การประชุม FOMC บีบให้นักลงทุนยิ่งหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ขณะที่ BTC และ ETH เริ่มทรงตัว หลังดิ่งหนักสุดในรอบเดือน

ตลาดโลกเข้าสู่โหมดปิดรับความเสี่ยงอีกครั้งในวันพุธที่ผ่านมา รวมถึงช่วงต้นวันพฤหัสฯ นี้ ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ Wall Street ดิ่งเป็นวันที่สองติดต่อกันเนื่องจากปัญหาทางการเมืองวิกฤตยูเครน รวมถึงการประชุม FOMC ที่ออกมาในโทน Hawkish

หุ้นเอเชียยังคงอยู่ในแดนลบถึงแม้ IMF จะสนับสนุนนโยบาย Easy money ของแบงก์ชาติญี่ปุ่น (BOJ) โดยสาเหตุอาจเชื่อมโยงกับความกังวลขององค์กรในวอชิงตันทีมีต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นหลังจากการบุกรุกยูเครน อย่างไรก็แล้วแต่ หุ้นยุโรปปรับขึ้นเล็กน้อยในช่วงเริ่มต้นของรอบการเทรด

เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นจากระดับสูงสุดเดิมของหลายวันที่ผ่านมา ขณะที่ราคาทองคำไม่สามารถปรับตัวขึ้นได้ ส่วนน้ำมันเบรนท์ดีดตัวขึ้นจากระดับ Low เดิมของ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา

วานนี้ คริปโตฯ ร่วงหนักที่สุดในรอบหนึ่งเดือน ตามสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงไปติดๆ หลังคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ให้การสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและการปรับงบดุลให้เร็วขึ้นตามรายงาน FOMC ล่าสุด ภาระตกเป็นของ BTC และ ETH โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีข่าวเกี่ยวกับ Hydra และ Garantex เป็นปัจจัยลบสำคัญ

มาดูรายงานความเคลื่อนไหวของสินทรัพย์หลักต่างๆ วันนี้:

• น้ำมัน BRENT เป็นเทรนด์ขาลงติดต่อกัน 2 วัน กำลังทดสอบ ระดับ $102.00
• ทองคำ ยังคงน่าเป็นห่วง ณ ราคา $1,925
• ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD INDEX) กลับตัวจาก High เดิมในรอบ 3 เดือน สู่ระดับล่าสุดที่ $99.60
• ดัชนี DOW JONES, NASDAQ และ S&P 500 ยังคงอยู่ในขาลง
• ดัชนี DAX ปรับขึ้น 0.50% แตะ 14,170 ขณะที่ FTSE 100 อยู่ที่ระดับ 7,560 ปรับลง 0.40%
• BTC/USD ฟื้นตัวขึ้นที่ $47,480 ส่วน ETH/USD บวก 1.80% ขึ้นมาที่ $3,225

การคว่ำบารต่อเนื่อง และนโยบายการเงินที่เข้มงวดผลักภาระให้นักลงทุน

ความเชื่อมั่นของตลาดเริ่มแย่ลงวานนี้ เนื่องจากผู้นำเศรษฐกิจชาติตะวันตกแสดงความพร้อมที่จะดำเนินมาตรการคว่ำบาตรที่รุนแรงต่อรัสเซีย การปิดรับความเสี่ยงในตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายงานการประชุม FOMC ครั้งล่าสุด ซึ่งเสนอแนะให้ผู้เข้าร่วมให้ความร่วมมือในการเปลี่ยนไปใช้นโยบายปกติ "อย่างเร่งด่วน" ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่านเกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์และสถานการณ์โควิด-19 ในจีน ตลอดจนมุมมองที่น่าเป็นห่วงของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) สำหรับญี่ปุ่นเองก็ส่งผลต่อความเสี่ยงในตลาดเช่นกัน

ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับนโยบายการเงินที่เข้มงวดส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น และฉุดให้หุ้นดิ่งลง แน่นอนว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้ผลประโยชน์ไปเต็มๆ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อราคาทองคำก่อนที่การคงที่ครั้งล่าสุด ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันดิบได้ดีดตัวขึ้นจากการที่ชาติตะวันตกสั่งระงับการขนส่งน้ำมันของรัสเซีย รวมถึงการหยุดชะงักของข้อตกลงระหว่างสหรัฐกับอิหร่านเพื่อปลดล็อกการผลิตพลังงานที่มากขึ้น

อารมณ์ตลาดยังฉุดให้ BTC และ ETH ร่วงหนักสุดในรอบเดือนนี้ อีกปัจจัยที่สนับสนุนแรงขายในตลาดคริปโตมาจากข่าวการปิด Hydra เว็บตลาดมืดของรัสเซีย และการคว่ำบาตร Garantex

ความวิตกทำให้นักลงทุนเทความสนใจไปยังสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe-haven):

⏫ 🟢 สัญญาณซื้อแรง: DAX, FTSE 100

⏬ 🔴 สัญญาณขายแรง: DOW JONES, S&P 500

⏫ 🟢 สัญญาณซื้อ: USD Index, ETH/USD, Nasdaq

⏬ 🔴 สัญญาณขาย: Brent oil, Silver, Gold, BTC/USD

เหตุสำคัญทางเศรษฐกิจที่ลดน้อยลงอาจส่งผลให้ตลาดขาลงยืดเยื้อ

หากพิจารณาจากเหตุการณ์เศรษฐกิจที่เริ่มเบาบางในสัปดาห์หน้า ซึ่งรวมถึงรายงานยอดค้าปลีกในยูโรโซน และการจ้างงานในแคนาดาซึ่งเป็นตัวเลขที่ต้องจับตา คาดว่าตลาดโลกจะยังคงอยู่ในขาลงไปเรื่อยๆ ตลอดสัปดาห์นี้

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้สินทรัพย์ Safe haven ที่ทุกท่านคุ้นเคยกันดีอย่างเงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนไปเต็มๆ ซึ่งอาจเพิ่มแรงกดดันต่อราคาทองคำในขณะที่เงินเยนของญี่ปุ่นอาจยังคงอ่อนค่าท่ามกลางยีลด์ที่ยังแข็งค่าและปัญหาเศรษฐกิจของญี่ปุ่น

ในขณะเดียวกัน หุ้นและคริปโตอาจฟื้นตัวขึ้นได้หากการเจรจาสงบศึกระหว่างรัสเซียและยูเครนดำเนินไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

ทำกำไรจากความเคลื่อนไหวในตลาดด้วยระบบ Copy Trade ของ MTrading พร้อมเงื่อนไขชั้นนำ:

• สเปรด 0 สำหรับ EURUSD, GBPUSD, USDJPY, ทอง, โลหะเงิน และสินทรัพย์ยอดนิยมอื่นๆ
• แพลตฟอร์ม Copy Trade ที่น่าเชื่อถือที่สุด พร้อม Dashboard และการรายงานผลอย่างละเอียด
• มีนักเทรดมากฝีมือให้เลือกคัดลอกจำนวนมาก

คัดลอกการเทรดของนักเทรดมือโปรโดยอัตโนมัติแบบเรียลไทม์ ด้วยค่าสเปรด 0 ผ่านบัญชี M.Pro!

ขอให้ท่านโชคดีในการเทรด!