ทองคำแตะที่จุดต่ำสุดในรอบเดือนท่ามกลางความผันผวนของตลาด

ตลาดยังคงไม่มีทิศทางที่ชัดเจน แม้สถานการณ์จะเป็นบวกเล็กน้อยในช่วงหลัง ขณะที่นักลงทุนต้องต่อสู้กับความวิตกกังวลเรื่องความเสี่ยงการชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯและการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของ Fed ท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวนของสหรัฐฯ โดยสิ่งที่ส่งผลต่อท่าทีระมัดระวังของตลาดอาจเป็นความกังวลที่เกี่ยวข้องกับจีนและการขาดข้อมูล/เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญ

เมื่อตลาดอยู่ในสภาวะผันผวน นักลงทุนต่างสนับสนุนการพูดคุยเรื่องนโยบายการเงินที่แข็งกร้าวของ Fed และเร่งรีบหันมาใช้เงินดอลลาร์สหรัฐฯเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยซึ่งจะส่งแรงกดดันด้านลบต่อสินค้าโภคภัณฑ์และค่าเงิน AUD,NZD โดยที่ความผันผวนนี้เข้ามาแทนที่อัตราเงินเฟ้อของออสเตรเลียที่มีทิศทางบวกและส่งผลกระทบต่อคู่เงิน AUDUSD ในขณะที่คู่เงิน EURUSD พยายามรักษาระดับท่ามกลางสัญญาณการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดจาก ECB และ Fed ส่วนทางด้าน คู่เงิน GBPUSD ยังคงได้รับแรงกดดันที่ระดับต่ำสุดในรอบหลายเดือนท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร ส่วนทางด้าน คู่เงิน USDJPY ไม่ได้รับผลจากการปรับลดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรกระทรวงการคลังสหรัฐฯท่ามกลางความคิดเห็นเรื่องการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายจาก BoJ และทางการญี่ปุ่น

แม้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปิดลบ แต่หุ้นในเอเชียแปซิฟิกกลับขยับตัวสูงขึ้นในช่วงหลังนำโดยจีน และหุ้นในยุโรปและสหราชอาณาจักรก็ปิดทางบวกเล็กน้อยเช่นกันในช่วงชั่วโมงแรกของการซื้อขาย

ด้วยเหตุนี้ ราคาทองคำจึงร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบหกสัปดาห์ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบขยายการฟื้นตัวของวันก่อนหน้า

อีกทั้ง การซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลยังมีความผันผวนเนื่องจากการที่ผู้เล่นในอุตสาหกรรมผลักดันให้มีการอนุมัติ ETF ซึ่งตรงกันข้ามกับสัญญาออปชันของคริปโตรายใหญ่ที่จะหมดอายุในเดือนนี้

มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:

• น้ำมันเบรนท์ (Brent) ขยายการฟื้นตัวของวันก่อนหน้าที่ราวๆ $94.20 โดยเพิ่มขึ้น 0.65% ระหว่างวัน
• ทองคำ (Gold) ราคาทองคำร่วงลงติดต่อกันสามวันที่ราวๆ $1,896 ที่ระดับต่ำสุดในรอบหกสัปดาห์
• ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD INDEX) พุ่งสูงขึ้นติดต่อกันสี่วันที่ระดับสูงสุดในปี 2023 ที่ราวๆ 106.25
• ตลาดหลักทรัพย์ Wall Street ปิดลบแต่ หุ้นในโซนเอเชียแปซิฟิก ปรับตัวสูงขึ้นขณะที่ หุ้นในยุโรปและสหราชอาณาจักร พุ่งสูงขึ้นเล็กน้อย
• BTCUSD และ ETHUSD ผันผวนที่ราวๆ $26,200 และ $1,590 ตามลำดับ

ดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้นท่ามกลางความผันผวน

แม้จะมีความผันผวนและการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ แต่ยังไม่สามารถมองข้ามความกังวลที่เกี่ยวกับการชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯได้แม้ว่าดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) จะแตะที่ระดับสูงสุดในรอบปีก็ตาม และถึงแม้ว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภค US CB และยอดขายบ้านใหม่จะตกต่ำลง แต่การปรับตัวสูงขึ้นของค่าดัชนี S&P/CS Composite-20 HPI และดัชนีกิจกรรมการผลิตของ Richmond Fed ยังสนับสนุนนโยบายการเงินที่เข้มงวดของ Fed รวมถึงค่าดัชนี DXY ได้ โดยที่ในบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ที่สนับสนุนนโยบายการเงินที่เข้มงวดนั้น Neel Kashkari ประธาน Fed แห่งมินิอาโปลิสได้รับความสนใจอย่างมากเนื่องจากเขาส่งสัญญาณว่ามีโอกาส 40% ที่จะอัตราดอกเบี้ยจะ "สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ" ในขณะเดียวกัน Michelle Bowman ผู้ว่าการ Fed ได้เน้นย้ำถึงตัวเลขค่าเช่าที่สูงขึ้นเพื่อยืนยันถึงความจำเป็นในการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวด

ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่านักการทูตสหรัฐฯคอยอัปเดตเกี่ยวกับความคืบหน้าในทางบวกของข้อตกลงการขยายเพดานหนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการชัตดาวน์ของรัฐบาลและควบคุมความต้องการดอลลาร์สหรัฐฯในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ตลาดยังได้รับการกระตุ้นจากการที่ธนาคารขนาดใหญ่อย่าง Goldman Sachs และ JP Morgan เน้นย้ำถึงความเป็นไปได้ของการชัตดาวน์หลายต่อหลายครั้ง

อีกทางด้านหนึ่ง ความกังวลเกี่ยวกับปัญหาการชำระหนี้ของจีนเพิ่มมากขึ้นจากการที่ทางการจีนได้ควบคุมเจ้าหน้าที่ของบริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีปัญหาอย่าง Evergrande ซึ่งเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของประเทศ ซึ่งในอีกทางหนึ่งอาจเป็นการกระตุ้นความเชื่อมั่นและสร้างแรงกดดันด้านลบต่อราคาทองคำได้ ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีน (PBoC) กำลังเตรียมพร้อมดำเนินการมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและมาตรการอื่นๆเพื่อปกป้องการเติบโตของเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกซึ่งจะเป็นการช่วยหนุนความเชื่อมั่นให้กลับมาดีขึ้น นอกจากนี้ ผลกำไรภาคอุตสาหกรรมของจีนในเดือนสิงหาคมที่ปรับตัวสูงขึ้นยังท้าทายสภาวะการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงและแรงเทขายทองคำอีกด้วย

ในอีกทางหนึ่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมคริปโตบางส่วนและองค์กรภาครัฐบางแห่งยังผลักดันให้สำนักงาน ก.ล.ต. ของสหรัฐฯดำเนินการอนุมัติ SPOT ETF โดยเร็วขึ้น แต่ความกลัวต่อกฎระเบียบที่เข้มงวดยังส่งผลให้ BTCUSD และ ETHUSD ดีดตัวออกจากช่วงแนวโน้มขาขึ้น อีกหนึ่งสิ่งที่ท้าทายนักลงทุน Bitcoin และ Ethereum คือ Bitcoin and the Ethereum สัญญาออปชันของคริปโตจำนวนมากที่จะหมดอายุในเร็วๆนี้

• สัญญาณซื้อแรง: USDCAD
• สัญญาณขายแรง: ETHUSD, GBPUSD, Gold
• สัญญาณซื้อ: USD Index, Nasdaq, USDJPY
• สัญญาณขาย: DAX, FTSE 100, BTCUSD, AUDUSD, EURUSD

ปัจจัยที่เร่งปฏิกิริยาความเสี่ยงคือกุญแจสำคัญ

ปฏิทินเศรษฐกิจที่ยังไม่มีกำหนดการมากนักจะส่งผลให้นักลงทุนในตลาดยึดติดอยู่กับปัจจัยที่เร่งปฏิกิริยาความเสี่ยงเพื่อหาทิศทางที่ชัดเจนโดยข้อตกลงเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐฯและการพูดคุยของ Fed จะได้รับความสนใจอย่างมาก หากผู้กำหนดนโยบายของสหรัฐฯประกาศข้อตกลงก่อนวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ความเชื่อมั่นของตลาดอาจกลับมาดีขึ้นซึ่งอาจกระตุ้นให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลงด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ความวิตกกังวลเรื่องการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของ Fed ทำให้แรงเทซื้อดอลลาร์สหรัฐฯยังคงมีความหวัง

ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !