แรงเทซื้อทองคำพุ่งสูงขึ้นทะลุแนวต้านสำคัญ แม้ดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่า

ในช่วงเช้าวันศุกร์ ความเชื่อมั่นของตลาดมีทิศทางเป็นบวกแม้จะมีท่าทีระมัดระวังของนักลงทุน เนื่องจากเทรดเดอร์กำลังประเมินโอกาสที่เศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่สภาวะการลงจอดอย่างนุ่มนวล (soft-landing) แม้จะมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นก็ตาม นอกจากนี้ อีกสิ่งที่ช่วยหนุนความเชื่อมั่นของตลาดอาจเป็นพาดหัวข่าวจากจีนและการเตรียมพร้อมสำหรับการยุติการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของ Fed ในเดือนมีนาคมและพฤษภาคม

ท่ามกลางสถานการณ์เหล่านี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯยังคงได้รับแรงกดดัน โดยดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) ยังคงอยู่ในแนวทางที่จะพลิกกลับการร่วงลงรายสัปดาห์ก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปิดบวกเล็กน้อย ขณะที่ ตลาดหุ้นในฝั่งเอเชียแปซิฟิกและฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯกลับมีราคาเสนอซื้อเป็นบวกในช่วงการซื้อขายทางฝั่งยุโรป

อีกทางด้านหนึ่ง คู่เงิน USDJPY พุ่งสูงขึ้นมากที่สุดในบรรดาคู่สกุลเงิน G10 ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบและราคาทองคำยังคงปรับตัวสูงขึ้น โดย คู่เงิน AUDUSD และคู่เงิน NZDUSD พุ่งสูงขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ คู่เงิน EURUSD และคู่เงิน GBPUSD นั้นขาดโมเมนตัมการฟื้นตัว

นอกจากนี้ BTCUSD และ ETHUSD พลิกกลับการร่วงลงของวันก่อนหน้าจากระดับสูงสุดในรอบหลายเดือน เนื่องจากเทรดเดอร์คริปโตมีแนวโน้มขาขึ้นมากเกินไปท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับปัญหาการขาดแคลนอุปทาน และการมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับการอนุมัติ spot ETF

มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:

• น้ำมันเบรนท์ (Brent) พุ่งสูงขึ้นเล็กน้อยที่ประมาณ $83.00 ในขณะที่ยังคงฟื้นตัวต่อเนื่องจากเส้น 200-SMA
• ทองคำ (Gold) ยังคงแข็งค่าที่ระดับสูงสุดในรอบเดือน ขณะที่พุ่งสูงขึ้นทะลุแนวต้านที่ประมาณ $2,046
• ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD INDEX) ยังคงอยู่ในแนวรับเหนือระดับ 104.00 โดยล่าสุดพลิกกลับจากการร่วงลงในรอบสัปดาห์
• ตลาดหลักทรัพย์ Wall Street ปิดบวกเล็กน้อย แต่ หุ้นในโซนเอเชียแปซิฟิก ยังคงปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ หุ้นในยุโรปและสหราชอาณาจักร ยังมีแนวโน้มขาขึ้นในช่วงต้นการซื้อขาย
• BTCUSD และ ETHUSD แกว่งตัวอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบหลายเดือน โดยพลิกกลับจากการร่วงลงของวันก่อนหน้าไปที่ประมาณ $61,500 และ $3,370 ตามลำดับ

ทองคำเมินดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่าขึ้นในช่วงแนวโน้มขาขึ้นสองสัปดาห์...

รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของกลุ่มประเทศ G20 ได้ส่งสัญญาณความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจโลกอาจจะเข้าสู่สภาวะการลงจอดอย่างนุ่มนวล (soft landing) ซึ่งส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นในตลาดและส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น แม้ว่าดอลลาร์สหรัฐฯจะแข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ตาม การที่ G20 ไม่สามารถออกแถลงการณ์ร่วมกันยังทดสอบความเชื่อมั่นของนักลงทุนและช่วงแนวโน้มขาขึ้นของ XAUUSD ในภายหลังอีกด้วย ในขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันดิบก็เพิกเฉยต่อความกังวลเกี่ยวกับปริมาณอุปทานที่เพิ่มสูงขึ้นและการพูดคุยเกี่ยวกับอุปสงค์ที่อาจจะลดลง โดยยังคงรักษาโมเมนตัมการฟื้นตัวจากวันก่อนหน้า

เมื่อพูดถึงสัญญาณจาก Fed ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯแห่งแอตแลนตา Raphael Bostic ได้ยืนยันการคาดการณ์ของตลาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางปี 2024 โดยระบุว่า "น่าจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (fed funds rate) ในช่วงฤดูร้อน" ในขณะเดียวกัน ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯแห่งชิคาโก Alan Goolsbee ซึ่งมีสิทธิ์ออกเสียงในคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ได้พยายามคัดค้านฝ่ายสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยลดทอนความสำคัญของการปรับตัวที่ดีขึ้นล่าสุดของดัชนีราคา PCE พื้นฐานของสหรัฐฯ

เป็นที่น่าสังเกตว่า Loretta J. Mester ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯแห่งคลีฟแลนด์ได้สนับสนุนการคาดการณ์เบื้องต้นที่จะมีการลดอัตราดอกเบี้ยสามครั้งในปี 2024 ซึ่งยังเป็นการทดสอบช่วงแนวโน้มขาขึ้นของดอลลาร์สหรัฐฯ โดย Mary Daly ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯแห่งซานฟรานซิสโก และ John Williams ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯแห่งนิวยอร์กก็ไม่ได้แสดงความคิดเห็นใหม่แต่ยังคงสนับสนุนนโยบายการเงินในปัจจุบันและชี้แนะว่าการปรับลดดอกเบี้ยอาจเริ่มต้นในปี 2024

ในอีกทางหนึ่ง ตัวเลขดัชนี PMI ประจำเดือนกุมภาพันธ์ของจีน ทั้งจาก NBS และ Caixin ต่างชี้ให้เห็นถึงสัญญาณการฟื้นตัวเล็กน้อยของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์และค่าเงิน AUD,NZD ยังคงรักษาระดับเอาไว้ได้ นอกจากนี้ ข่าวสารที่บ่งชี้ว่ากระทรวงพาณิชย์จีนกำลังผลักดันให้นำเข้าสินค้ามากขึ้นและพร้อมที่จะใช้มาตรการเชิงคุณภาพเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยังยิ่งช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นในตลาดอีกด้วย ทั้งนี้ การประชุมสภาผู้แทนราษฎรจีน (Two Sessions) ประจำปี 2024 ที่จะเริ่มขึ้นในวันจันทร์นี้ มีการคาดการณ์ว่าจะมีการเปิดเผยกลยุทธ์ที่จะเป็นผลดีต่อราคาทองคำและสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ

นอกจากนี้ สมาชิกคณะกรรมการธนาคารกลางยุโรป (ECB) Fabio Panetta ยังได้ท้าทายความเชื่อมั่นของตลาดเกี่ยวกับความล่าช้าในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ ECB โดยกล่าวว่าอัตราเงินเฟ้อลดลงเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยอาจเป็นผลมาจากการรายงานข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีที่อ่อนตัวลง ก่อนการรายงานตัวเลขค่าดัชนี CPI และดัชนี HICP ที่สำคัญของยูโรโซนในวันนี้ เมื่อร่วมกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่าขึ้นจึงส่งผลกระทบต่อราคาคู่เงิน EURUSD ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นในวันนี้

อีกทางด้านหนึ่ง ความเห็นเบื้องต้นที่สนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากสมาชิกคณะกรรมการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) Hajime Takata นั้นเป็นผลให้คู่เงิน USDJPY ร่วงลงอย่างหนัก ก่อนที่จะผ่อนคลายช่วงแนวโน้มขาลงโดยระบุว่าจะไม่มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งติดต่อกัน อีกหนึ่งปัจจัยที่มีแนวโน้มที่จะท้าทายแรงเทขายคู่เงินเยนเช่นกันก็คือ ตัวเลขค่าดัชนี PMI ภาคการผลิตของญี่ปุ่นที่ตกต่ำที่สุดในรอบสองปี นอกจากนั้น ผู้ว่าการ BoJ Kazuo Ueda ที่ออกมากล่าวว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังลดลงอย่างรวดเร็วนั้นยังเป็นการท้าทายแรงเทขายคู่เงินเยนด้วยเช่นกัน

ในขณะที่ ตัวเลขค่าดัชนี PMI ของจีนที่ปรับตัวดีขึ้นร่วมกับการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐฯได้หนุนคู่เงิน AUDUSD กิจกรรมการผลิตของออสเตรเลียที่หดตัวในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ก็ได้ทดสอบช่วงแนวโน้มขาขึ้นของคู่เงิน AUDUSD ด้วยเช่นกัน ในช่วงเวลาเดียวกัน คู่เงิน NZDUSD ฟื้นตัวขณะที่เตรียมพร้อมสำหรับการร่วงลงรายสัปดาห์ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหกสัปดาห์ ในขณะที่ Adrian Orr ผู้ว่าการธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) และรองผู้ว่าการ Christian Hawkesby พยายามรักษาระดับอัตราดอกเบี้ยตามแนวทาง “higher for longer” หลังจากประกาศชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงต้นสัปดาห์

• สัญญาณซื้อแรง: USDCAD, USDJPY
• สัญญาณขายแรง: Crude Oil, US Dollar, GBPUSD
• สัญญาณซื้อ: BTCUSD, ETHUSD, Nasdaq, Gold
• สัญญาณขาย: DAX, FTSE 100, BTCUSD, AUDUSD, EURUSD

จับตามองการรายงานข้อมูลกิจกรรมเศรษฐกิจของสหรัฐฯ...

หลังจากที่ได้เห็นปฏิกิริยาที่น่าประหลาดใจต่อข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯที่มีทิศทางที่ดี เทรดเดอร์ทองคำจะหันไปให้ความสนใจกับการรายงานดัชนี S&P PMI และข้อมูลดัชนี ISM ประจำเดือนกุมภาพันธ์ของสหรัฐฯ นอกจากนี้ อีกปัจจัยหนึ่งที่ยังมีความสำคัญคือ แถลงการณ์จากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) โดยความเชื่อมั่นเชิงบวกเล็กน้อยนี้อาจจะคงอยู่ไปจนถึงปลายสัปดาห์ ท่ามกลางการขาดการรายงานข้อมูล/กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ซึ่งจะส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์มีแนวโน้มที่จะปิดตลาดในเชิงบวก แม้ว่าสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯมีแนวโน้มที่จะพลิกกลับจากการอ่อนค่าลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา

ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !