การพร้อมรับความเสี่ยงยังคงซบเซาในเช้าวันจันทร์ ขณะที่ นักลงทุนกำลังมองหาสัญญาณเพิ่มเติมเพื่อยืนยันแนวโน้มการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐฯในสัปดาห์ที่ผ่านมา ในสถานการณ์เดียวกันนี้ ตลาดยังคงแสดงความกังวลก่อนหน้าการประกาศดัชนีราคา PCE พื้นฐาน ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ให้ความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสัปดาห์ที่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจเบาบางและมีการรายงานข่าวสารในหลากหลายทิศทาง
ด้วยปัจจัยดังกล่าว เงินดอลลาร์สหรัฐฯจึงอ่อนค่าลงเป็นครั้งแรกในรอบสามวัน ส่งผลให้สกุลเงินหลัก รวมถึงสินค้าโภคภัณฑ์สามารถชะลอการร่วงลงประจำสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะน้ำมันดิบที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ และจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ลดลง รวมทั้งยังได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐฯอีกด้วย
อีกทางด้านหนึ่ง คู่เงิน EURUSD และคู่เงิน GBPUSD ดีดตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดในรอบหลายวัน แต่คู่เงิน USDJPY กลับมีทิศทางที่ไม่ชัดเจนนักในการขยายการร่วงลงจากจุดสูงสุดในรอบหลายเดือนเมื่อวันศุกร์ ท่ามกลางการรายงานข่าวสารในทิศทางที่หลากหลายจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) และผลตอบแทนพันธบัตรที่ซบเซา
นอกจากนี้ ราคาทองคำยังฟื้นตัวขึ้นจากเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอกซ์โพเนนเชียล (EMA) 10 วัน โดยยุติการร่วงลง 2 วันติดต่อกัน ขณะที่ คู่เงิน AUDUSD และคู่เงิน NZDUSD ยังขาดแรงหนุนในการฟื้นตัว แม้จะพยายามต่อต้านแนวโน้มขาลง
ทางฝั่งของ BTCUSD และ ETHUSD ยังขาดทิศทางที่ชัดเจนหลังจากแนวโน้มขาลง 2 สัปดาห์ ท่ามกลางความลังเลของนักลงทุนคริปโตที่ราคาสูงสุดในรอบหลายเดือน
มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:
ประธาน Fed Jerome Powell ยังหนุนการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของ FOMC และการอ้างถึงความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่ส่งผลให้ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) แข็งค่าขึ้นเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกันจนถึงช่วงปิดตลาดวันศุกร์ อย่างไรก็ตาม Powell ได้ออกมากล่าวว่า ผู้กำหนดนโยบาย (FOMC) คาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปลายปีนี้ แต่จะลดก็ต่อเมื่อมั่นใจว่าเงินเฟ้ออยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว ในขณะเดียวกัน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯแห่งแอตแลนตา Raphael Bostic ก็ปรับลดการคาดการณ์ของตัวเองลงจากเดิมที่คาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปี 2024 เหลือเพียงครั้งเดียว
แม้ความเข้มงวดในการดำเนินนโยบายการเงินประกอบกับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่มีทิศทางเป็นบวกจะช่วยให้ช่วงแนวโน้มขาขึ้นของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯมีความหวัง แต่ค่าเงินยูโรกลับไม่ได้รับแรงหนุนจากข้อมูลความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนี (German IFO) ที่ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ดูเหมือนจะยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับการชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา Christine Lagarde ประธาน ECB และหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ Philip Lane ได้ระบุถึงความพร้อมที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายปี 2024 แต่ Edward Scicluna ผู้กำหนดนโยบายกลับออกมากล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า แนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยโดยเร็วที่สุดอาจเกิดขึ้นในเดือนเมษายนอาจเป็นไปได้
ในอีกทางหนึ่ง ข่าวที่มีการระบุว่าธนาคารรายใหญ่ของจีนได้ขาย USDCNY ส่งผลให้การพร้อมรับความเสี่ยงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกปรับตัวดีขึ้น และยังช่วยหนุนตลาดสินค้าโภคภัณฑ์และค่าเงิน AUD,NZD ในขณะเดียวกัน ความคิดเห็นของนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และรองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของจีนเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยเป็นผลให้การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจของจีนเป็นไปในทิศทางที่ดี
นอกจากนี้ รายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) ในเดือนมกราคมยังแสดงให้เห็นว่า BoJ ไม่น่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงเหมือนประเทศตะวันตก แต่มีความเป็นไปได้ที่ BoJ จะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ ซึ่งจะส่งผลให้คู่เงิน USDJPY ขยายการร่วงลงในวันศุกร์จากระดับสูงสุดในรอบหลายเดือน
ในอีกทางหนึ่ง ความตึงเครียดทางการเมืองที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลางและความพยายามของผู้ผลิต OPEC+ ในการผลักดันให้มีการลดอุปทานมากขึ้น ส่งผลให้แท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐฯลดลง ซึ่งถือเป็นสัญญาณเชิงบวก และมีส่วนช่วยให้ราคาพลังงานฟื้นตัวดีขึ้น หลังจากที่ราคาร่วงลงติดต่อกันสามวัน
ตลาดเริ่มต้นสัปดาห์สำคัญอย่างซบเซา ขณะที่ นักลงทุนจะจับตาดูยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐอเมริกาและความคิดเห็นจาก Bostic ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯ ข้อมูลเหล่านี้อาจทำให้ดอลลาร์สหรัฐฯมีแนวโน้มอ่อนค่าลงต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ข้อมูลที่สำคัญที่สุดในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯ ตัวเลข GDP ไตรมาส 4 สุดท้าย และดัชนีราคา PCE พื้นฐาน ซึ่งเป็นข้อมูลเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐฯให้ความสำคัญ โดยข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้มองเห็นทิศทางของตลาดได้ชัดเจนขึ้น หากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่จะประกาศออกมานั้นไม่สนับสนุนความกังวลเรื่องภาวะเงินเฟ้อที่อาจจะปรับลดลงและตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งขึ้น Fed อาจจะเลื่อนการปรับลดดอกเบี้ยออกไป ซึ่งจะส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐฯคงการแข็งค่าขึ้น
ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !