิถุนายนที่ตกต่ำลงและการประมาณการในเดือนกรกฎาคมมีผลกระทบมากกว่าแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) นอกจากนี้ ความท้าทายที่พรรครัฐบาลของสหราชอาณาจักรต้องเผชิญในการเลือกตั้งระดับชาติที่กำลังจะมาถึง ยังสร้างแรงกดดันด้านลบต่อคู่เงิน GBPUSD อีกด้วย

นอกจากนั้น ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของออสเตรเลียที่แข็งแกร่งในวันพุธที่ผ่านมาช่วยฟื้นแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) และยังช่วยพยุงคู่เงิน AUDUSD ไว้ในแดนบวก แม้จะมีสัญญาณความเชื่อมั่นที่ผันผวน และความท้าทายที่กำลังจะเกิดขึ้นจากจีนก็ตาม ในขณะเดียวกัน คู่เงิน NZDUSD ได้รับผลกระทบจากการคาดการณ์เศรษฐกิจที่ย่ำแย่จากกระทรวงการคลังนิวซีแลนด์ และแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ)

น่าสังเกตว่า คู่เงิน USDCAD ยังไม่มีสัญญาณการเทขาย แม้ว่าจะมีข้อมูลอัตราเงินเฟ้อแคนาดาที่แข็งแกร่ง และราคาน้ำมันซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักของแคนาดาที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยสาเหตุอาจเป็นเพราะธนาคารกลางแคนาดา (BoC) เตรียมพร้อมที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม

อีกทางด้านหนึ่ง ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงชั่วคราว หลังจากข้อมูลคลังสำรองน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐฯชี้ว่ามีปริมาณน้ำมันดิบคงคลังเพิ่มขึ้นเหนือการคาดการณ์ นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจของประเทศผู้ใช้น้ำมันรายใหญ่ และดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่าขึ้นยังส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันดิบอีกด้วย

ทั้งนี้ ราคาทองคำแสดงการพักฐานเพื่อปรับฐานรายเดือนและไตรมาส หลังจากการปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางการฟื้นตัวของดอลลาร์สหรัฐฯและความลังเลล่าสุดของจีนในการเข้าซื้อ XAUUSD นอกจากนี้ การเคลื่อนไหวที่ผันผวนของตลาดหุ้นและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่แข็งแกร่งขึ้นยังท้าทายราคาทองคำด้วยเช่นกัน

  • สัญญาณซื้อแรง: USDCAD, USDJPY, US Dollar, Silver
  • สัญญาณขายแรง: AUDUSD, NZDUSD, GBPUSD
  • สัญญาณซื้อ: BTCUSD, ETHUSD, Nasdaq, Gold, DJI30, USDCNH
  • สัญญาณขาย: DAX, FTSE 100, EURUSD, Crude Oil

วันที่ยุ่งเหยิงก่อน……

ตลาดยังคงมีความเคลื่อนไหวที่ไม่น่าประทับใจมาตลอดสัปดาห์นี้ และนักลงทุนอาจจะได้พบกับความผันผวนในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ เนื่องจากการรายงานข้อมูล/เหตุการณ์สำคัญที่มีกำหนดการเผยแพร่อยู่ในปฏิทินเศรษฐกิจ ในบรรดาข้อมูลเหล่านี้ การดีเบตทางการเมืองครั้งแรกระหว่างผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯคนสำคัญอย่าง Joe Biden และ Donald Trump จะได้รับความสนใจอย่างมากในวันพฤหัสบดีนี้ โดยยังมีข้อมูลสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์ของสหรัฐฯ คำสั่งซื้อสินค้าคงทนประจำเดือนของสหรัฐฯ และตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1 ของสหรัฐฯที่ปรับแก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ข้อมูลดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ และสภาพแวดล้อมทางธุรกิจของยูโรโซน ร่วมกับรายงานภาวะเสถียรภาพทางการเงินของสหราชอาณาจักรก็จะช่วยชี้นำทิศทางให้กับนักลงทุนในตลาดด้วยเช่นกัน

หลังจากนั้น ปฏิทินเศรษฐกิจในวันศุกร์จะคึกคักขึ้นด้วย การรายงานดัชนีราคา PCE พื้นฐานของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ Fed ให้ความสำคัญ รวมไปถึงข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่น และตัวเลข GDP ของสหราชอาณาจักรจะช่วยปิดท้ายสัปดาห์ที่ค่อนข้างเงียบเหงาให้มีชีวิตชีวาขึ้น

เป็นที่น่าสังเกตว่า การเลือกใช้นโยบายต่อต้านจีนของ Trump และการสนับสนุนสกุลเงินดิจิทัลของเขาอาจทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้น หาก Biden ประสบปัญหาในการดีเบต ในทางกลับกัน ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่มีทิศทางเป็นบวกจะยืนยันถึงแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของ Fed และเป็นผลให้ดอลลาร์สหรัฐฯสามารถจบสัปดาห์ เดือน และไตรมาสนี้ด้วยการปรับตัวสูงขึ้นได้ ในอีกทางหนึ่ง ค่าเงินยูโรและปอนด์สเตอร์ลิง (GBP) มีแนวโน้มอ่อนค่าลงสืบเนื่องมาจากปัญหาทางการเมือง ขณะที่ค่าเงินเยนญี่ปุ่นได้รับผลกระทบจากการที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) ลังเลที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม อีกทั้ง แม้ว่าราคาน้ำมันดิบอาจปรับตัวสูงขึ้น ทว่าราคาทองคำอาจดึงดูดแรงเทขายเนื่องจากสัญญาณขาลงทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่เอื้ออำนวยต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !